กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที หลังจากที่ โบว์ แวนดา สหวงษ์ ภรรยาของ ปอ ทฤษฎี พระเอกคนดังผู้ล่วงลับ คุณแม่คนเก่งของ น้องมะลิ พาขวัญ และ เจย์ กาญจน์โสภณ สมาชิกวง DICE ได้ออกมาไลฟ์พูดถึงโมเมนต์น่ารักของลูกๆ แต่งานนี้กลายเป็นดราม่าขึ้นมาทันที ซึ่งสรุปดราม่าได้ดังนี้

- แม่โบว์ ได้ออกมาไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับ เล่าถึงความน่ารักของลูกๆ

- ในบางช่วงของการไลฟ์ แม่โบว์ ได้พูดถึงการสอนลูกชายว่า “เวลาคุณตาพูดอะไรที่ไม่เข้าหูก็ไม่ต้องเถียง บางทีคุณตาเขาก็เหนื่อย เพราะต้องเลี้ยงเจย์แทนแม่ แล้วคุณตาก็เลี้ยงเจย์อย่างดี แม่เลยขอให้เจย์พูดคำว่าครับๆๆ อย่างเดียว หลังจากนั้นเจย์จะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเจย์แล้วแต่การพิจารณาของตัวเอง แต่ต้องยอมรับผลที่มันจะเกิดขึ้น แล้วไม่ใช่รับอย่างเดียวนะ ต้องรับผิดชอบด้วย”

- จากนั้นได้มีคนตัดคลิปไปลง TikTok เพราะเห็นว่าน่ารัก

- แต่งานนี้เกิดดราม่าขึ้นมาทันที เมื่อได้มีนักวิชาการได้หยิบเรื่องนี้ออกมาพูด เรื่องการสอนลูกให้พูด “ครับ / ค่ะ”

...

- ซึ่งมีใจความว่า วิธีสอนเด็กให้พูด “ครับ/ค่ะ” ไปก่อน แล้วค่อยตัดสินใจทีหลัง เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในครอบครัวไทย ในระยะสั้นอาจช่วยให้เด็กเอาตัวรอดทางสังคมได้จริง เด็กไม่เถียง ไม่ปะทะ ไม่สร้างความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ เด็กอาจค่อยๆ เรียนรู้ว่า “คำพูด” ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับ “การกระทำ” เมื่อเด็กถูกกดให้ต้องตอบรับก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้เลือกจริง เด็กอาจเติบโตมาโดยขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของการตัดสินใจของตัวเอง ส่งผลให้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่พูดว่า “ได้ครับ” แต่ไม่ทำ ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งด้วยการรับปากลอยๆ และบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือในความสัมพันธ์กับคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว

- จากบทความดังกล่าว ทำให้คนเข้ามาตำหนิถึงการเลี้ยงลูกของ โบว์ แวนดา กันจำนวนมาก และมองว่าควรสอนให้เด็กกล้าปฏิเสธ พูดตรงๆ อย่างมีเหตุผล และบางคนก็มองว่า ไม่ควรตัดสินจากคลิปเพียง 2 นาที จากดราม่าดังกล่าวทำให้กระทบความรู้สึกต่อแฟนคลับที่เป็นคนตัดคลิปนั้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี

- แม่โบว์ ก็ไม่รอช้าได้ออกมาชี้แจงทันทีบอกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะให้ลูก ครับ/ไม่ครับ แล้วมันผ่านไป การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ได้ง่ายกับการที่คุณมานั่งเขียนหนังสือ เพราะว่าการเป็นแม่ที่ใช้ชีวิตจริงๆ มันยากกว่าการที่จะมานั่งแล้วเปิดหนังสือแล้วเขียนเป็นตัวอักษรสวยๆ มายัดเยียดใส่คนในครอบครัวและความรู้สึกของคนในครอบครัวของโบว์

- ตราบใดที่เรายังใช้ชีวิตที่เป็นแม่ที่อยู่ในพื้นฐานของความเป็นแม่ที่ดี และรู้จักว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร โบว์จะใช้ความรู้สึกในการใช้ชีวิต เวลาจะป้อนนมลูก ต้องไปเปิดหนังสือก่อนมั้ยว่า องศาในการป้อนนมต้อง 45 หรือ 90 องศา ทั้งๆ ที่เด็กแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน

- ลูกคุณถนัด 45 องศา แต่คุณไปเปิดหนังสือบอกว่า 90 องศา ไม่ได้ถึงลูกจะชอบ 45 องศาก็ไม่ให้กิน 45 องศาหรอก จะป้อน 90 องศาตามหนังสือที่เขาบอกว่าทำแล้วมันจะดี

- แม่โบว์ยังบอกอีกว่า ถ้าเอาหลักวิชาการมายัดเยียดใส่ครอบครัวเรา ความสุขของครอบครัวมันจะเกิดขึ้นได้ยังไง

- และเรื่องที่คนอาจจะเห็นว่า เจย์ พูด “ครับๆๆ” แต่รู้ไหมหลังบ้านเขาก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น หลังบ้านเขาก็รับผิดชอบอะไรในหลายอย่าง

- อาจจะเป็นแม่โบว์เองที่พลาดมาเล่าเรื่องครับ/ไม่ครับให้ฟัง แล้วคนที่มาวิจารณ์เป็นนักวิชาการก็ร่ายยาว 2 หน้ากระดาษ บางครั้งชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับการที่เรานั่งเขียนหนังสือหรอก

- เพราะฉะนั้นนักวิชาการท่านใดที่เห็นคลิปสั้นๆ อย่าตัดสินคนในสิ่งที่คุณคิดแล้วบรรยายลงหนังสือเป็นตัวหนังสือที่สวยงาม หลักข้อคิดมีได้ แต่ไม่ใช่มาทำร้ายคนอื่นแบบนี้

- หลักวิชาการเคยเขียนบ้างไหมว่า เราจะต้องให้เกียรติคนอื่น และควรทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น และรู้ว่าที่มาที่ไปของเขายังไง ถ้าคลิปวิดีโอสั้นๆ มันไปทำให้นักวิชาการท่านได้เขียนวิจารณ์แล้วไปกระทบกับความรู้สึกเด็กๆ แม่ก็ขอโทษ

- สำหรับคนที่ตัดคลิปไปลง แม่โบว์ บอกว่า ไม่ต้องเครียดเลย เข้าใจจุดประสงค์ว่า มีความรักและชื่นชอบในตัวเจย์และสมาชิก DICE ทุกคน แล้วจุดประสงค์ของน้องก็ไม่ได้คิดไปอะไรขนาดนั้น แต่ดันซวยที่ท่านที่มีองค์ความรู้เยอะมากแล้วก็มาโชว์ศักยภาพความรู้ในคลิปนั้น

...

- แม่โบว์ยังบอกอีกว่า คุณเก่งมีความรู้ยังไง อย่างน้อยคุณต้องเข้าใจในเรื่องของมารยาทและให้เกียรติคนในสังคมด้วย

- นอกจากนี้ แม่โบว์ ยังได้เขียนแคปชั่นเพิ่มเติมว่า “ถ้าคลิป 2 นาทีที่ทุกคนเห็นสร้างความไม่สบายใจ ต่อความรู้สึกของใครแม่ต้องขออภัยนะคะ แต่จะบอกว่าหลังบ้านเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนในครอบครัว เราเรียนรู้จากความรู้สึกคนในครอบครัวเป็นหลัก เด็กเด็กมั่นใจได้เลยนะคะว่า แม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ดูแลเจมาได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้บางครั้งเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่มันยากลำบาก แต่เราก็สามารถผ่านมันมาได้ ด้วยความรักและความเข้าใจของคนในครอบครัวค่ะ 2 นาทีสำหรับคนที่ตัดคลิป มันมาจากความรู้สึกดีๆ และความรักค่ะ แต่คนที่แปลงคลิปให้คนเห็นในเชิงลบ ไม่ใช่เจ้าของคลิปนะคะ ตัดคลิปต่อไปเลยลูก ถ้าทุกคลิปมันมาจากพลังบวกของหนู ดูแลความรู้สึกกันและกันต่อ”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม


...