เรียกได้ว่าเป็นช่วงขาลงสุดๆ ของพิธีกรมากความสามารถเจ้าของฉายา สาวสองพันปี ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี กับหน้าที่พิธีกรคู่ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ตั๊ก มยุรา จากที่มีงานพิธีกรเดือนๆ นึงถึง 40 งาน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเหลือแค่รายการเดียว! ซึ่งจะมาเปิดเผยถึงสาเหตุนี้ในรายการ ยิ่งศักดิ์ยิ่งแซ่บ ทางช่อง9 MCOT HD กับพิธีกรฝีปากกล้าถาม อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ 

โด่งดังตอนแรกมาจากอะไร? "จริงๆ ตอนนั้นยังเรียนไม่จบนะ ยังเรียนหนังสืออยู่ แล้วก็ไปเป็นนางแบบโฆษณา แล้วก็มาเล่นหนัง ตามขั้นตอนสมัยนั้นก็มีแมวมองตามศูนย์การค้าเหมือนกันนะ ตามห้าง ไทยไดมารู (หัวเราะ)" 

จากนั้นก็เริ่มถ่ายแบบสินค้าอะไรก่อนจำได้ไหม? "สบู่นะอาจารย์ ที่ทำให้มีชื่อเสียงมากๆ เลย แล้วก็หมากฝรั่ง เยอะแยะมากมาย เป็นนางแบบโฆษณาเลย ยุคนั้นเรียกได้ว่าต้อง มยุรา"

ได้ข่าวว่าตอนอายุ 20 มีงานวันละ 7-8 จ๊อบ 7 วัน ไม่หยุดเลยใช่ไหม? "มีอยู่ช่วงนึงที่หลังจากเจออุบัติเหตุใหญ่ซึ่งทุกคนก็ทราบนะคะ พอหลังจากนั้นไม่เคยไม่มีงาน งานแบบ ปวดหัวไปหมดโอ๊ย เมื่อไหร่จะหยุดสักที เป็นแบบนี้เลยนะ

เคยมีพิธีกร เดือนนึงมี 30 วัน มีพิธีกรประมาณ 40 กว่างาน มีทุกวัน บางวันมี 2 งาน สมัยก่อนเวลามีงานอีเวนต์เค้าจัดตามโรงแรมนะ โรงแรมใหญ่ มาทุกวันจนคนในโรงแรมบอกมาอีกแล้ว จัดงานเป็นพิธีกรทุกวัน มีงานเยอะมาก"

...

มีรายการไหนที่ทำนานสุดในชีวิต? "มีค่ะ มีรายการเกมโชว์อยู่รายการนึงนะ แล้วก็มีรายการเพลง ทำมานาน 25 ปี เดี๋ยวนี้ไม่มี เดี๋ยวนี้ 6 เดือนเลิกแล้วนะ เค้าเรียกตามสูตรเรียกว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นเนี่ยสมัยก่อน 25 ปี นี่โอ้โห" รายการเกมโชว์อะไรที่ทำอยู่ตั้ง 25 ปี? "เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่หรือเปล่าไม่รู้ รายการชิงร้อยชิงล้าน"

ทำไมช่วงนี้พี่ตั๊กค่อนข้างหายไปจากหน้าจอ? "เค้าบอกว่าค่าตัวแพง เดี๋ยวนี้เค้าจ้างกันตอนเท่าไรอาจารย์ ตั้งแต่ทำงานมาน่าจะถึง 40 มีรายการเยอะมาก แต่ตั้งแต่มกราคม 60 เป็นช่วงที่จนถึงบัดนี้ เหลือรายการเดียว คือ สบายสไตล์มยุรา ของตัวเอง นอกนั้นไม่มี เพราะอะไรก็ไม่รู้ เราก็มาพิจารณากับตัวเอง มาพูดกับลูกน้อง ฉันเป็นอะไรวะ ฉันไม่ได้กินลำบาก ไม่ได้เรื่องมาก ไม่ได้เยอะ"

เป็นไปได้ไหมคะ สาเหตุที่งานน้อยเพราะว่าเก็บค่าตัวแพงเว่อร์? "ไม่เคยเลยนะ เราก็จะถามเค้าก่อนว่าเค้ามีงบเท่าไรที่จะให้พี่ ก็ต้องดูให้มันสมน้ำสมเนื้อตามในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าเอาซะเว่อร์ หรือน้อยซะจนน่าเกลียด คือเดินสายกลางตามหลักพระพุทธองค์"

ช่วงที่ค่าตัวดีที่สุดโดยที่เราไม่ได้เรียก รายการสักชั่วโมงนึงกี่แสน? "ไม่ถึง จริงๆ ไม่ได้เคยเรียกค่าตัวเป็นแสน เราคิดแบบนี้สิเวลาเราทำ เดือนนึงเนี่ยอาทิตย์ละเทป อาทิตย์ละตอน เดือนนึงมี 4 ตอน ทำงาน 2 วัน โอเคเราคิดแบบนี้ทำงานแล้วเราก็ไปทำงานอื่น ไม่ได้ค่าตัวเยอะ"

แบบนี้จะเรียกว่าเราขาลงได้ไหม? "ไม่เรียกขาลง เรียกว่าคนอื่นขึ้น (หัวเราะ) เราอยู่เฉยๆ เราไม่เคยลง เราซึ่งเป็นมนุษย์เราต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้"

ด้วยวัยที่เหมาะสม พี่ตั๊กควรจะรับบทแม่ ต้องเป็นแม่ไฮโซ หาบทยาก อะไรแบบนี้ พี่ตั๊กเป็นแบบนั้นจริงๆ หรอ? "คือมีคนส่งบทมา 3-4 เรื่อง ตั้งแต่ต้นปีเนี่ยนะคะ คือเวลาเล่นเรา เลือก แต่ไม่ใช่เรื่องมาก เราก็จะดูว่าบทนี้เราเล่นไปถึงอะไร บทเรามีไหม ไม่ใช่ไปนั่งเกานั่งอะไรแล้วก็จบ"

เวลารับงานทีนึงให้ผู้จัดการไปสืบหมดเลย? "สืบ แต่จะสืบว่าทีมนี้ เท่าที่ผ่านมาเค้าทำเรื่องอะไรบ้าง ประสบความสำเร็จไหม มีผลงานไหม นางเอกใครเล่น ผู้กำกับเป็นใคร เพราะมันช่วยกันนะอาจารย์ เราพิจารณาดูก่อน แล้วมันก็ประสบความสำเร็จ"

ตอนนั้นพี่ตั๊กทำรายการนั้นทั้งหมดกี่ปี? "20 กว่าปีค่ะอาจารย์ น่าจะประมาณ 25 นี่นับถอยหลังไป 5-6 ปีนะ ตั้งแต่ออกมาถ้าจำไม่ผิดนะ เพราะไม่ค่อยจำอดีตเท่าไร" วันเก่าๆ ที่ทำงานอยู่ที่นั่น ความรู้สึกเป็นยังไงก่อนที่จะออกมา? "จริงไม่ได้มีอะไรนะอาจารย์ เพียงแต่ว่าเราก็เรื่องมากในการทำงาน มันเริ่มดึก"

...

มันทำนานเกินไป อยู่นานจนกระทั่งเรารู้สึกว่ามันไม่สนุกแล้วหรือเปล่า? "ก็เป็นไปได้ แต่จริงๆ เราซึ่งเป็นพิธีกรเราไม่มีหน้าที่ ไม่มีสิทธิ์ที่จะ คือเวลาเราทำงานเราได้ตังค์จากเค้าอะนะ เราก็ต้องทำงานให้เต็มที่ อย่างสมมติวันนี้ฉันได้ตังค์ 10 บาท แต่ไม่สนุกละฉันจะทำแค่ 8 มันไม่ใช่ มันก็ต้องทำเต็มที่แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราไง พอเราเริ่มรู้สึกมันเหนื่อย มันดึก เพราะฉะนั้นเราต้องพิจารณาตัวเอง"

เสร็จงานเร็วหน่อยได้ไหมตี 1 มันดึกไป? "ไม่ได้ บอกแบบนั้นไม่ได้ โปรดักชั่นเค้าใหญ่ไงมันต้องซ้อมต้องอะไร หลักในชีวิตตั๊กนะอาจารย์ แก้คนอื่นไม่ได้ แก้ที่ตัวเรา เหมือนชีวิตคู่เด๊ะเลย" แต่คนไม่ค่อยเข้าใจเค้าก็คิดว่าทะเลาะกัน? "แก่ขนาดนี้ไม่ทะเลาะแล้ว"

อยากเรียนถามพี่ตั๊กว่าครั้งล่าสุดมีโอกาสเจอกับคุณปัญญาบ้างไหม? "ก็สวัสดีกัน ใครจะไปทำแบบ เชอะ ใส่ แก่แล้วไม่ได้ๆ แต่จะทำหน้าเฉย เคยบอกว่าถ้าตั๊กเฉยกับใครคนนั้นนะอาจารย์ คนนั้นน่ะเตรียมตัวตาย เพราะว่าถ้าตั๊กไม่ชอบ ตั๊กจะไม่พูดเลย แต่วันนี้ก็ยังมีทักทายสวัสดีกันเจอกันที่ไหน 5 ปีเจอกัน 2 หนเองมั้ง"

...

เวลาพี่ตั๊กมีความรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่ตั๊กจะมีวิธีการดับความรู้สึกของตัวเองได้โดยธรรมะเหรอ? "แผ่เมตตาใช่ไหม (หัวเราะ) แต่เป็นคนรักตัวเองอย่างนึงนะอาจารย์ ตั๊กเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ไม่เกลียดใครแต่โกรธ ก็ใช้วิธี ตกกลางคืนก็ใส่ชื่อแผ่เมตตาเลย ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน"

ความรู้สึกของคนที่รักงาน และอยู่ๆ มีความรู้สึกผิดหวังกับระบบงานที่ไม่ได้ดั่งใจ? "ตั๊กเป็นคนที่ค่อนข้างมีความอดทนมาก แต่ตอนนั้นมันรู้สึกว่าทำแล้วได้อะไร ทำแล้วเสียอะไร คนอื่นยังไงไม่รู้ แต่ที่เราทำอยู่เพราะเรตติ้งมันดีไง แต่พอวันนึงไอ้คำว่าเรตติ้งมันก็ดึงไว้ไม่อยู่ เพราะฉะนั้นต้องดูว่าทำแล้วมันได้อันนี้ แต่ทำแล้วมันไม่ได้อันนี้ ก็ไปดีกว่า มันจะเป็นแบบนั้น"

ถ้าวันนี้ต้องมาเจอและร่วมงานกันอีกจะโอเคไหม? "ไม่หรอก ไม่มีทาง"  ถ้าทางช่องเขามาชวนพี่ตั๊ก ไปสวมหน้ากากและร้องเพลง จะไปร่วมไหม? "เอาจริงๆ ไหม ไม่มีทาง เขาไม่มีทาง เพราะมีอยู่วันนึงนะ จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ออกไปแล้ว มีรายการค้างอยู่รายการนึงที่เราต้องไปเป็นแขกรับเชิญ เขายังโทรกลับมาแคนเซิลเราเลย เพราะงั้นลืมเรื่องนี้ไปได้ ซึ่งไม่มีอยู่ในหัวตั๊ก เลยว่าวันนึงเขาจะกลับมาช่วย ถ้าฝรั่งเขาเรียกว่า forget it! (ลืมมันไปเถอะ) ความรู้สึกเราตอนนั้นมันเป็นเรื่องปกติ เพราะเราไม่ได้ทำงานแล้ว"

...

หรือไปทำอะไรให้เขาเกลียดหรือเปล่า? "ไม่ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะเราออกไป เด็กเองเขาก็ต้องสนองนโยบาย ไม่เกลียดหรอก ไม่มีอะไร ตอนนั้นมันเทียบกันไม่ได้หรอก เรามันตัวเล็กๆ เรามันเป็นคนเล็กๆ ที่มันขี้หมามาก ไม่รู้สิ พอวันนึงมันเหมือนคนแต่งงานกันนะ ถ้าวันนึงที่มันเบื่อ ยังไงก็ไม่เอา มันต้องแยกจากกันไป ถ้าถามว่าจะกลับไปทำไหม คือมันเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้"

วางแผนชีวิตงานในวงการไว้ว่ายังไง? "ก็ถ้ามีงานดีๆ ก็ยังทำนะ แต่ถ้ามันไม่มี ตั๊กก็ยังทำธุรกิจเหมือนกัน ซึ่งทุกอย่างมันเตรียมไว้หมดแล้ว ตั๊กจะพูดเสมอว่า คนเราจะทำอะไรต้องวางแผน ตั๊กเป็นคนวางแผนนะคะ ก็เตรียมไปจนถึงอายุ 80 ว่าเราจะทำยังไง"

โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามใช่ไหม? "ค่ะ ตอนนั้นมันเหมือนทุกขลาภมันมีจริงๆ นะคะ มันเหมือนถ้าเราเจอสิ่งดีๆ เราอย่าได้ตื่นเต้นดีใจกระดี๊กระด๊า เพราะนั่นแหละ คุณแค่ดีใจได้แป๊บเดียว เดี๋ยวมันจะเกิดอะไรตามมา มีเรื่องให้เราแก้ปัญหา"  ถามอายุได้ไหม? "ไม่ได้ค่ะ(หัวเราะ) ก็โตอยู่ ทำบัตรอยู่นะ วันก่อนเราไปทำบัตรประชาชนคนกดไลค์เยอะเลย"  

มีวิธีดูแลความสวยยังไง? "ก็ยังออกกำลังกายอยู่ ยังบำรุงผิว ยังดูแลเรื่องอาหารการกิน ยังแอคทีฟ ตั๊กไม่กล้าจำอายุตัวเองเลยอาจารย์ เดี๋ยวจะตกใจ วันก่อนสวนกับเพื่อนคนหนึ่ง เราก็เห็นหางตาแว๊บไปเห็นเขานะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เขาก็ตะโกนเรียก ตั๊ก เราก็ ห๊ะ!! เพื่อนเรา(หัวเราะ) เป็นเพื่อนเรียนหนังสือ เราก็มองตัวเอง มันขนาดนี้เลยเหรอ เพราะฉะนั้นจะบอกว่า คนเรามันสามารถดึงตัวเอง ยืดอายุออกไปได้ ถ้าคุณออกกำลังกาย ทานอาหารมีประโยชน์ รักษาสภาพจิตใจ แต่ก็อย่าหยุดนะ"

ไปดึงหน้ามา ไปฉีดมารึเปล่า? "ยัง ยังไม่ได้ดึง แต่ถามว่าทำทรีทเมนต์ดูแลอ่ะมี"  มีคนบอกว่า หน้าม้าของพี่ตั๊กมันร่นขึ้นเรื่อยๆ? "ไม่มีอาจารย์ มันเปิดมันไม่สวย เลยไม่เปิด"  มีเงินไปเมืองนอก ไปฉีดสเต็มเซลล์ได้นะ? "ไม่ไปอ่ะ เคยมีคนบอกว่าไปฉีดรกแกะใช่มั้ย เขาก็เล่าว่าต้องฆ่าแกะตัวหนึ่งเลยนะ แต่พี่ขอบาย ไม่เอาเลย เพราะพี่เป็นคนรณรงค์เรื่องพวกนี้ เรื่องรักสัตว์ แบบนี้ไม่เอาเลยนะ เราขี้เหนียวด้วย แต่ถ้าทำแบบเบสิกพวกทรีทเมนต์หน้าก็ไปทำนะ"

ความมีตังค์ของพี่ตั๊ก แค่ผมหน้าม้าชิ้นนี้มีช่างประจำเลยเหรอ? "เขาก็เหมือนลูกน้องเราน่ะนะ ตามเราออกมาจากที่นั่น พอเราออกเขาก็ออก คือที่นั่นเขาให้ออก บอกว่าเราออกมาแล้ว ก็ไม่ต้องมา"  ว๊าย เขาไม่ชอบทั้งตัวเราและช่างเลยเหรอ? "ไม่รู้ ไม่ๆ แต่เราไม่ว่าเขานะ ก็เหมือนว่าเราอยู่ตรงไหนก็ไปด้วยกันไง เรื่องแบบนี้มันเหมือนเป็นเรื่องปกติ พี่ตั๊กไปแล้ว เขาก็คงไม่จ้าง เพราะฉะนั้นก็เราก็ช่วยกัน เวลาตั๊กไปงานไหน เขาก็มาหวีให้ที่บ้าน ไปถ่ายรายการก็เอาไปด้วย เล่นละครก็เอาไปด้วยแต่จ่ายตังค์เอง"

ทรงม้าแบบนี้ใครก็ทำได้? "เขาหวีได้ดีค่ะ เขาก็เก็บผมได้ดี เกล้ามวยได้สวยเวลาไปงาน แต่ตั๊กก็ดุนะ ก็เนี้ยบเวลาเกล้ามวยไม่เรียบร้อย ธีระชัย ผมพี่ไม่เนี้ยบ อย่างไปงานศพเราก็ไปนั่ง แล้วคนที่อยู่ข้างหลังเขาจะพินิจพิจารณาว่าหัวเราเป็นยังไง เนี๊ยบไหม ปรากฏเราจะไปส่องดูข้างหลัง เห้ย ผมตรงนี้ไม่เรียบร้อย"

โพสต์รูปกับสามีบ่อยมากเลย ยังสวีตกันอยู่ใช่ไหม? "ถามว่าสวีตไหมนะ ถ้าบอกสวีตนี่โกหก เพราะว่าเราแต่งงานกันมานาน เราเป็นเพื่อนกันมากกว่า"  แสดงความรักกันยังไง? "เราดูแลกัน"

ดูแล แม่บ้านเค้าก็ทำได้ หยิบน้ำหยิบท่า? "ไม่ๆ ไม่หมด ตั๊กมีแม่บ้านนะ แต่บางทีเราคิดว่า ชาติก่อนเราเป็นทาสข้าบริวารของเขา เราแต่งงานกันมานาน สมมติอาหารเช้าเรายังต้องลงไปดู เราต้องคิดเมนูล่วงหน้าของคุณหนุ่ยว่าพรุ่งนี้จะทานอะไร เสร็จแล้วเช้าจะลงมาดู ชงกาแฟตั๊กทำให้หมด จนสปอยล์ คุณหนุ่ยไม่สามารถอยู่ได้ แม่บ้านต้องรู้ใจ ถ้านอกเหนือจากเราแล้ว ไม่มีทาง คุณหนุ่ยชงกาแฟไม่เป็น คุณหนุ่ยหยิบจานไม่เป็น คุณหนุ่ยไม่รู้เรื่องอะไรในบ้านว่ามีอะไรบ้าง ซื้อตู้มาหนึ่งใบ คุณหนุ่ยยังไม่รู้ มีหน้าที่ทำงานอย่างเดียว คือเราทำจนชินไง กลายเป็นว่าถ้าเราไม่อยู่ ไปถ่ายละคร เราจะวางไว้ จัดการไว้หมด"

แล้วสามีเขาชอบไหม? "นั่นไง พูดเหมือนเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง คุณรู้ได้ไง ว่าเขาอยากกินไหม แต่บอกเลยนะว่าเมียนะ คือหัวหน้าแม่บ้าน"  เคยทะเลาะกันไหม? "ไม่ทะเลาะนี่โกหกเลยนะ ทะเลาะๆ มีๆ"

พี่ตั๊กคงจะเป็นคนเริ่มใช่ไหม? "(ยิ้ม)คืออย่างนี้ เวลาคนหนึ่งปรี๊ด อีกคนต้องหยุด แต่คนหนึ่งหยุด อีกคนจะปรี๊ด ห้ามปรี๊ดด้วยกัน ถ้าปรี๊ดด้วยกันล่ะบ้านแตก บางทีคุณหนุ่ยก็มีปรี๊ด เขาก็รำคาญเราเวลาเราบ่นไง เมียพูดมาก"  ลูกสาว ใครเป็นคนเลี้ยงดู? "เราเลี้ยง โตแล้ว 20 แล้ว"  วางแผนชีวิตอะไรให้น้องบ้าง? "ไม่ได้วางแผนอะไรค่ะ ก็แล้วแต่เขา เด็กสมัยนี้เราไปยุ่งเขามากไม่ได้"

ลูกสาวสวยขนาดนี้ เขามีแฟนไหม? "ก็มีนะ หนุ่มๆ มาจีบ เขาก็ไม่บอกเรานะ เราไม่ชอบสืบ ถ้าเราสืบต้องสืบแม้กระทั่งสามี เราต้องไว้ใจเขา ถ้าไม่ไว้ใจเขานะ มันก็ไม่มีความสุขเรา เอาเป็นว่าเดินสายกลางดีกว่า"  ถ้าลูกมีแฟน จะปล่อยไหม? "ขอดูหน่อย ขอดูนิดนึง"

ตอนนี้ทำธุรกิจอะไรบ้าง? "คือตอนนี้เราทำธุรกิจ ตั้งแต่ออกมาจากบริษัทนั้น มันก็ก้ำกึ่งอยู่ ก็ทำแบรนด์ ยูร่า ยูร่า ก็คือ มยุรา ขายทางช่องทางโมเดิร์นเทรด และช่องทางออนไลน์ ก็ทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เพราะเราต้องอาศัยหน้าตัวเองในจอทีวี เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ไป แล้วในเวลาเดียวกัน ถ้าเราปล่อยเนื้อปล่อยตัว เราก็ขายครีมตัวเราเองไม่ได้".