หลายคนยังงงอยู่กับการงดจัดคอนเสิร์ต "เสม็ดอินเลิฟ ครั้งที่ 8" ที่หาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด จ.ระยอง ที่เดิมจะจัดในวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ว่าจริงๆ แล้วเบื้องลึกคืออะไรกันแน่ ทั้งๆ ที่จัดมาแล้ว 7 ครั้ง
โดยแฟนเพลงรายหนึ่งที่เดิมตั้งใจจะมาดูคอนเสิร์ตแต่พลาดหวังไป ได้บอกว่า ตนชอบเพลงของ สิงโต นำโชค ชอบ Scrubb แต่ไม่ค่อยได้ดูคอนเสิร์ต แต่ตอนหลังๆ เริ่มตามฟังวง Scrubb มากขึ้น ก็รู้ว่าจะมาเล่นที่ เสม็ดอินเลิฟ ด้วย ก็เลยจะมาดู ก็จองห้องพักก่อนแล้วก็หาบัตร สุดท้ายมารู้ว่ามีการ cancel แต่เราคิดว่าจะมาเสม็ดอยู่แล้ว ก็เลยมาเพราะเราก็คิดถึงเสม็ดกัน
โดยแฟนเพลงรายนี้เธอได้แสดงความรู้สึกต่อเหตุผลของการงดจัดคอนเสิร์ตว่า "ก็เตรียมใจไว้แล้ว เราก็รู้สึกว่าเป็นประเด็นที่ไม่ง่ายสำหรับผู้จัดงานที่จะผ่านไปได้ ถามว่ารู้สึกยังไงในแง่กฎหมาย เราก็เข้าใจนะว่ายังไงก็คงละเมิดไม่ได้ (พ.ร.บ.อุทยานฯ "ห้ามมิให้บุคคลใด" (17) ส่งเสียงอื้อฉาวหรือกระทําการอื่นอันเป็นการรบกวน หรือเป็นที่เดือดร้อนรําคาญแก่คนหรือสัตว์ และ (18) ทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งต่างๆ ในที่ที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น)
...
ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อม น่าจะจัดการได้อยู่ถ้าวางแผนและร่วมมือกันดีๆ เรื่องช่วงเวลาที่ควรงดการจัดงานรื่นเริงก็อยู่ที่มุมมอง จริงๆ รัฐก็ให้จัดได้แต่อยู่ที่ความเหมาะสมของผู้จัดที่ให้ทำให้เหมาะสมได้ไหม สรุปคือเตรียมใจว่ามีความเป็นไปได้ยาก ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรมากมาย เพราะเราก็เข้าใจในสถานการณ์"
จากเหตุการณ์นี้ ในมุมมองของเธอ และเพื่อนๆ มองว่า ถ้าไม่ให้มีผลกระทบมากขนาดนี้ ควรมีการปรึกษากันก่อน คือมองกลับไปว่าเวลาเขาจะจัดงานไม่มีการขออนุญาตกันก่อนเหรอ ทำไมมารู้กันทีหลัง ถ้าพูดคุยกันก่อนก็คงไม่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างขนาดนี้ แต่อยู่ดีๆ เปลี่ยนอะไรกะทันหันก็เลยมีอิมแพ็ค เยอะทั้งคนที่จะมางาน แล้วก็ผู้ประกอบการ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเหตุผลเบื้องลึกคืออะไร ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 7 ครั้งที่ผ่านมาจัดได้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
อยากให้เป็นกรณีศึกษาทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า กฎหมายที่เอามาใช้ห้ามนี่คืออะไร ให้ชัดเจน เอาความเป็นจริง อดีตเกิดอะไรขึ้นต้องย้อนกลับไปจัดการด้วย ทำไมทำได้ แล้วทำไมตอนนี้ทำไมทำไม่ได้ แล้วปัจจุบันมองไปถึงอนาคตด้วย อยู่ดีๆ มีกลุ่มหนึ่งพูดถึงสิ่งแวดล้อม มองแค่การจัดงานหรือเปล่า ปกติเสม็ดเป็นยังไง มีการจัดการที่เรียบร้อยดีหรือเปล่า ไม่จัดคอนเสิร์ตใช่ว่าสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้น เพราะว่าเสื่อมมานานแล้ว
แล้วชาวบ้านได้รับรู้แค่ไหน ถ้าเรารักเสม็ดจริงๆ ต้องทำยังไง ไม่ใช่แค่ไม่จัดคอนเสิร์ต จัดคอนเสิร์ตทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมลงจริงเหรอ ถ้าไม่มีคอนเสิร์ตเกิดอะไรขึ้นกับเสม็ด คนเสม็ดต้องรู้ว่าเสม็ดที่เราหวงแหน อะไรคือคุณค่าที่แท้จริงของเสม็ด อะไรคือธรรมชาติที่รักษาไว้ ให้การเรียนรู้ตรงนี้อย่างแท้จริง ไม่มีคอนเสิร์ตแต่ยังมีขยะ ไม่มีคนจัดการ ไม่มีการให้ความรู้อะไรเลย
นักท่องเที่ยวต้องรู้ว่าไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนต้องทำยังไง ผู้ประกอบการก็ต้องรู้ว่าต้องทำยังไง ควรยกมาเป็นกรณีศึกษาเลย รัฐควรเอาจริงเอาจังในเรื่องกฎหมาย ประกาศให้สังคมรับรู้ในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เสม็ดอย่างเดียว ที่ไหนจัดได้ไม่ได้ ถ้าอ้างกฎหมายมันก็ฉบับเดียวกัน ทำไมที่นั่นจัดได้ที่นี่จัดไม่ได้
จัดมา 7 ปี ทำไมปีนี้จัดไม่ได้ เรื่องของกฎหมายต้องชัดเจนว่าจัดแล้วเป็นยังไง คนก็มองว่าเป็นเรื่องการเมือง ถ้าใช้บังคับทั่วถึงก็ไม่มีความสงสัย พอการเมืองเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน เรื่องสิ่งแวดล้อมก็ควรอยู่ในหลักสูตร เรารู้แล้วว่าประชาชนไม่รู้เรื่องนี้ ทำไมไม่ทำให้ประชาชนรู้ล่ะ ไม่ใช่ประกาศเป็นช่วงๆ ในบางรัฐบาล เพราะบางรัฐบาลก็ไม่อยากให้รู้ เพราะไปสกัดกั้นอะไรบางอย่างของเขา".
...
