ถ้าเอ่ยถึง ดีเจสาวสวยรวยอารมณ์ขันของยุคนี้ เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนคงจะต้องนึกถึงชื่อของ ดีเจต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ไม่แปลกที่เธอจะเป็นที่หมายปองของทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ เพราะเธอนั้นทั้งสวยทั้งตลก และตอนนี้หัวใจของเธอก็กำลังเป็นสีชมพู เพราะหนุ่มหล่อ ซัน ประชากร ปิยะสกุลแก้ว ขยันหาเรื่องมาเติมความหวานให้หลายๆ คนต้องอิจฉา แต่ในความหวานนั้นจะมีความเผ็ดร้อนซ่อนอยู่หรือไม่ วันนี้ทั้งคู่จะมาร่วมพูดคุยในรายการ คลับ ฟรายเดย์ โชว์ based on celeb story ทางช่อง GMM25 (กดเลข 25) แบบยอมให้ล้วงลึกกันในทุกๆ เรื่องของหัวใจ

หัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? 

ต้นหอม “เป็นสีชมพูค่ะ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ก็เปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ สมัยก่อนจะเป็นคนที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ชอบคือชอบ จะไม่สนใจประวัติหรือพื้นเพเลย คิดว่า ต่อให้เขาเป็นคนไม่ดี ถ้าวันหนึ่งเขาเจอคนที่ใช่ น่าจะเปลี่ยนได้ คนเตือนก็ไม่ฟัง พอความรักมันจบลง ก็เป็นบทเรียนว่ารักมันไม่ดีเลย ถ้าต่อไปเราใช้เหตุผลให้มากกว่านี้มั้ย ในการจะรักใครสักคน ถ้าเรารักคนดีเลือกอยู่กับคนดี เราไม่น่าจะเจ็บนะ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีผู้ชายบอกเลิกเลย เลยมีมุมมองที่แบบว่า มันต้องศึกษา บางทีเราเข้ากันไม่ได้ เหมือนเราเป็นฝ่ายเลือกอยู่ตลอดเวลา”

ต้นหอม “ถ้าเรารักแบบจริงจัง คิดอยากแต่งงาน อยากไปเจอพ่อแม่เลย ก็เริ่มตอนเข้าทำงานใหม่ๆ ค่ะ เขาเป็นเด็กฝึกงานก่อนแล้วมาเป็นโปรดิวเซอร์ ตอนนั้นหอมเป็นพิธีกร คบกันมาได้ 7 ปี แต่จริงๆ บอกเลิกตั้งแต่ปีแรกที่คบกันเลยค่ะ ด้วยความที่เขาเด็กกว่า และเราโตไม่เท่ากัน หอมมาในช่วงที่หอมกำลังต้องการความมั่นคง ฉะนั้นเลยโฟกัสที่เรื่องงาน แต่เขาเหมือนเด็กฝึกงานที่กำลังจะก้าวมาเป็นโปรดิวเซอร์ สิ่งสำคัญที่สุดของเขาคือ แฟน เขาเลยรู้สึกต้องการเวลาจากเรา เราเนี่ยถ้ารู้สึกทำงานได้ 7 วันจะดีใจมาก

...

แต่เขาก็จะแบบ ทำไมเสาร์อาทิตย์ไม่อยู่ด้วยกัน เริ่มมีปัญหาขัดแย้งกัน กลายเป็นความไม่เข้าใจ คือบางทีหอมก็เยอะเกินไปด้วยค่ะ ด้วยความที่สถานะเราต่างกัน เขาเป็นลูกคนรวย เราเป็นคนทะเยอทะยาน จนกระทั่งพอเริ่มระหองระแหง เราก็ไม่ไหวก็เลิกไปนะ แล้วเขาก็เริ่มมีคนอื่น เราเริ่มมีความหวงก้าง แล้วก็ไปเอาคืนมา แล้วเราก็เริ่มปรับตัว ทำดีมากจนน่ารัก แต่ผู้ชายเริ่มเฉยชา ไม่รู้ว่าเขาดัดนิสัยเรารึเปล่า เขาก็เริ่มแข็ง จนทำให้เรารู้สึกว่า นี่ไงเราเริ่มปรับตัวแล้ว จนสุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้อยู่ดี ก็เลยกลายเป็นว่าเราตัดใจและเดินออกมา และไม่กลับไปอีกเลย เขาก็มาง้อเรา แต่เราไม่เอาแล้ว เขาเลยเสียศูนย์และไปอยู่ต่างประเทศเป็นปีๆ คนนี้เป็นคนดีนะ แต่แค่รู้สึกว่า จังหวะเรามันไม่พอดีกัน”

กับ ซัน ประชากร อายุห่างกันเยอะไหม?

ต้นหอม “ไม่เยอะค่ะ รอบเดียว ห่างกัน 12 ปี”

เจอกันได้ยังไง?

ต้นหอม “จริงๆ เจอกับเขามาหลายครั้งมาก อัดรายการ ด้วยความที่เขาก็เป็นสเปกแหละ คนนี้น่ารักดี แต่ว่าไม่เคยไปจีบหรืออะไรยังไงเลย ปกติหอมจะแกล้งเขาตลอด แล้วไม่รู้ยังไงเขาสวน คือรายการวันนั้น หอมแกล้งเขานะคะ แล้วไม่รู้ยังไงเขาจับแก้มหอม แล้วมันโดน แต่เขาบอกว่าไม่โดน คือหอมเขินมาก แล้วหอมเป็นคนที่เก็บอาการตัวเองไม่ได้ เวลารู้สึกยังไง แล้วคนดูเขาเห็นหอมเขินมาก เราไม่เคยเขินมาก่อนเลย เพราะหน้ามันแดงหูแดง ทำอะไรไม่ถูกเหมือนทรงตัวไม่อยู่ แล้วเราก็เอาคลิปนี้โปรโมตรายการ แฟนคลับก็เลยจิ้น พอจิ้นแล้วเราก็สนุก เขายิ่งจิ้นกันเราก็ยิ่งสนุก”

ตอนที่เขาจิ้นเราเริ่มคิดจริงแล้วรึเปล่า?

ต้นหอม “คือมันอาจจะเขินๆ เพราะเราชอบเขา แต่ในฐานะที่เราเป็นพี่และเป็นพิธีกร เราไม่มีสิทธิ์จีบใคร มันผิดจรรยาบรรณและภาพลักษณ์พิธีกร”

ตอนนั้นซันคิดอะไรอยู่?

ซัน “ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรครับ แค่ไปออกรายการเห็นเขาเล่นมา ผมเลยเล่นสวนไปเท่านั้นเอง คือพี่เอกกี้เขาปูทางมาให้เล่นบทตบจูบครับ ผมก็เล่นบทตบเขาแล้วจูบ แต่จูบตรงคอนะ ไม่ได้โดนแก้ม”

ต้นหอม​ “จนเราได้มีโอกาสมาเจอกันอีกทีหนึ่ง เขามาอัดรายการ แล้วทีมงานจัดให้นั่งติดกัน แล้วเขาก็นั่งมองหน้าหอมอย่างนี้ มือไม้เราก็สั่นไปหมด”

ในความเป็นจริงนอกจากอัดรายการแล้วเราก็ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้สนิทกัน?

ต้นหอม “ไม่เลยค่ะ”

แต่ว่าภาพที่จิ้นออกมาดูเหมือนว่าสนิทมาก?

ต้นหอม “ใช่ค่ะ พออัดรายการเสร็จก็ชวนกันไปกินข้าว แต่ก็ไม่ได้ไปกันสองคนนะ มีคนอื่นไปด้วย แต่ระหว่างนั้นคนอื่นเขาก็โทรมายกเลิกระหว่างทาง ก็เหลือหอมกับซันสองคน เอายังไงดี แต่เราก็ไม่สามารถโทรไปบอกซันได้ เพราะเราไม่มีเบอร์ ไม่มีไลน์กันเลย”

ซัน “ผมก็มาครับ วันนั้นในรายการเขาให้ผมจับธง 2 อัน คือมีอันได้เงินกับไม่ได้เงิน แล้วเขาให้ผมจับแทน ผมจับได้อันไม่ได้เงิน ผมเลยกะว่าจะไปเลี้ยงข้าวเขาแทนครับ ก็งงนะ พอไปถึงเหลือแค่ 4 คนเองที่กินข้าวด้วยกัน”

ต้นหอม “แต่เราก็ดูนะ เขาไม่ได้เขินอะไร มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก วันที่ไปกินทางร้านให้คูปองกินข้าวมา 1 ใบ และตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกกับซันมากกว่าเพื่อนร่วมงานแล้ว ไม่รู้จะระบายกับใคร เลยโทรหานุ้ย นุ้ยบอกว่าอย่า คนนี้ดูเจ้าชู้มากนะ เราก็เลยขอไลน์ซันจากนุ้ยมา แต่ไม่แอดนะ เพราะเดี๋ยวกลัวเขารู้ เพื่อมาดูว่าเขาใช้ชื่ออะไรยังไง เห็นเขาใช้ชื่อย่อ ก็เลยคิดว่า ว้าย ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ คือเราคิดเองไง เราก็ไม่แอดและเก็บไว้ แต่ในใจเราชอบเขาไปแล้ว ทำยังไงดี

...

พอวันหนึ่งเราต้องไปทำฟันแถวบ้านเขาแล้วใกล้ร้านกินข้าวนั้นด้วย บังเอิญมาก คิดเป็นอาทิตย์เลยค่ะ ว่ามันจะน่าเกลียดมั้ย เป้าหมายของเราคือกินข้าวจริงๆ ไม่ขอสานสัมพันธ์อะไรต่อ เพราะเรารู้สึกว่ามันยากมาก ด้วยวัยเขาและเดี๋ยวมันน่าเกลียด แต่ถ้าอันนี้มันมีเหตุการณ์มันจะดูไม่น่าเกลียด ก็เลยส่งข้อความไปว่า จะไปทำฟันที่นี่นะ ว่างมั้ยเดี๋ยวนัดกินข้าวกัน เขาก็บอกว่า ว่าง ก็เลยคุยกัน พอถึงเวลานัด เลยแลกเบอร์กัน เขาก็ถามว่าทำไมไลน์เราไม่ขึ้น เพราะหอมบล็อกไว้ไงเวลาเมมเบอร์ไม่ให้ไลน์มันขึ้น หอมเลยบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวแอดไปเอง เพราะเรามีไลน์เขาอยู่แล้วไง แอดเร็วมาก ตั้งใจจะไปกินข้าวแบบพี่น้องกัน แต่คือเราเขินมาก เขินแบบที่สุด แล้วเขาจะยิ่งแกล้ง ว่ายิ่งมองหน้าแล้วเราจะเขิน”

เรารู้ไหมว่าเขาเขิน?

ซัน “ตอนแรกไม่ค่อยรู้ครับ แต่เวลาเขาคุยกับผมเขาจะไม่ค่อยมองหน้า ก็เลยลองจ้องเขา เขาก็จะหลบตาตลอด หลังๆ มาก็จะแกล้งจ้องหน้าแล้วเขาก็จะหลบตาตลอด”

ตอนนั้นซันรู้สึกพิเศษหรือยัง?

ซัน “ยังนะครับ ก็รู้สึกว่าเขาจะเป็นพี่น้องปกติ ก็เลยจะเก็บไว้เป็นที่ปรึกษา”

...

แต่เราพอดูออกไหมว่าเขาชอบเรา?

ซัน “นิดๆ ครับ แต่ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ เพราะเขาก็ได้คูปองมากับผม เลยคิดว่าจะมาใช้กับผม ไม่ได้มาจีบ”

ตอนนั้นซันเองก็มีคนคุยด้วยหลายคน?

ซัน “เยอะครับ เกินสิบคนครับ คุยเล่นๆ เกินเพื่อนนิดๆ แต่ไม่ใช่แฟน แต่ไม่มีเป็นแฟนนะครับ”

ต้นหอมก็คุยเหมือนกัน?

ต้นหอม “คุยค่ะ ตอนนั้นฮอตประมาณ 4-5 คน เป็นช่วงที่เรารู้สึกว่า เราไม่เอารักแท้แล้วล่ะ อยากคุยก็คุย เป็นช่วงที่เราเปิดตัวเอง เพราะเรากล้าที่จะส่งข้อความไปหาซัน เพราะเมื่อก่อนไม่เลย”

ซันคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายเจ้าชู้ไหม?

ซัน “เจ้าชู้ครับ แต่ก่อนนะครับ คือเราจะดูว่าใครเข้ามาแล้วเป็นยังไง แต่ผมจะเป็นคนที่ไม่จีบผู้หญิงนะครับ จะรอให้ผู้หญิงเดินเข้ามาก่อน ส่งสัญญาณก่อน”

เคยมีแบบเจอคนใหม่ทิ้งคนเก่าไหม?

ซัน “แต่ก่อนเป็นอย่างนี้เลยครับ คบกับแฟนอยู่ แล้วมีคนที่ดีกว่า สวยกว่า ผมก็ไปเลยครับ”

แล้วต้นหอมรู้ไหมว่าเขาเจ้าชู้?

ต้นหอม “ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าผู้ชายเจ้าชู้อ่ะ ก็คงเป็นหนึ่งในผู้ชายหลายๆ คนที่อยากคุยกับต้นหอม อาจหาผลประโยชน์จากเราเหมือนคนอื่นแน่ๆ เลย แต่พอไปเดตครั้งนั้น เขาเดินห่างจากเรา ไม่จับมือไม่ฉวยโอกาส แล้วเราเริ่มมาสนิทกัน คุยไลน์กันมากขึ้น ไลน์เขาก็เจ้าชู้นะ วิธีการคุยเจ้าชู้ เขาก็เจ้าชู้ หอมก็เจ้าชู้ ไม่มีความจริงใจต่อกันเลย”

ณ ตอนนั้นที่คุยกับต้นหอม เรารู้สึกว่าเขาเป็นแค่ผู้หญิงคนที่ 11 ของเราที่เราคุย?

ซัน “ใช่ครับ”

ต้นหอม “แต่ตอนนั้นเซ้นส์ทันบอกว่า หอมอยู่อันดับต้นๆ เพราะการตอบไลน์มันเร็วมาก คือเราคิดเองค่ะ ต่อให้มีคนอื่น เราก็ต้องเป็นที่หนึ่ง ดูจากการตอบไลน์ และการรายงานทุกอย่างของเขา”

...

รายงานทุกคนรึเปล่า?

ซัน “ไม่ครับ”

งั้นแปลว่าที่เขาคิดก็ไม่ผิด ว่าเขาอยู่อันดับต้นๆ ของเรา?

ซัน “ใช่ครับ”

ทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น?
ซัน “รู้สึกว่าคุยไลน์กับเขาแล้วมันสนุกดี เวลาผมไปไหนมาไหนผมจะรายงานแม่ตลอด (หัวเราะ)”

อะไรที่ทำให้เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้นะ?

ซัน “ใช้เวลาสักพักใหญ่เลยครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ไว้ใจเขาครับ ผมนึกว่าเขาจะเป็นคนที่จีบผมได้ ก็จีบคนอื่นได้เหมือนกัน”

แปลว่าความสัมพันธ์มันเริ่มคืบหน้าแล้ว?

ต้นหอม “รู้แล้วว่ามันไม่ใช่พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน แต่มันจะขยับไปตรงไหนเป็นแฟนมั้ย ก็ไม่มีใครพูดถึงตรงนั้น เพราะสภาพทุกคนคือยังไม่มีใครเคลียร์ตัวเอง”

แต่เพื่อนๆ ของหอมรอบตัวทุกคน เตือนหมดเลยว่า?

ต้นหอม “อย่าเลย เขาดูแล้วไม่ใช่คนดี ดูแล้วเจ้าชู้แน่ๆ ดูแล้วจะเป็นเหมือนเดิมอีกนะ แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นหอมค่อนข้างมั่นใจในตัวเองมากๆ ว่าเขาไม่มีสิทธิ์มาหลอกหรอก”

แล้วซันมีคนมาเป็นที่ปรึกษาไหม หรือว่าคิดเอง มั่นใจเอง?
ซัน “ก็มีถามพี่สาวครับ ถามที่บ้านครับ แต่การตัดสินใจส่วนใหญ่ก็เป็นผมเอง ที่บ้านเขาก็ไม่ติดอะไร แล้วแต่ผมเลย แค่บอกว่าคุยกับคนนี้อยู่ บอกแม่ตลอดครับ”

ความสัมพันธ์เริ่มเดินหน้าขึ้นเรื่อยๆ เราเคลียร์แต่ละคนที่เราคุยยังไง ทั้งสองฝั่งเลย?

ต้นหอม “ถ้าเป็นหอมจะเริ่มรู้สึกว่า คนนี้ไม่ใช่อย่างที่หอมและเพื่อนๆ คิดแล้ว หอมมีความรู้สึกว่า คนนี้เป็นผู้ชายซื่อๆ แล้วเป็นคนดี และอีกอย่างคือเขาบอกรหัสโทรศัพท์หมด ซึ่งอันนี้หอมชอบมาก มีความรู้สึกว่า ความลับทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์ เหมือนเขาอยากให้หอมแต่งรูปให้ ก็จะยื่นโทรศัพท์พร้อมบอกรหัส ซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่า คนอย่างนี้จะจำแน่นอน

เลยรู้สึกเหมือนคนนี้เปิดกับเราเต็มร้อยนะ แล้วเขาก็พูดกับหอมว่า หอมอ่ะ ไปเคลียร์ตัวเองมานะ มันเหมือนเขาตั้งคำถามกับเรา แล้วเราก็มานั่งคิดว่าจะไปต่อมั้ย คือเขาไม่สังเกตหรอกค่ะ แต่หอมจะนั่งมองหน้าเขาแล้วคิดว่าไปต่อมั้ย จนตัดสินใจว่า เอาล่ะ เสี่ยง ถ้ามันจะเจ็บกับคนนี้อีกก็ช่างมัน เราก็เลยเคลียร์กับทุกคนหมดเลย”

ซัน “ของผมจะเป็นคุยเล่นไม่ได้จริงจัง ผมก็จะหายไปเลยเวลาที่ผมมีแฟน บางคนก็จะไลน์มาอยู่ ผมก็จะบอก ผมมีแฟนแล้วนะ”

เราเริ่มมั่นใจแล้วรึยัง ว่าคนนี้เป็นคนที่เราเลือก?

ซัน “เริ่มมั่นใจตั้งแต่เราบอกให้เขาไปเคลียร์แล้วครับ เพราะผมจะจริงจังแล้ว”

เรื่องของวัยมีปัญหากับเราไหม?

ซัน “ไม่มีครับ เพราะผมเป็นคนไม่มีปัญหาเรื่องอายุครับ อยู่ที่ความคิดและเราเข้ากันได้รึเปล่าเท่านั้นเอง”
ต้นหอม “หอมว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคค่ะ แต่อุปสรรคคือเรื่องประสบการณ์ เวลาที่หอมมีแฟนเด็ก จะเอาอุปสรรคและปัญหามาเตือนเขา ด้วยความที่เขาเป็นเด็ก จะไม่มีใครฟังหอม แต่คนนี้ฟังหอม แค่เรารับฟังกันก็พอ”

หลังจากเปิดตัวว่าคบกัน ก็มีข่าวใหญ่โต ว่าซันลบรูปคู่ออกหมด มันเกิดอะไรขึ้น?

ซัน “เหมือนเรามีเรื่องไม่เข้าใจกันครับ ตอนนั้นเขาทำงานเยอะมากแล้วเขามึน ส่วนผมมีคำถามเยอะมาก ถามไปแล้วไม่ได้คำตอบ เราก็นึกว่ามันจะเป็นเรื่องร้ายแรง พอได้เคลียร์กันแล้ว เขาก็คลี่คลายได้หมด ที่จริงลบรูปไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบครับ ผมผิดเอง มันมีเรื่องที่อยากรู้แล้วเขาไม่ยอมบอก”

ต้นหอม “มันตอบผิดตอบถูกไปหมดเลยค่ะ คือเราไม่ได้นอนหลายวันมาก มันเป็นการถามในเรื่องที่เราลืมไปแล้ว เพราะเราขี้ลืมมาก และเราต้องย้อนประมวลกลับไปตรงนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเราก็ตอบไปก่อน คือตอบผิด แล้วเขาก็บอกเราตอบผิด มันไม่ใช่อย่างนั้น เขามีข้อมูลแน่นมาก มันก็เลยเหมือนกับว่ายิ่งตอบยิ่งผิด ยิ่งตอบยิ่งโกรธ เหมือนเราโกหกไปเลย คือสิ่งที่เราไม่ตรงกันทั้งหมดก็คือ เขาอยากให้เราพูดให้หมด รู้ทุกเรื่อง แต่เรารู้สึกว่า เรามีโลกส่วนตัว ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้”

ซัน “จริงๆ ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องอดีต ผมแค่อยากแบ่งเบาภาระความรู้สึกเขาแค่นั้นเอง”

ช่วงที่เจอข่าวหนัก เราเป็นยังไงบ้าง?

ซัน “ผมไม่เคยเจอข่าวหนักขนาดนี้มาก่อนครับ เหมือนมีมรสุมและช่วงนั้นพังมาก มีแต่คนเข้ามาด่าผม ว่าผมเป็นเด็ก งอแง ลบรูป เอาจริงๆ ที่ลบรูปตอนนั้น ผมกะจะไปครับ เพราะผมไม่ได้คำตอบ ผมไม่รู้ว่าเขาโกหกด้วยรึเปล่า แต่พอเขาคลี่คลาย ผมก็โอเค”

ต้นหอม “ตอนนั้นหอมใช้เวลารวบรวมสติอยู่ 3 วัน ไม่ได้คุยเลยด้วย เพราะตอนนั้นทำงาน รู้ว่าถ้าคุยมันจะเป็นอีหรอบเดิม พอรวบรวมสติได้ เราก็โทรหาผู้ใหญ่เพื่อปรึกษาเขา และพึ่งหมอดูค่ะ แล้วหอมก็ไล่ดูเรื่องราวในอินสตาแกรม เพราะเป็นคนชอบลงรูปและจะรู้ว่าเราทำอะไรยังไง พอรวบรวมข้อมูลได้หมด เราก็โทรหาเขาเพื่อจะอธิบายเรื่องต่างๆ เราก็บอกว่า ถ้าจะสร้างบ้านมันก็ต้องให้เสาบ้านมั่นคงก่อน บ้านเรามันแค่ร้าว เราก็ซ่อมสิ เราจะรื้อบ้านทำใหม่เหรอ แต่ซันก็ตอบกลับมาว่า ผมว่าบางทีซื้อบ้านใหม่ง่ายกว่า เพราะตอนนั้นเขาคิดจะไปแล้วจริงๆ”

ใช้เวลายื้อนานเท่าไหร่?

ต้นหอม “ประมาณสัปดาห์ค่ะ”

ในระหว่างนั้นซันยังมีคิดจะไปอยู่รึเปล่า?

ซัน “ยังมีว่าจะไปแล้วจริงๆ นะ ก็บอกเขาว่าผมไม่โอเค แต่พอเห็นความตั้งใจของเขา และเคลียร์ทุกอย่าง แต่พอเคลียร์หมด ผมก็ให้อภัยคนรักได้ทุกอย่างอยู่แล้วครับ ขอแค่อธิบายให้ผมได้เท่านั้นเอง”

มีข่าวออกมาว่า ทะเลาะกันสร้างกระแสรึเปล่า?

ต้นหอม “ที่เขามองว่าสร้างกระแส คือความอารมณ์ร้อนของซันค่ะ ที่เขาโกรธแล้วไปลบรูป พอบทจะโกรธจะไม่เอาอะไร คือซันจะไม่แคร์กระแสสังคม ซึ่งดาราส่วนใหญ่จะแคร์ แต่พอซันทำแบบนี้ คนก็เลยมองแบบนี้ค่ะ”

ทริปที่ญี่ปุ่นหวานกันมาก?

ต้นหอม “คือเราซื้อทริปไว้ก่อนทะเลาะกันแล้วค่ะ แล้วมาเจอแจ็กพอตพอดีทะเลาะกัน ผู้จัดการก็ถามว่าเอายังไง ให้ใส่ชื่อนางไปแทนมั้ย แต่สุดท้ายก็กลับมาคืนดีได้ทัน แล้วได้ไปกันค่ะ”

ซัน “หอมเขาจะเป็นคนโรแมนติกมาก ผมจะซื่อบื้อๆ มากกว่า”

ต้นหอม “เราใส่ใจ อยากทำให้เขา ไม่มีโอกาสพิเศษอะไรเลย พอเราทำให้เขาก็ทำตัวไม่ถูก”

ซัน “คือผมเกรงใจ พอเห็นของก็ไม่อยากจะรับ ทั้งดีใจและเกรงใจไปด้วย”

มาถึงตอนนี้ประทับใจอะไรในตัวต้นหอม?

ซัน “เขาเป็นสิ่งที่ดีครับ เหมือนมาอุดสิ่งที่ขาดในชีวิตครับ ก็มีความสุขดีที่มีเขาอยู่ ถ้าไม่มีเขาคงไม่มีความสุขครับ ก็จะอยู่กับเขาไปเรื่อยๆ ครับ”

ต้นหอมล่ะ ผ่านความรักมาหลายรูปแบบ?

ต้นหอม “หอมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เราตามหาจริงๆ แต่ก่อนเราไม่รู้ว่าเราต้องการแบบไหน พอเราเจอคนนี้ทำให้รู้เลยว่าการอยู่กับเขามันเป็นสิ่งที่ปลอดภัยและไม่ทำร้ายเรา หอมรู้สึกเลยว่า คนนี้ต่อไม่ให้อยู่ในสถานะแฟนหรือเลิกกันไป เขาก็ไม่ทำร้ายเรา และถ้าคนนี้อยู่กับเราไปเรื่อยๆ คนเป็นรักแท้ คิดว่าคนนี้ทำให้เรามีความสุขได้ น่าจะเป็นคนที่เราตามหา เขาน่าจะเป็นรักแท้ได้”

มองอนาคตไว้ยังไงหลังจากนี้?

ซัน “ยังไม่ได้คุยกันถึงขั้นนั้นครับ แต่ผมก็เลือกเขาแล้ว และพาเขาไปเจอที่บ้านเรียบร้อยแล้ว".