เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ กับการจัดฮวงจุ้ยออฟฟิศ ให้ก้าวหน้าและรุ่งเรือง สไตล์ อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ซินแสฮวงจุ้ยระดับโลก เซ็กชั่น horoscope ไทยรัฐออนไลน์ เปิดมาให้ดูกันมีอะไรบ้าง

1.หน้าออฟฟิศต้องรับกระแสพลัง

ด้านหน้าควรมีสภาพคึกคัก มองเห็นผู้คนหรือรถยนต์ที่ผ่านไปมาได้จากไกลๆ สามารถมองเห็นประตูทางเข้าด้านหน้าของสำนักงาน

(โดยซินแสที่เชี่ยวชาญจะเป็นผู้กำหนดจุดของประตูให้รับกระแสพลังได้สูงที่สุด)

โดยหากเป็นออฟฟิศในอาคารขนาดใหญ่ ห้องที่ใกล้กับโถงลิฟต์ถือเป็นชัยภูมิที่ดี เพราะลิฟต์จะมีสภาพเป็นสิ่งที่กระตุ้นความคึกคักและพาลูกค้ามาติดต่อเราได้สะดวก ถ้าอยู่ตำแหน่งที่ลูกค้าสามารถมองเห็นทันทีเมื่อออกจากลิฟต์ก็ยิ่งดี

(หนังสือฮวงจุ้ยทั่วไปมักบอกว่าห้ามตรงกับลิฟต์ ซึ่งผิดนะครับ !!!)

2.ประตูทางเข้ามีสภาพเป็น “หยาง”

ทางเข้าออกของที่ทำงานเปรียบได้กับปากที่จะกินโชคลาภ ดังนั้นนอกจากจะต้องสว่างมากๆ เพื่อดึงกระแสพลังเข้า ต้องไม่มีวัตถุสิ่งของบังหรือขวางบริเวณประตู ไม่ว่าจะทั้งด้านนอกหรือด้านใน

ส่วนขนาดของประตูทางเข้านั้นให้พิจารณาตามสัดส่วนของพื้นที่ ถ้าออฟฟิศพื้นที่ใหญ่มาก ประตูก็ควรมีขนาดกว้างขวางเพียงพอด้วย เพื่อให้รับกระแสโชคไปหล่อเลี้ยงสถานที่ได้อย่างทั่วถึง โดยจะต้องพิจารณาถึงองศาทิศทางของประตูที่เจริญรุ่งเรืองของยุค และการเข้ากับดวงชะตาของเจ้าของด้วย

3.แสงสว่างเพียงพอ

แสงสว่างเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับอาคารสำนักงาน เพราะแสงสว่างมีสภาพเป็นหยาง สามารถสร้างความคึกคักให้ผู้คน และทำให้พนักงานขยันขันแข็งตลอดเวลา จึงแนะนำให้ตกแต่งสำนักงานด้วยไฟจำนวนมากๆ อย่าไปกลัวเปลืองไฟ

...

โถงทั้งด้านนอกหรือด้านใน เรียกว่า "เหม่งตึ๊ง" หรือ โถงรุ่งโรจน์ ต้องสว่างเป็นพิเศษ แต่งให้สวยมีพลัง ป้ายใหญ่สวยสะดุดตา

ส่วนจะใช้สีสันอะไร วัสดุแบบไหน ซินแสต้องกำหนดให้สอดคล้องกับพลังขององศาทิศทาง ซึ่งจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเรื่องโชคลาภ

(บริเวณโถงและจุดทำงาน ให้ใช้โปรแกรมวัดแสง ให้ได้ความสว่าง 400-500 Luxs โปรแกรมชื่อ Light Sensor ซึ่งโหลดได้ฟรี ส่วนไอโฟนชื่อ Lux Sensor)

ทั้งนี้ให้ระวังตำแหน่งไฟเพดาน อย่าให้ส่องตรงลงศีรษะ เพราะจะทำให้พลังโฟตอนของแสงยิงใส่นานๆ จะเกิดอาการปวดหัวตามมา

4.ตำแหน่งนั่งหันทางเดียวกัน

การนั่งทำงานในห้องรวม ขอแนะนำว่าให้ทีมงานส่วนใหญ่หันหน้าในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดกระแสพลังความคิดเห็นไม่ตรงกันจนเกิดความขัดแย้ง เสมือนการจัดกองทัพ โดยให้หัวหน้านั่งด้านหลังสุด

ผนังห้องด้านหลังต้องมีสภาพทึบ นิ่ง สงบ ซึ่งจะทำให้จิตของผู้นั่งสงบ มีสมาธิ ทั้งนี้ไม่ควรมีกระจกใสอยู่ทางด้านหลัง มิฉะนั้นความลับก็จะเก็บไว้ไม่อยู่ ลองนึกถึงการนับเงินจำนวนมากๆ แล้วไม่เห็นคนมาจากด้านหลัง หรือเปิดหน้าจอข้อมูลทิ้งไว้ แล้วคนอื่นผ่านมาเห็นก็จะเกิดผลเสียหายกับเรา

ตำแหน่งนั่งของหัวหน้าต้องไม่มีทางให้คนเดินผ่านทางด้านหลัง ส่วนลูกน้องตามสายบังคับบัญชาก็นั่งลดหลั่นกันตามมา ให้ผู้บังคับบัญชาสามารถมองเห็นการทำงานของลูกน้อง โดยให้พนักงานที่ต้องพบปะติดต่อผู้คนจำนวนมาก เช่น งานเอกสาร หรืองานขายอยู่ใกล้กับบริเวณประตูหน่อย ส่วนฝ่ายที่ต้องนั่งประจำนานๆ ให้อยู่ด้านใน แต่ที่สำคัญที่สุดคือทีมงานทุกคนควรจะมองเห็นประตูได้ด้วย เพื่อจะได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ผ่านเข้าออกบริษัท

5.ห้องทำงานผู้บริหาร

ต้องกำหนดห้องผู้บริหารในตำแหน่งบารมีของอาคาร (ซินแสจะชี้ให้) ส่วนด้านหน้าประตูอย่าให้มีสิ่งกีดขวาง ต้องมีสภาพโล่งหน้าประตู เพื่อให้รับกระแสพลังได้เต็มที่ ต้องมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกโล่งไกล จะกระตุ้นวิสัยทัศน์ และช่วยพักสายตา

ด้านหลังทึบ แต่ถ้าเป็นกระจกก็ขอให้ใช้ผ้าม่านหรือมู่ลี่บังตาคนภายนอก

ส่วนทางด้านหลังเป็นตำแหน่ง “เต่าดำ” อันหมายถึงลูกน้องบริวาร ไม่ควรมีพระ เทพเจ้า รูปหล่อบูชา ตุ๊กตา ลูกน้องก็จะทำตัวเหมือนเทพ คือนิ่งๆ หงอยๆ ไม่ยอมทำการงาน หรือคิดว่าตัวเองเก่ง รู้ทุกเรื่อง พูดไม่ฟัง

ด้านหลังควรเรียบๆ มีของตั้งน้อยเท่าที่จำเป็น หากมีสิ่งของตั้งเยอะๆ จนเกิดสภาพรกมากเกินไป จะปวดหัวเรื่องลูกน้องตลอด

และควรเลี่ยงไม่ให้มีเหลี่ยมเสาทิ่มแทงด้านหลัง นานๆ เข้าจะมีลูกน้องคิดไม่ซื่อคอยแทงข้างหลังเวลาเผลอได้

ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงบางส่วนของการจัดฮวงจุ้ยสำนักงาน ซึ่งยังมีรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นได้อีก โดยจะต้องได้รับการตรวจสอบดวงชะตาจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่แค่ดูปีเกิดอย่างเดียวแบบในหนังสือทั่วไป แล้วกำหนดทิศหันหน้าหันหลังพิง หรือเลือกวัสดุ สีสัน รวมทั้งเสริมอุปกรณ์ฮวงจุ้ยขั้นสูงเพื่อกระตุ้นพลังแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้บริหารแต่ละคนและภาพรวมทั้งองค์กร ที่สามารถส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่มีชะตาชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองดียิ่งขึ้นไปอีกได้