เติร์ด Tilly Birds หรือ เติร์ด อนุโรจน์ เกตุเลขา ที่หลาย ๆ คนรู้จักในฐานะนักร้องนำวง Tilly Birds ที่มีเพลงฮิตติดหูและมีแฟนคลับมากมายทั่วประเทศ ได้ออกมาโพสต์ข้อความรำลึกถึงวันครบรอบ 5 ปีของการจากไปของคนในครอบครัว เมื่อช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะผ่านช่วงเวลาอันหนักหนามาได้ เจ้าตัวยอมรับว่า เจ็บปวดมาก ๆ พร้อมกับเผยเหตุผล หลังจากถูกคนบางคนตำหนิว่า "เอาความตายของพ่อแม่มาเขียนเพลงทำมาหากิน"

"เราอาจจะรู้สึกไปคนเดียวก็ได้ว่าเลข 5 หรือ 10 มันดูเหมาะเป็นพิเศษกับคำว่า ‘ครบรอบ’ เลยขอเขียนบันทึกไว้หน่อย ปีนี้ครบรอบ 5 ปีที่ครอบครัวเราจากไป

2563 กุชชี่ (หมา) 28.03.63 แม่ 03.06.63 ป๊า 28.12.63 ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง

เบญจเพส (25) อาจจะคือเหตุผลหรือเปล่าที่ทุกอย่างเกิดขึ้น เราไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือ เราเข้าใจแทบทุกคน ทุกตัวละครในหนัง ที่ต้องเสียสมาชิกสำคัญของครอบครัวไป ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน ตอนนั้น 1 วันหลังจากที่เสียป๊าไปในช่วงปลายปี เราเขียนไว้ว่า “ปีนี้คือปีที่แย่ที่สุดในชีวิต” พวกเขาทำให้เราไม่เคยขาดความรัก ความอบอุ่น คิดถึงเวลาป๊าแซวแม่ แม่แซวป๊า ตลกเหมือนใน sit-com เราหัวเราะ มีความสุข และพวกเขาทำให้เรารู้ว่า คนที่รักกันมา 30 ปี ถึงแม้จะผ่านทางขรุขระกันมาบ้าง แต่สุดท้ายปลายทางที่สุด เขารักกันที่สุดจริง ๆ เราเลยยังเชื่อในรักอยู่ต่อไปอย่างงมงาย เพราะเราคงรักใครเหมือนที่ป๊ารักแม่

ก่อนป๊าไป เขาบอกเราว่า “เติร์ดเก่งแล้ว ไม่มีป๊าก็อยู่ได้” 5 ปีผ่านมา ก็ อยู่ได้ (ได้อยู่ ฮ่าๆๆ) สิ่งที่ ป๊า-แม่ เคยทำให้เราด้วยความรักอย่างไร้เงื่อนไข เราได้ลองทำเองบ้าง เหนื่อยใช้ได้ แต่ค้นพบด้วยว่าชอบทำความสะอาด จัดของ แต่จะให้ผ่านมรสุมทุกอย่างมาคนเดียว ไม่ได้หรอก เพราะหาก Batman ขาด Alfred หรือ Harry ขาด Ron - Hermione ไม่ได้ ฉันใด เราก็ขาด Tilly Birds, เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และสมาชิกครอบครัว เกตุเลขา ที่ยังเหลืออยู่ ไม่ได้ ฉันนั้น

...

ชีวิตยังปรานีกับเราอยู่ที่ยังเก็บคนเหล่านี้ไว้เพื่อเตือนสติเรา เวลาที่ประสาทรับประทาน หรือ จิตใจวุ่นวายสับสน ไม่ว่าจะจากเรื่องใด ที่ได้ถาโถมเข้ามาตอกตำใจให้เจ็บ พวกเขาเหล่านี้ช่วยดึงสติของเรากลับเข้าสู่ร่าง ขอบคุณทุกคนและขอโทษ ถ้าเราเคยทำให้ลำบากใจ ไม่ว่าจะคำพูดไหน การกระทำใด ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกวัน

สุดท้าย เราอยากขอโทษทุกคนที่เราเคยทำให้รู้สึกไม่ชอบ หรือ ไม่พอใจ กับการที่เราพูดถึง ป๊า-แม่ อยู่บ่อย ๆ เรามานั่งสะท้อนความคิดตนเอง ขุดค้นลงไปในใจว่า ทำไม คำตอบเดียวเลยคือ เราไม่อยากให้พวกเขาสูญหายไปจากความทรงจำ

เคยมีคนตำหนิเรา ประมาณว่า “โหนความตายของพ่อแม่มาเขียนเพลงหากิน” รุนแรงกับใจเรา จุก แต่เราไม่เคยมีเจตนาแบบนั้นเลย ไม่รู้จะทำให้ทุกคนเชื่อได้แค่ไหน เพราะเราตั้งใจเขียนให้พวกเขาจริง ๆ และในทางหนึ่ง ให้ตัวเองด้วย เพราะเวลาเราต้องระบายสิ่งที่มันหนักในใจ การลงมันไปกับเนื้อเพลง มันช่วยบำบัดให้ใจเราโล่ง

เพลงแรกที่เราได้เขียน บิลลี่ทำ demo ดนตรีเพลงหนึ่งขึ้นมา เราใช้ความรู้สึกเขียนไป (Heart In A Cage) เพื่อแสดงในสิ่งที่คำพูดปากเปล่าไม่มีพลังมากพอ ต้องให้เพลงพูดแทน มันช่วยบำบัดความรู้สึกเรา เพลง “ถ้าเราเจอกันอีก (Until Then)” คือ 1 ในเพลงเหล่านั้น เนื้อเพลงนี้ เราได้มาตอนบวชหน้าไฟให้ป๊า (ตอนนั้นต้องตื่นเช้ามาก นอนไม่หลับ) เรานั่ง หลับตา นึกถึงทำนองที่ไมโลเขียนมาในเพลงที่ไร้เนื้อ และเริ่มลองใส่เนื้อเพลงในหัวลงไปจนจบท่อน

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ อีก 5 ปี ไว้กลับมาเขียนใหม่นะ สวัสดีปีใหม่ฮะ"

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม




...