นุ้ย เกศริน อดีตสาวเซ็กซี่ของวงการ ประกาศแขวนเต้าอย่างเป็นทางการแล้ว บอกตอนนี้มาเป็นครูสอนปฏิบัติธรรม รับล้างภาพสาวเซ็กซี่ยังไม่สำเร็จลูกศิษย์บางคนยังไม่เชื่อถือ แต่ไม่ท้อ เชื่อเวลาจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าตนสนใจเรื่องธรรมจริงจัง เผยที่สนใจเรื่องนี้เพราะ ดีเจเชาเชา อดีตแฟนเก่ามีส่วนตอนเลิกกัน

ถ้าเอ่ยชื่อของ นุ้ย เกศริน เชื่อว่าหลายคนคงจะจำเธอได้ กับลุคสาวเซ็กซี่มีที่นุ้ยผลงานโดดเด่นมากมายหลายอย่าง อาทิ ปฏิทินลีโอ งานอีเวนต์โชว์เซ็กซี่จะต้องมีรายชื่อของสาวนุ้ยร่วมอยู่ในนั้น

แต่จู่ๆ วันนึง สาวนุ้ย เกศริน ก็ห่างหายไปจากวงการสาวเซ็กซี่ กลับมาอีกทีเห็นเป็นครูสอนเต้นและปฏิบัติธรรม ซึ่งวันนี้บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสพูดคุยกับอดีตสาวเซ็กซี่ ที่เดินทางมาโปรโมตหนังเกี่ยวกับศาสนา อย่างเรื่อง ดารัมซาล่า ได้พูดคุยกับสาวนุ้ยแบบหมดเปลือกถึงการหายหน้าไปจากวงการสาวเซ็กซี่ ซึ่งสาวนุ้ยเล่าว่า

“นุ้ยไม่ได้หายไปไหนค่ะ ยังมีถ่ายละครอยู่หลายเรื่องเลย มีสอนเด็กเต้นในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และนุ้ยก็ไปเรียนต่อปริญญาโท และเรียนปริญญาเอก แต่พอดีได้ไปเรียนหลักสูตรฝึกสมาธิ เดินจงกรม ฝึกไปฝึกมา ก็เรียนจนจบกลายเป็นอาจารย์ มีช่วยงานที่วัด ไปสอนในเรือนจำ ทำแล้วมีความสุขกับตรงนั้น นุ้ยมีรายได้ที่พอจะเลี้ยงตัวเองได้ เลยแบ่งเวลาไปทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น”

...

แขวนเต้าจากงานเซ็กซี่? “ใช่ค่ะ พูดว่าแขวนเต้าก็ได้ เพราะนุ้ยปฏิเสธงานถ่ายแบบเซ็กซี่ งานอีเวนต์ต่างๆ เพราะใจนุ้ยตอนนี้มันมาอีกแบบนึงแล้ว

ถ้าเป็นงานบุญงานสังคม นุ้ยเต็มที่ แต่สายเซ็กซี่ไม่อยากไปแล้ว แต่สายเฮลธ์ตี้ก็ยังพอได้ คือนุ้ยเป็นคุณครูของเด็กๆ และมาทางสอนนั่งสมาธิ สอนให้คนมาฝึกใจ แล้วเราถ่ายแบบนั้นมันก็ฝืนกับตัวเอง เราเองก็ไม่มีความสุข ก็เลยหยุดเลยดีกว่า”

ไม่เสียดายเหรอ เงินที่ได้จากการเซ็กซี่มันค่อนข้างจะสูง? “นุ้ยมองว่ามันเป็นบททดสอบของเรา ถ้าเมื่อไหร่เราแพ้เงิน เราก็จะกลับไป แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าความสุขมันมีมาจากอย่างอื่น โดยที่เราไม่ต้องทำแบบนี้

สิ่งที่มันผ่านมา พอเราย้อนกลับไปดูภาพต่างๆ มันก็สอนเรานะ เป็นประสบการณ์อย่างนึง มันเป็นภาพความทรงจำที่ทำให้เรารู้สึกว่า พอแล้วนะ ก็เลยไม่อยากถ่ายอีก คือนุ้ยไม่ได้อิ่มตัวนะคะ แต่มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น พอทบทวนแล้วก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขแท้ๆ ของเรา

เราแค่รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไปตามกระแส ย้อนไปเมื่อก่อนนุ้ยเป็นนักกีฬา แมนๆ ภาพแบบนี้มันไม่ใช่เราหรือเปล่า มองเห็นตัวเองขึ้นมา เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเรา ความสุขมากที่แท้จริงคือการที่ได้เป็นคุณครู ทำเพื่อคนอื่นมากกว่า”

...

พยายามล้างภาพให้ตัวเอง มันล้างได้สำเร็จมั้ย? “มันอาจจะล้างไม่ได้นะคะ เพราะภาพมันอยู่กับเราตลอดไป เสิร์ชกูเกิลก็เจอ แต่ว่าเราล้างใจตัวเอง และที่สำคัญเราต้องยอมรับกับสิ่งที่เราเคยทำมา มันคือเรื่องจริงที่มันเกิดขึ้น

แต่หลังจากที่เราเริ่มทำบุญนู้นนั่นนี่ จากที่มีพวกโรคจิตเข้ามาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กแบบแย่ๆ ภาพเราก็เริ่มเปลี่ยน คนพวกนั้นก็เริ่มหายไป มีแต่คนเข้ามาอนุโมทนาสาธุกับเรา แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา เราเคยทำอะไรไว้ ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราจะต้องอดทน ใช้เวลากับมัน ก็เข้าวัดทำบุญมาเรื่อยๆ

แต่หลังจากที่นุ้ยเลิกกับพี่เชาก็มาทางบุญมากขึ้น (อกหักจากเชาเชาก็เลยมาพึ่งวัด?) ก็อาจจะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ แต่พี่เชาก็เป็นจิ๊กซอว์ตัวนึงที่ทำให้นุ้ยมาทางธรรม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด”

...

เคยเจอผู้ปกครองของเด็กที่เค้าติดภาพสาวเซ็กซี่แล้วไม่อยากให้สอนลูกเค้ามั้ย? “ไม่เคยเจอนะคะ มีแค่เชียร์ให้ถ่ายอีก (ยิ้ม) หุ่นยังดีอยู่เลย เสียดาย แต่นุ้ยไม่เอาแล้ว พอแล้ว

แต่ถ้าด้านลบๆ จะเจอทางสายบุญมากกว่า เหมือนเวลานุ้ยไปทำบุญ ไปสอนเค้าเดินจงกรม นั่งสมาธิ ในบางครั้งเค้าก็รู้สึกว่า เราเคยถ่ายแบบเซ็กซี่มาจะมาสอนเค้าได้อย่างไร เราก็จะรู้สึกเองว่ามันคือผลของเรา ที่เราเคยทำไว้ ก็รู้สึกเฉยๆ นะคะ

นุ้ยไม่เสียใจที่คนจะมองหรือติดภาพว่าเป็นผู้หญิงเซ็กซี่ นุ้ยทำใจและยอมรับ และนุ้ยพยายามจะบอกรุ่นน้องที่ชอบโชว์เซ็กซี่ คือบางคนเค้ามองว่า การที่เค้าโชว์เซ็กซี่มันคือสิ่งที่ถูกต้อง เค้าทำเพื่อเลี้ยงครอบครัว แต่จริงๆ เรามีทางออกอีกหลายทางที่เราจะมีชีวิตอยู่แบบพอเพียง และเป็นประโยชน์”

...

เคยคิดมั้ยว่าวันนึงจะมาเป็นคุณครูสอนเด็กเต้น สอนคนนั่งสมาธิ? “ไม่เคยคิดนะคะ ภาพตอนเด็กนุ้ยอยากเป็นนักเต้นระดับโลก ซึ่งจริงๆ นุ้ยก็ได้สร้างเด็กให้ไปแข่งระดับโลก พอเป็นครูได้เป็นผู้ให้บ่อยๆ มันก็เลยซึมซับค่ะ มันค่อยๆ เกลาเราไปเรื่อยๆ มาเจอธรรมะ มาเจอกัลยาณมิตรดีๆ ทำให้เราเห็นอะไรเยอะขึ้นในชีวิต ก็เริ่มปลงค่ะ (ยิ้ม)”

ครอบครัวแฮปปี้มากมั้ยที่นุ้ยแขวนเต้า ไม่ขอเดินเส้นทางนี้แล้ว? “เค้าแฮปปี้อยู่แล้ว แต่เค้ากังวลใจกลัวว่านุ้ยจะบวช (ยิ้ม) เพราะภาระที่บ้านของนุ้ยก็ยังเยอะอยู่ นุ้ยเหลือแค่งานสอน ก็บอกเค้าจะไปทางโลกและทางธรรมคู่กัน ไม่ต้องห่วง”

ถ่ายเซ็กซี่ค่าตัวสูง แต่พอมาเป็นครูรายได้ไม่ได้มาก เงินพอใช้หรือเปล่า? “มันก็พอนะ เพราะว่าเงินก้อนใหญ่ที่นุ้ยได้จากการถ่ายเซ็กซี่ ก็ไปลงกับบ้าน ดังนั้นเราไม่มีกังวลเรื่องบ้าน เหลือแค่รายจ่ายในแต่ละเดือน

นุ้ยว่านุ้ยขยัน ไม่เดือดร้อน มีกินมีใช้ ไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนม แต่อยู่ได้ สบายๆ แค่เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เมื่อก่อนกินกาแฟแก้วละ 200 มื้อเช้า 500 มาเปลี่ยนกินกาแฟข้างทาง กินข้าวแกงข้างทาง แบ่งเงินไปใส่บาตร”

สบายขึ้นมั้ย ไม่ต้องแบกภาพความเป็นดาราให้ติดตัว? “สบายขึ้นมากค่ะ แต่เพื่อนๆ หลายคนก็บอกว่าเสียดายที่เราไม่ยอมแต่งตัวสวยๆ (ยิ้ม)”

ความรักล่ะ "มีคนเข้ามาจีบค่ะ แต่นุ้ยรู้แล้วว่าอะไรคือความสุขของนุ้ยจริงๆ ไม่ต้องไปหาความสุขจากคนอื่น ไม่ต้องหาเรื่องเดือดร้อนเหมือนเมื่อก่อน มันก็มีความสุขดีแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่มีแฟนนะคะ แต่เรามีเพื่อน มีกัลยาณมิตรที่คุยกัน ให้กำลังใจกัน แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีการครอบครอง เธอเป็นแฟนชั้น ชั้นเป็นแฟนเธอ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น มองแผนชีวิตตัวเองไปไกลว่าบั้นปลายชีวิตจะอยู่อย่างไร ก็เลยไม่ได้กลัว ตั้งใจแค่ว่าจะอยู่ดูแลพ่อแม่".