27 ก.พ. 2567 ไทยรัฐทอล์ก มีโอกาสได้เดินทางไป วิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งภายในตัววิหารเป็นที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมจำลองแบบ มาจากหอบูชาฟ้าหรือหอสักการะฟ้าเทียนถาน ในกรุงปักกิ่ง
โดยเมื่อเดินทางไปถึง ไทยรัฐทอล์ก เราได้พบกับผู้นำไหว้เป็นหมอดูชื่อดัง หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ที่เดินทางมาเป็นผู้นำไหว้ ให้กับเราครั้งนี้ พร้อมทั้งไปสักการะ องค์ท้าวมหาพรหม ณ พรหมสถาน สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี โดยหมอช้างแนะนำว่า การสักการะองค์พระพรหมที่ถูกต้อง ต้องเดินไหว้ครบทั้ง 4 พักต์ของพระพรหม เพื่อขอความเป็นสิริมงคลตามหลักพรหมวิหารสี่ นั่นเอง
จากนั้นเราค่อยไปสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิมกันต่อ โดยเมื่อเดินทางถึงวิหารดังกล่าว ถึงแม้แดดจะร้อน แต่ก็ยังมีลมอ่อนๆ เบาๆ และเราทึ่งไปกับความสวยของวิหารสถาน แบบลืมความร้อนกันไปเลยทีเดียว และเมื่อไปถึงได้มี คุณธนินธร โชควัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและธรรมาภิบาล บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้เล่าถึงวิหารสถานแห่งนี้ให้เราฟัง และเริ่มทำพิธีสักการะพร้อมกันทันที
...
วิหาร อี่ ทง เทียน ไท้
วิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ ภายในวิหาร ตัววิหารเป็นที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมจำลองแบบมาจากหอบูชาฟ้า หรือหอสักการะฟ้าเทียนถาน ในกรุงปักกิ่ง ที่จักรพรรดิราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ซิง ใช้เป็นสถานที่บวงสรวงเทพยดาเพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล
โดยออกแบบผังอาคารวิหารเป็นวงกลมตามอาคารต้นแบบ หลังคาซ้อน 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว ซึ่งเป็นกระเบื้องหลังคาโซลาร์เซลล์ที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษชนิดฟิล์มบางประกบด้วยกระจกเทมเปอร์ 2 ชั้น วิหารประกอบด้วยชั้นใต้ดิน และชั้นโถงประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม โดยชั้นใต้ดินจะมีเสาทั้งหมด 25 ตัน และชั้นโถงจะมีเสาทั้งหมด 24 ต้น เรียงรายรอบอาคารวิหาร
โดยแบ่งเป็นวงใน 12 ต้น มีความหมายถึงเดือนทั้ง 12 เดือน และวงนอก 12 ต้น หมายถึงเวลา 12 ชั่วยาม ฝ้าเพดานเป็นรูปมันดาลา หรือ "มณฑล" ในภาษาไทย ซึ่งมีความหมายในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน (ทิเบต) ถึงมณฑลศักดิ์สิทธิ์แห่งการตรัสรู้ ภายในวิหารโดยรอบยังมีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆ 11 ปาง ด้านบนติดตั้งเสาล่อฟ้า เป็นสัญลักษณ์แทนการดึงพลังงานจากฟ้ามายังผู้มีจิตศรัทธาที่มาสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม
นอกจากนี้ ทั้งภายในและภายนอกวิหาร ยังประดับประดาไปด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและภาพเขียนต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์มงคล สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ความบริสุทธิ์ ความเจริญ ยกตัวอย่างเช่น ตัวอักษรมงคล ที่ประดับเรียงรายบนแผงกันตกรอบระเบียงวิหาร เป็นต้น วิหาร "อี่ ทง เทียน ไท้" เริ่มก่อสร้าง ในปี 2558 โดยได้มีการย้ายและประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมเข้าในวิหาร เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 และได้ประกอบพิธีสมโภชใหญ่ไปแล้วในวันที่ 24-25 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
...
ความเชื่อ พระโพธิสัตว์กวนอิม
องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เทพเจ้าองค์ประธานของวิหารแห่งนี้ คือองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพรประทับยืนบนหลังพญามังกรที่เวียนว่ายอยู่กลางมหาสมุทร มือถือแจกันประทานน้ำอมฤต น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และกิ่งหลิว องค์พระแกะสลักจากหยกขาวชิ้นใหญ่ ที่ได้มาจากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า แกะสลักโดยช่างชาวจีน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมมีความสูง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน ฐานบัวสูง 0.45 เมตร หนัก 0.78 ตัน ฐานมังกรสูง 1.02 เมตร หนัก 4.95 ตัน และฐานแปดเหลี่ยมสูง 0.91 เมตร หนัก 5.9 ตัน
แหล่งท่องเที่ยว สิ่งยึดเหนี่ยวใจ กว่าจะเป็น "เจ้าแม่กวนอิม" ปางประทานพร
ประวัติความเป็นมา มีผู้พบหยกขาวขนาดใหญ่ที่เหมืองในป่าลึกในเขตเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า จึงชักลากโดยช้างและรถยนต์เพื่อนำไปส่งให้กับช่างชาวจีนที่ปักกิ่ง เพื่อแกะสลักเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จากนั้นจึงได้ติดต่อมายังคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ว่าต้องการมอบองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากหยกขาว
...
เมื่อแกะสลักเรียบร้อย ได้เดินทางมายังประเทศไทยโดยลงเรือเดินทะเลมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ทางมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และคุณบุณยสิทธิ์ ได้อัญเชิญองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไปประดิษฐานชั่วคราว ณ พรหมสถาน เครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี ก่อนจะเริ่มสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในปี 2558
เหตุผลของการสร้างวิหาร คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่แล้ว เมื่อได้รับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากหยกขาวชิ้นใหญ่ จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่ด้านหน้าพระพรหม ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี โดยองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ประดิษฐานอยู่ ณ ที่นั่นนานถึง 3 ปี ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐานที่ศาลาชั่วคราวด้านหน้าวิหาร
โดยคุณบุณยสิทธิ์จะได้รับแรงบันดาลใจที่จะสร้างวิหาร หลังเดินทางกลับจากปักกิ่ง และรู้สึกประทับใจในความงดงามของหอบูชาฟ้าเทียนถาน จึงได้จำลองแบบมาสร้างที่กบินทร์บุรี โดยกันพื้นที่ด้านหน้าสวนอุตสาหกรรมไว้ประมาณ 4 ไร่ สำหรับการก่อสร้างวิหาร "อี่ ทง เทียน ไท้"โดยใช้เงินส่วนตัวและเงินบริจาคจากผู้มีความศรัทธาที่ร่วมแรงร่วมใจกันจนสร้างวิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ สำเร็จในที่สุด
ส่วนตัวคุณบุณยสิทธิ์เห็นว่าองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมมีคนเคารพนับถือและกราบไหว้บูชาไม่แต่เฉพาะคนไทย แต่คนจีนและคนไต้หวัน หรือคนแถบเอเชียก็รู้จัก นอกจากนี้ เส้นทางกบินทร์บุรีก็มีชาวต่างชาติเดินทางผ่านและแวะเข้ามาสักการะจำนวนหนึ่ง เนื่องจากจุดที่ประดิษฐานอยู่ริมถนน รถที่ขับผ่านไปมาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
จึงมีดำริว่าควรต้องมีการสร้างวิหารให้เหมาะสมและสวยงาม เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกบินทร์บุรีได้ในที่สุดและเพื่อให้ชาวกบินทร์บุรีได้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน ทำสมาธิ และเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ และคุณบุณยสิทธิ์เล่าว่า ตั้งแต่ได้พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้มา ทำอะไรก็ราบรื่น ขออะไรส่วนใหญ่ก็ได้ตามที่ต้องการ
...
โดยไทยรัฐทอล์กได้มีการสอบถามต่อว่า เวลาเปิดปิดกี่โมง และถ้าหากอยากเดินทางมาช่วงไหว้ทำพิธียืมเงินเจ้าแม่กวนอิม 6 มีนาคม 2567 สามารถมาที่นี่ได้หรือไม่ โดยหมอช้างเปิดเผยแทนว่า หากสะดวกและอยากจะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ก็สามารถเดินทางมาได้ และคนบ้านใกล้เรือนเคียงบริเวณนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถมาได้เช่นกัน โดยมาไหว้ขอพรที่เจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพรแห่งนี้
ปัจจุบันวิหารเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 -19.00น. (ภายในวิหาร) และสามารถเยี่ยมชมภายนอกวิหารได้จนถึงเวลา 20.00 น. ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
นอกจากนี้ วิหารกวนอิม "อี่ ทง เทียน ไท้" มีการกำหนดวันสักการะประจำปีไว้คือวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และมีการจัดกิจกรรมตามวันสำคัญและเทศกาลต่างๆ เช่น การจัดพิธีสวดมนต์ถวายแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม และงาน "แขวนโคม ขอพร ปีมังกร สุขสันต์"ในเทศกาลตรุษจีน ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม : พิธีขอยืมเงิน "เจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ 2567" ฤกษ์ดีหนึ่งปีมีครั้งเดียวห้ามพลาด
ผู้เขียน : ไทยรัฐทอล์ก