“คู่ครอง” หรือ “คนรัก” ตามความเชื่อทางพุทธศาสนาคือผู้ที่มีศีลเสมอกัน หมอดูบางคนบอกว่า หากคู่ที่อยู่ด้วยกัน ดูท่าจะไปไม่รอด เวลาอยากทำบุญอะไรก็ควรต้องแยกไปทำ เพื่อให้ศีลไม่เสมอกันแล้วจะแยกกันได้ขาด ไม่ทะเลาะกันจนบานปลาย ส่วนคู่ที่เพิ่งคบหากัน อยากจะรู้ว่าอีกคนหนึ่งเหมาะสมกับตนหรือเปล่า ตามความเชื่อของหลักโหราศาสตร์ การผูกดวงคือการใช้วิธียึดตามคัมภีร์สุริยยาตร์ด้วยเวลาเกิด กับ ลัคนาของคู่รักมาดูความสมพงศ์กันหรือไม่

การผูกดวงคู่รัก ตามหลักสุริยยาตร์ ใช้ “ลัคนา” เทียบกับ “วันและเวลาจร” ของทั้งสองฝ่ายมาดูคู่กัน

  • ลัคนา คือ จุดของฟ้าที่ทิศตะวันออกในเวลาที่เกิด โดยใน 1 วัน มี 24 ชั่วโมง แบ่งได้ 12 ราศี ราศีละ 2 ชั่วโมง
  • วันจร คือ วันและเวลาที่ต้องการทำนาย ซึ่งในหนึ่งช่วงชีวิตของคนเราก็เจอกับเหตุการณ์ไม่เหมือนกัน

เมื่อทราบ “ลัคนา” และ “วันเวลาจร” ก็จะทำนายดวงชะตาได้อย่างคร่าวๆ คำว่า “ผูกดวง” หมายถึง เอาดวงจากดาวที่ดูจากวันเกิดของคู่รัก มาเขียนบนแผ่นโลหะ หรือกระดาษ มาผูกกัน แล้วนำไปทำพิธีตามความเชื่อของโหราศาสตร์แต่ละสำนัก

...

ความหมายของลัคนาทั้ง 12 ภพ ได้แก่

  • ภพที่ 1 เรียกว่า ตนุ หมายถึง ตัวตนของเจ้าชะตา วาสนา ความเป็นอยู่
  • ภพที่ 2 เรียกว่า กฎุมภะ หมายถึง มรดก
  • ภพที่ 3 เรียกว่า สหัชชะ หมายถึง มิตร เพื่อนฝูง
  • ภพที่ 4 เรียกว่า พันธุ หมายถึง พ่อแม่ ญาติ ความมั่นคงในอนาคต
  • ภพที่ 5 เรียกว่า ปุตตะ หมายถึง บริวาร การเกิดใหม่
  • ภพที่ 6 เรียกว่า อริ หมายถึง ศัตรู อุปสรรค
  • ภพที่ 7 เรียกว่า ปัตนิ หมายถึง เพศตรงกันข้าม คู่ครอง
  • ภพที่ 8 เรียกว่า มรณะ หมายถึง การสูญเสีย ความเศร้าโศก
  • ภพที่ 9 เรียกว่า ศุภะ หมายถึง ผู้อุปถัมภ์ ที่พึ่ง ชีวิตหลังแต่งงาน ชื่อเสียง เกียรติยศ
  • ภพที่ 10 เรียกว่า กัมมะ หมายถึง อาชีพ การงาน กรรมเก่า
  • ภพที่ 11 เรียกว่า ลาภะ หมายถึง ความสำเร็จ ความสมหวัง
  • ภพที่ 12 เรียกว่า วินาศ หมายถึง ความเสื่อม ความวิบัติ

เมื่อนำพื้นดวงให้หมอดูหรือโหราจารย์พิจารณาโดยละเอียดแล้ว ก็จะทราบลักษณะของเจ้าของพื้นดวง บางคนเกิดในเดือนนั้น แต่ลัคนาไปสถิตในราศีอื่น หากจะดูให้ถูกต้องแม่นยำ ต้องให้ผู้ที่เชี่ยวชาญในการแปลความหมายดู “ลัคนา” ให้ แต่สามารถอ่านค่าราศีคร่าวๆ ได้ดังนี้

ความหมายของราศีทั้ง 12 ดังนี้

  • ราศี 0 ชื่อราศี “เมษ” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างเพรียว ผอมบาง หน้าเสี้ยม ผิวดำแดง
  • ราศี 1 ชื่อราศี “พฤษภ” รูปร่างเจ้าชะตา สูงโปร่ง ล่ำสัน หน้ารูปไข่ หน้าผากกว้าง
  • ราศี 2 ชื่อราศี “เมถุน” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างท้วม มือหรือเท้าอูม คางคม ผิวสองสี
  • ราศี 3 ชื่อราศี “กรกฎ” รูปร่างเจ้าชะตา ลำตัวแบน หัวหลิม มือเท้ายาว
  • ราศี 4 ชื่อราศี “สิงห์” รูปร่างเจ้าชะตา จมูกโด่งใหญ่หรือแหลม หน้ากลม รูปร่างสันทัด
  • ราศี 5 ชื่อราศี “กันย์” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างบอบบาง อ้อนแอ้น
  • ราศี 6 ชื่อราศี “ตุล” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างท่อนบนท่อนล่างเท่ากัน เหมือนไม่มีเอว สมส่วน ผิวดำหรือผิวแดง
  • ราศี 7 ชื่อราศี “พิจิก” รูปร่างเจ้าชะตา มักสูง เอวคอด ก้นงอน คอสั้น ลงพุง รูปร่างใหญ่
  • ราศี 8 ชื่อราศี “ธนู” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างผอม ลำตัวยาวกว่าส่วนอื่น หลังงอโค้ง ผิวสองสี ลำตัวกลม
  • ราศี 9 ชื่อราศี “มังกร” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเชิด ผิวสองสี ผิวดำ หรือดำแดง
  • ราศี 10 ชื่อราศี “กุมภ์” รูปร่างเจ้าชะตา รูปร่างค่อนข้างอ้วนท้วม หัวล้านหรือหัวเถิก หน้าผากกว้าง ผิวค่อนข้างดำ
  • ราศี 11 ชื่อราศี “มีน” รูปร่างเจ้าชะตา มักมีรูปร่างเตี้ย ลำตัวแบน นัยน์ตาพอง ผิวขาวเหลือง

ตามความเชื่อการผูกดวงลัคนาด้วยวิธีนี้ เมื่อเทียบพื้นดวงของแต่ละฝ่ายก็จะทราบได้คร่าวๆ ว่าเป็นเนื้อคู่กันหรือไม่ หากไม่ตรงไม่พ้องกัน โหราจารย์ก็อาจจะเขียนดวงให้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดใหม่ แล้วนำมาผูกกัน แล้วนำวัตถุนั้นไปวางไว้ใต้ฐานพระให้ท่านคุ้มครองดูแลให้

...

อย่างไรก็ดี การครองคู่กันนั้นตามพุทธศาสนาใช้หลัก ฆราวาสธรรม 4 คือ ความจริงใจ, การปรับปรุงตัวเอง, ความอดทน และความเสียสละ รวมถึงธรรมอื่นๆ ที่ให้คนสองคนอยู่ร่วมกันได้ด้วยการเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นคนที่เหมาะสมกับคู่ครอง แต่หากอยู่ด้วยกันแล้วไม่ดี อย่างที่พระท่านว่า “ศีลไม่เสมอกัน” ต่อให้ผูกดวงไปก็หย่าร้างกันอยู่ดี.