มีหลายท่านบ่นกันมามากว่า ทำไมผมถึงได้นำเสนอพระมูลค่าหลัก สิบล้าน ร้อยล้านบาททั้งนั้น เป็นอะไรที่หลายท่านบอกว่าเกินเอื้อมและรู้สึกว่ายากที่จะหาพระเครื่องดีๆ มาคุ้มครองตนเองและครอบครัว
วันนี้ กฤษณ์ คอนเฟิร์ม จะมาแนะนำพระเครื่องที่ค่านิยมเช่าหาอยู่เพียง 10,000 ถึง 30,000 บาท แต่พุทธคุณเทียบเท่าราคา 30,000,000 บาทกันเลยทีเดียว
พระกลีบบัว อรหัง
สำหรับพระเครื่องของดีราคาถูกที่จะมาแนะนำทุกท่านในวันนี้ก็คือ พระกลีบบัวอรหัง จัดสร้างโดยหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลน ก่อนอื่นต้องขอกล่าวว่าพระเครื่องของหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน นี้ที่ดังมากๆ และถือว่าเป็นเหรียญเกจิที่แพงที่สุดในวงการพระเครื่องก็ว่าได้เพราะว่าเหรียญหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนรุ่นแรกสภาพสวยแชมป์กะไหล่ทองเต็มเหรียญของ บอย ท่าพระจันทร์ นั้นเสนอราคาค่านิยมสูงลิบลิ่วถึง 30 ถึง 50 ล้านบาทกันเลยทีเดียว
ซึ่งต้องบอกว่าจัดเป็นพระที่มีมูลค่าสูงอันดับต้นๆ ของวงการหรือแม้แต่พระปิดตาของหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนราคาปัจจุบันก็ต้องว่ากันที่หลายๆล้าน สวยๆ มีการเช่าหากัน ในราคาเกือบสิบล้านบาทมาแล้ว
...
แต่เดี๋ยวก่อนยังมีพระเครื่องอีกชนิดหนึ่งที่อาจกล่าวได้ว่าหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนได้จัดสร้างและปลุกเสกนานที่สุดในบรรดาพระเครื่องของท่านทั้งหมด แต่สนนราคาค่านิยมอยู่เพียง 10,000 ถึง 30,000 บาทเท่านั้นซึ่งนับว่าเป็นของดีราคาถูกที่เล่นหาง่าย ของปลอมมีน้อยและเป็นพระที่มีประวัติการสร้างที่ชัดเจนและยังเป็นพระที่หลวงปู่ไข่ได้ปลุกเสกนานที่สุดในบรรดาพระเครื่องของท่านทั้งหมดด้วย
จึงนับได้ว่าท่านไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินหลักล้าน หลักสิบล้านในการจะเช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ไข่มาแขวนแต่ท่านสามารถเช่าหาได้ในราคาเพียงหลักพันหลักหมื่นเท่านั้น แถมพระชุดนี้ยังมีมาตรฐานสามารถส่งออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยและทุกสถาบันที่มีการออกใบรับรองพระแท้ รวมถึงงานประกวดพระเครื่องทั่วประเทศได้ด้วย
พุทธคุณ พระกลีบบัว อรหัง ครอบจักรวาล
ประวัติการสร้างของพระกลีบบัวหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนนี้ ในช่วงปี 2470 ลูกศิษย์ได้ขอให้ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลที่เป็นพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก และเหรียญรุ่นแรก จนเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปลายปี 2470 หลวงปู่ไข่ก็ได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินเผาเคลือบ ที่เรียกกันว่าพระกลีบบัวอรหัง ซึ่งทางวัดเชิงเลนและลูกศิษย์ได้ขออนุญาต จัดสร้างขึ้น และขออนุญาตหลวงปู่ไข่ในการสร้างครั้งนี้
ในการสร้างนั้นได้จัดสร้างจำนวนมากเพื่อให้พอแจกจ่ายแก่ผู้ที่เคารพศรัทธา ในตัวหลวงปู่ พระกลีบบัวอรหังนี้ท่านได้ปลุกเสกนานถึง 5 พรรษาด้วยกัน นับว่านานมากๆ ถ้าเทียบกับพระเครื่องชนิดอื่นของท่านที่สร้างแล้วแจกในทันที
จึงเชื่อมั่นพุทธคุณได้ว่า สุดยอดครอบจักรวาล ทั้งเมตตา มหานิยม โภคทรัพย์ แคล้วคลาด โชคลาภ ครบถ้วนในองค์เดียว ในปัจจุบันพระกลีบบัวนี้ยังพอหาเช่าได้ สนนราคาหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ซึ่งย่อมเยากว่าพระเครื่องอื่นๆ ของท่านมากๆ เนื่องจากสมัยก่อนมีจำนวนมากหาได้ไม่ยากนัก และไม่ค่อยมีใครรู้จักกันแพร่หลายนัก
โดยสรุปว่าพระกลีบบัวนี้ จัดสร้างประมาณปี พ.ศ. 2470 เป็นพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบได้งดงามมาก .. พิมพ์ทรงเป็นรูปหยดน้ำ มีปีกเนื้อล้นโดยรอบ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธ ปางสมาธิราบ เส้นรัศมีโดยรอบองค์ ประทับนั่งอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย 11 กลีบ ใต้บัวเป็นตัวอักขระขอม
"อะระหัง" .. ด้านหลังบนสุดเป็นยันต์อุณาโลม ตรงกลางเป็นยันต์ดอกบัวบรรจุอักขระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ เป็นภาษาขอม "นะ โม พุท ธา ยะ"
องค์พระอรหังกลีบบัว เคลือบด้วยน้ำยาหนาบางแตกต่างกัน นำไปเผาไฟแรงสูงจนเนื้อเคลือบแข็งมาก ส่วนมากมีรานในผิวน้ำยาทุกองค์ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อีก ของปลอมทำไม่ได้
พระชุดนี้ .. มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ องค์ที่ไม่เคลือบจะมีสีขาวและสีส้มอมชมพู ส่วนพระที่ทาเคลือบมีหลายสี เช่น เคลือบเหลือง เคลือบเขียว เคลือบฟ้า ฯลฯ และมีหลายเฉดทั้งอ่อนและเข้ม
สำหรับท่านที่มีความเคารพศรัทธาใน หลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดเชิงเลน ไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาแต่ของแพงๆ เช่น พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก หรือ เหรียญรูปเหมือนของท่าน ซึ่งมีราคาเป็นล้านไปแล้ว แถมยังมีของเก๊ระบาดมากกว่าของแท้
...
แนะนำให้หันมาสะสมพระกลีบบัวอรหัง พุทธคุณไม่แตกต่าง แต่ราคาถูกกว่ากันมาก และยังพอหาสีที่ชอบและสภาพเหมาะสมราคาได้ไม่ยากนัก เมื่อคราววัดบพิตรภิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน) จัดตั้งมูลนิธิหลวงปู่ไข่ เพื่อสงเคราะห์ทุนการศึกษาสำหรับเด็กกำพร้า สำหรับผู้บริจาคเงินร่วมทำบุญจำนวน 30,000 บาทขึ้นไปจะได้รับ "พระกลีบบัวอรหัง" เลี่ยมจับขอบทองเป็นการสมนาคุณจากทางวัด 1 องค์)
หลวงปู่ไข่ อินทสโร ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2475 เวลา 13.25 น. รวมอายุได้ 74 ปี พรรษา 54
พระชุดนี้ผมขอทำนายว่าในอีกไม่นานเกินรอท่านจะได้เห็นว่า ค่านิยมพระชุดนี้จะไปถึงองค์ละแสนถึงหลายแสนบาทในเร็ววันนี้แน่นอน ถ้าท่านไม่รีบสะสมไว้ตอนนี้จะหาว่าผมไม่บอกนะครับ รู้อะไรไม่สู้รู้งี้ เชื่อผมเถอะครับ
ผู้เขียน : กฤษณ์ คอนเฟิร์ม