ใช้ความพยายามในการมีลูกมากว่า 6 ปี มาวันนี้ได้เป็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว สำหรับคู่รักคนดังอย่าง หลุยส์ สก๊อต กับ นุ่น รมิดา หลังจากที่ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมานานกว่า 20 ปี และตอนนี้ได้เป็นคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงแล้ว นับวันรอเจอหน้าเบบี๋ในท้อง ซึ่งระหว่างกว่าจะมีเบบี๋ได้ ทั้งคู่สู้กันมาก จนเกือบที่จะถอดใจ แต่สุดท้ายต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้

ล่าสุด นุ่นกับหลุยส์ ได้มานั่งเปิดใจผ่านรายการ The Story Of... ทางยูทูบช่อง Thairath Variety - ไทยรัฐวาไรตี้ พร้อมกับเล่าตลอดช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมากับการไม่ยอมแพ้ในการมีลูก แม้ว่าจะเคยใจแตกสลายมา 1 ครั้ง แต่ก็ไม่ถอดใจยอมแพ้ จนกระทั่งได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก ทำเอาคนเป็นพ่ออย่างหลุยส์ถึงกับมีน้ำตาเลยทีเดียว

คุณพ่อตอนได้ยินเสียงหัวใจลูกครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?

หลุยส์ “อธิบายไม่ถูกครับ เพราะว่าคนแรกที่เป็นเอฟเฟ็กต์หรือที่เป็นแผลในใจของเราจริงๆ ก็คือตั้งแต่คนแรกที่หลุดไปเพราะว่าอาทิตย์นี้มีเสียง อาทิตย์ถัดมาไม่มีแล้ว เงียบเลยอ่ะ เราก็เลยรู้ว่าคุณหมอเขาเงียบ เขาไม่พูด เขามองหน้าแล้วก็ ต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีจับหัวใจน้อง ไม่มีชีพจรแล้ว จังหวะนั้นไม่รู้จะบาดเจ็บยังไงแล้ว คือช้ำ

เราไม่รู้ว่ามันเป็นบาดแผลกับเราจนคนนี้ เราได้ยินหัวใจเค้า ถึงรู้ว่าที่เรากังวลมากที่สุดคือเรื่องเสียงหัวใจ มันลุ้นออกมาเอง มันเป็นด่านแรกคือหัวใจต้องมีเสียงครับ ตอนแรกคือเราก็ไม่ได้รู้นะว่าเป็นแผล แต่เราลุ้นมาตลอด เราก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะอะไร ว่าทำไมเราตื่นเต้นชิบเป๋งเลย มันเป็นเพราะอะไร พอได้ยินปุ๊บ เราปล่อยหมด จำได้แล้วมันเป็นแผลของเรา โดยที่เราไม่ได้คำนึงถึงว่า”

...

นุ่น “มันจะเอฟเฟกต์ขนาดนั้น คือจริงๆ คลิปนั้นที่นุ่นลงตอนอัลตร้าซาวด์ จริงๆ อัดไว้เฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจเอาออกมาแต่มันมีความรู้สึกว่ามันเป็นคลิปที่น่ารักของหลุยส์ มันเป็นคลิปที่ถ้าใครเห็นทุกคนจะแบบ บางคนก็มีคำถามว่าขนาดนี้เลยเหรอ แต่เรามีความรู้สึกว่ามันผ่านอะไรมาเยอะไง

จนหลุยส์แบบ เอาจริงๆ นางเหมือนแบบจะเป็นลมวันนั้น มันสำคัญกับหลุยส์จริงๆ ส่วนนุ่นตึบตับเราก็ดีใจแล้ว แต่ของเขาเขาลึกกว่านั้นเยอะ ก็เลยเป็นภาพที่เก็บไว้ในใจเราสองคนว่าสำคัญกับเราจริงๆ วันหนึ่งลูกเห็นลูกคงแบบ เขาคงรู้ว่ามันมีความหมายกับเขามาก”

ตั้งแต่มีน้องชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง พอรู้ว่ามีน้องแล้ว?

หลุยส์ “ก็ยังไม่ได้ปล่อยความกังวลนะ เราเพิ่งจะมี ผมโดยเฉพาะเพิ่งจะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าปลดปล่อยความกังวลไป 50-60% ครับ เพราะว่าเราก็รู้แหละ ด้วยประสบการณ์ของเรา มันทำให้เรารู้ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เคสของเรานะครับ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เราก็เลยไม่ได้อยากจะ เหมือนจะต้องตื่นตัวตลอด รู้ถึงปัญหาและพยายามที่จะแก้ปัญหา ทั้งๆ ที่ว่ามันยังไม่มาด้วยซ้ำ ตอนนี้รู้สึกยิ้มแย้มได้และแฮปปี้กับโมเมนต์นี้ได้แล้ว”

คุณแม่ล่ะรู้สึกยังไงบ้าง ที่เราต้องมีอีกหนึ่งชีวิตที่เราต้องดูแลอย่างดี?

นุ่น “คือถ้าถามตั้งแต่แรกว่า ใครพร้อมสุด คู่นุ่น-หลุยส์พร้อมสุดแล้ว หนึ่งเรามีคลินิกเป็นของตัวเอง เราเรียนรู้จากหลายๆ เคสมาก่อนที่จะเป็นเราค่ะ เพราะฉะนั้นคือเรารู้ว่า 1 2 3 4 มันจะเป็นยังไงตามระบบ เพราะฉะนั้นตอนนี้เรารู้สึกว่าเรามีน้อง เริ่มเตะแล้ว มีการขยับตัวแล้ว นุ่นมองว่าเป็นเรื่องของสิ่งมหัศจรรย์มากกว่าค่ะ คือนุ่นอาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเยอะ เพราะว่านุ่นไม่ได้แพ้เหมือนคนอื่นๆ ที่เขาบอกว่าตื่นมาก็คืออ้วกเลย เวียนหัว

เพราะฉะนั้นชีวิตนุ่นเหมือนตื่นเช้ามายังดูปกติ คือยังเหมือนใช้ชีวิตปกติ เพียงแค่นุ่นต้องระวังเพราะด้วยเรามีน้องอยู่ในตัว ภาวะความเสี่ยงของนุ่นที่มีแท้งคุกคามอยู่ด้วย ไม่ว่าการเดินหรืออะไร เป็นคนกระฉับกระเฉง ก็จะโดนหลุยส์เตือนอยู่ตลอดเวลา บางทีก็ลืมตัว ตอนที่เราถ่ายรายการก็วิ่ง ลืม พอรีบเราก็จะลืมตัว เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณหมอแนะนำดีที่สุดสำหรับนุ่นตอนนี้ก็คือ ตอนที่เริ่มใส่ก็คือนอนอย่างเดียว นอนอยู่ที่บ้าน นั่นคือสิ่งที่นุ่นผ่านมา ก็เวิร์กค่ะ นั่นคือสิ่งที่นุ่นผ่านมา”

...

ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเหรอ?

หลุยส์ “คลื่นไส้อาเจียน อาจจะไม่ถึงอาเจียนแต่มีการคลื่นไส้ ก็คืออาจจะมีเลี่ยนอาหารบ้าง ระหว่างช่วงเวลาเดือนที่ 2 เข้าเดือนที่ 3 ที่ผมสังเกตว่าเขาเริ่มเปลี่ยนคือเรื่องอาหารสัตว์หรืออะไรที่มันอยู่ในหมวดหมู่ของโปรตีน เขาจะไม่ค่อยกินแล้วก็กังวลนิดหนึ่งว่าจะหาทางหลอกเขาให้กินยังไง มันก็ต้องมีอาหารเสริมเข้ามาบ้างที่เป็นโปรตีนเพราะว่าเขาเบื่ออาหารมาก”

นุ่น “ยากสุดของนุ่นคือท้องผูกค่ะ นุ่นคิดว่าแม่หลายๆ คนก็คงเป็นคือไม่คิดว่ามันจะลำบากขนาดนั้นจริงๆ คือปกติเราเบ่งได้ แต่อันนี้เราห้าม เรานั่งแช่อย่างเดียว นั่งแช่นานๆ ก็ไม่ได้ คือมันค่อนข้างอันตราย ก็เลยเป็นพาร์ทที่แย่ที่สุดของนุ่นในการที่ตั้งครรภ์นะคะ การกินการแพ้ท้องไม่ได้มีผลกับนุ่นเยอะ แต่น่าจะเป็นเรื่องนี้เรื่องใหญ่สุดของนุ่น”

มีแพ้ท้อง รำคาญเหม็นหน้าสามีไหม?

นุ่น “โชคดีไม่มีเลย โชคดีมาก ตอนแรกก็กลัวเพราะว่าทำยังไง อยู่กัน 2 คนแล้วหลุยส์ไม่อยู่ นุ่นจะทำยังไง แต่โชคดีที่ไม่มีค่ะ แต่ก็จะมีฟีลที่ว่าอารมณ์เปลี่ยนเร็วอย่างเช่นถ้าเจอเรื่องที่ตึงๆ เครียดนิดหนึ่ง จะสวิตช์อารมณ์เสียเลยจะแบบ เห้ย ทำไมต้องทำอย่างนี้ มันจะเร็วนิดหนึ่งกว่าปกติ แต่นี่เขาก็พยายามไม่ให้กวน มีเรื่องกวนใจเท่าไหร่”

หลุยส์ “พอมีน้ำเสียงเบอร์สอง เบอร์สามมาปั๊บ ผมก็ล้างรถฮ่ะเหมือนเดิม พอไปทำรถนี่สะอาดเลยครับ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านสวนนี่เล็มให้ครบเลยครับผม โรยปุ๋ย ฉีดต้นไม้ ขยันเลยนอกบ้าน”

นุ่น “เอะอะก็พาชาโดว์ไปเดินนอกบ้าน”

หลุยส์ “วันหนึ่งปกติสอง นี่พาเดินสามเลยครับ”

ใช้วิธีการเราหลบเองดีกว่า?

หลุยส์ “ใช่ครับ ผมว่ามันก็ช่วยได้เยอะ โดยที่เขาบอกว่าไม่มีอะไร ไม่ได้เหม็นขี้หน้านะ แต่อาจจะลึกๆ ข้างในอาจจะมีแต่ว่าโดยที่เขาไม่รู้ตัวก็ได้ เราก็เอ้อ เราออกไปข้างนอกให้นานๆ หน่อย เผื่อเขาคิดถึงแล้วค่อยกลับมา กลับมาเป็นปกติ เราก็จะจังหวะได้”

...

ใช้เวลา 6 ปีกว่าจะมีน้อง ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?

นุ่น "6 ปีมันต้องบอกว่าไม่ใช่แค่โฟกัสอย่างเดียวเนอะ 6 ปีมันรวมไปถึงกับพักถ่ายละคร ทำงานด้วยค่ะ มันใช้เวลาก็บวกกับสิ่งที่ผ่านๆ มาช่วงเริ่มต้น เคยตัดสินใจลองใส่น้อง นุ่นกับหลุยส์เคยตัดสินใจตอนใส่น้องคือช่วงนุ่นถ่าย พรหมลิขิต มั้งคะ คือเริ่มกลางๆ นุ่นตัดสินใจลองใส่เพราะว่าด้วยตัวละครบทนุ่นมันไม่ได้เหมือนภาคแรก

แล้วก็สุดท้ายมันคงเกิดความเครียดความกดดัน บวกกับการที่ไม่รู้ ตัวเองเดินเยอะไม่ได้ ก็ไปเดินห้าง อยากไปช้อปปิ้งอาหาร กลับบ้านมีเลือดออก ก็ไปต่อไม่ได้ มันก็ต้องหยุดโปรเซสนั้นไว้ประมาณหนึ่งถึงจะกลับมาทำใหม่ได้ ก็เลยค่อนข้างแต่ละโปรเซสต้องใช้เวลาพักฟื้น เริ่มกระตุ้นใหม่ มันเป็นอย่างนั้นตลอดในช่วง 6 ปี ก็เลยค่อนข้างใช้เวลานาน คือใช้เวลานานไม่ได้ทำมาตลอดนะ แต่อย่างที่บอกมันต้องมีพักถ่ายละครกันด้วย"

หลุยส์ "และทุกครั้งที่กระตุ้นเก็บไข่หรืออะไรโปรเซสมันก็ต้องมีเว้น ไม่เช่นนั้นร่างกายมันจะไม่ไหว"

...

นุ่น" เพราะนุ่นฉีดฮอร์โมนเข้าตัวเองตลอด สวิง อารมณ์นุ่นตอนนั้นยิ่งกว่าตอนท้อง ตอนนี้นุ่นอารมณ์ดีมากเลยนะ ดีแบบสุดๆ สำหรับความเป็นตัวเอง แต่ตอนกระตุ้นไข่มันโดนฮอร์โมนไปเยอะ บางช่วงดี บางช่วงแย่ มันดีพดาวน์ มันก็ต้องพัก เดี๋ยวไม่ไหว มันก็เลยใช้เวลาค่อนข้างเยอะ"

ศึกษาเรื่องการมีลูกจนตอนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญอีกหนึ่งคนแล้ว?

นุ่น "คือนุ่นโชคดี ตอนที่นุ่นตัดสินใจเข้าตรวจทำ IVF จริงๆ ปรึกษาหมอจริงจัง นุ่นไปเจอคุณหมอที่น่ารัก แล้วนุ่นเลือกคุณหมอเอง นุ่นกับหลุยส์ตัดสินใจขับรถไปสุพรรณบุรี เพราะสาขาแรกของคุณหมอชื่อ PWS คลินิก เราก็ขับไปหาคุณหมอ คุณหมอเขาดูแลเรื่องเนื้องอกให้นุ่นด้วย หมายถึงว่าคอยติดตาม เพราะคุณหมอเขามีประสบการณ์กับตัวเองไง คอยติดตามเรื่องเทรนด์การกินอาหารของนุ่น

เพราะคุณหมอเก่งเรื่องฮอร์โมนด้วย ก็จะตามให้ฮอร์โมนของนุ่นกลับมาเป็นปกติ เพราะฮอร์โมนมันเพี้ยน ก็ซัพพอร์ตกันไปมา ก็ขับรถไปหาคุณหมอบ่อย อาทิตย์หนึ่งประมาณ 4 ครั้ง ก็ถือว่าเหนื่อย จนวันหนึ่งบอกคุณหมอว่า เปิดกรุงเทพเถอะ หนูเหนื่อย เดี๋ยวขอหุ้นด้วยได้มั้ย

จริงๆ ก็พูดเล่น เพราะเราก็ผ่านประสบการณ์มาเยอะด้วย จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจจะมาอยู่กรุงเทพ ลูกๆ มาเรียนกรุงเทพ แล้วเขาจะมีเวลาอยู่กรุงเทพเยอะขึ้น เราก็เลยเหมือนความโชคดี พอมาอยู่กรุงเทพบวกกับการจูนกับหมอในการรักษานุ่น มันเครียดเหมือนกันนะ ในการขับรถไปสุพรรณตลอด แล้วพอมาอยู่กรุงเทพมันก็ง่ายขึ้น เหมือนกับร่างกายนุ่นได้พักเยอะขึ้น เอะอะอะไรก็ได้เจอหมอเร็ว"

หลุยส์ "ส่วนสำคัญคือเราอยู่ใกล้หมอด้วย และเราสร้างคลินิกพร้อมๆ กันเหมือนเป็นประสบการณ์บทเรียนหรือว่าเป็นบททดสอบของนุ่นไปด้วยเลยในการหาความรู้และปฏิบัติด้วย"

นุ่น "คือนุ่นมองว่าข้อดีของการทำคลินิกมีบุตรยากกับหมอ คุณหมอไม่ได้แค่ให้เรามาพูด เราลงเงินแล้วเราต้องไปศึกษาจริงๆ ต้องรู้ว่ายาตัวนี้คืออะไรใช้กับอะไร ขออนุญาตเคสเข้าไปนั่งในเคส เราก็เลยมีข้อมูลเยอะ และเห็นเคสเยอะ มันก็มีส่วนกำลังใจให้เราไปต่อ"

ก่อนหน้านี้ตลอดเส้นทาง 6 ปี เคยถอดใจไหม?

นุ่น "บ่อย ทั้งคู่เลย"

หลุยส์ "แต่มันไม่ถือว่าบ่อยครับ แต่มันถึงจุด สำหรับผมนะจุดที่เห็นเขาต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน ไม่ใช่แค่ว่าเก็บไข่คือจบนะ คือเราต้องมีขั้นตอนเยอะในการเก็บไข่ มันต้องมีวิธีรักษานู่นรักษานี่ กว่าจะเก็บไข่ได้ กว่าจะมีไข่ที่ดีได้ หรือว่าเราจะมีตัวอ่อนที่ดีได้

ขั้นตอนมันผ่านมาเยอะมาก ต้องทำหลายอย่าง ต้องเสียสละ เพื่อผมเยอะ มันถึงจุดที่ว่าผมก็ต้องบอกด้วยว่าถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะ เราอยู่กันสองคนผมก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีลูกก็ได้ เพื่อที่จะให้กำลังใจเขา ให้เขาปล่อยบ้าง พักบ้าง ถ้ารู้สึกไม่ไหวบอกเลย"

นุ่น "ส่วนของนุ่น นุ่นรู้สึกว่าไม่ได้เจ็บปวดอะไรขนาดนั้น การฉีดยาการกระตุ้นไข่ ไม่ได้รู้สึกว่าน่ากลัวตอนที่เก็บไข่ใดๆ แต่ว่านุ่นแค่รู้สึกว่าเพราะว่านุ่นโดนฮอร์โมนมาเยอะ นุ่นมีความรู้สึกมันวนลูป บางครั้งเกิดความเบื่อหน่ายกับตัวเอง อย่างเช่นเห็นคนอื่นได้ใช้ชีวิต

คือเราชอบผจญภัย ชอบเดินป่า แต่ชีวิตพวกนั้นต้องห่างเราออกไป พอกระตุ้นแล้วมันไม่ได้ไข่ต้องกลับมากระตุ้นใหม่ กระตุ้นแต่ละครั้งประมาณครึ่งเดือน จนนุ่นรู้สึกว่าจิตใจนุ่นมันบอบบาง อะไรกระทบรู้สึกว่ามันไม่ไหวจริงๆ มันเลยรู้สึกเหนื่อย

ถามว่ายอมแพ้ไหม ไม่ได้ยอมแพ้ แต่ว่ามันอยู่ในจุดที่มันเครียดแล้ว อะไรแตะนิดหนึ่งรู้สึกไม่ไหว หลุยส์เขาก็บอกว่า ยูถ้าไม่ไหว ไอไม่ได้ซีเรียสเลยนะ เราอยู่กันสองคนได้ เรารู้สึกดีที่ได้ยินนะ แต่ถามว่าเรารับไหม เราไม่เอา เราเดินหน้าที่จะมี ยังไงก็ต้องทำให้ได้ ต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้"

จากที่ผ่านมาใส่ไข่ทั้งหมดกี่ครั้ง?

นุ่น "เก็บประมาณ 7-8 ครั้ง เคยใส่ไป 1 ครั้งแล้วหลุดค่ะ คือนุ่นธรรมชาติ 1 ครั้ง ท้องเอง แล้วหลุด (หลุยส์) ก็เลยตัดสินใจโอเคเขามีปัญหาเรื่องเนื้องอก โอเค เราเลยจัดการปัญหาเรื่องเนื้องอก แล้วค่อยมาใส่ คนที่ 2 ก็หลุดไป เราก็เลยเรียนรู้จากตรงนั้นมา โอเค อันนี้เรารู้แล้วว่าเราไม่เหมือนคนอื่น เราก็เริ่มปรึกษากับคุณหมอ"

นุ่น "มีอย่างหนึ่งที่นุ่นต้องบอกคนที่กำลังวางแผนมีลูกอยู่จริงๆ คือนุ่นไม่ป่วยเป็นอะไรนะคะ ไม่ใช่ว่าร่างกายไม่สมบูรณ์นะ คือเราวางแผนกันช้า เราตระหนักการมีลูกช้าเกินไป คุณหมอที่นุ่นไปปรึกษา วันที่นุ่นเดินเข้าไปหาคือ 37-38 แล้ว

คุณหมอถามว่า ทำไมนุ่นไม่ฝากไข่ คือตอนนั้นเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 20 กว่า หมายถึงว่าคบกันตั้งแต่ 25 จริงๆ เข้าใจว่าความไม่ชัวร์มันเกิดขึ้นได้ แต่นุ่นก็ไม่เคยแพลนว่านุ่นจะเก็บไข่ไง เพราะฉะนั้นพอทุกคนมองว่านุ่นป่วยหรือมีลูกยาก มันยากตอนที่นุ่นไปมีตอนอายุเยอะ ไข่นุ่นมันก็เลยน้อย พอน้อยมันไม่มีประสิทธิภาพ เพราะการพักผ่อนเรามันน้อย เราไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง เราทำงานหนัก นอนน้อย การนอนมันมีผลต่อสุขภาพฮอร์โมนผู้หญิง"

เมื่อก่อนคนเขาจะบอกว่าอายุเยอะแล้วกลัวว่ามีลูกไม่ดี?

หลุยส์ “ไม่เกี่ยวนะ เขาวิจัยมาว่ามีลูกตอน 40 ลูกแข็งแรงสุด แล้วออกมาฉลาดมาก ผมก็ใช่เหรอพี่ แต่ผมก็ต้องอือออไปก่อน เพราะผมก็ 40 กว่า”

กว่าจะได้น้องคนนี้มาหมดไปเยอะไหม?

นุ่น “โอ้โห จะว่าไง คือช่วงแรกที่ยังไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับทางคลินิกค่ะ ก็ยอมรับว่า 3 ครั้งนี่ก็จุกๆ แต่ว่าก็ต้อง เพราะเราก็ต้องกัดฟันเนอะ หมายถึงว่านุ่นไม่เก็บไข่ เราทำ IVF พอได้ไข่เราก็ผสมเลย แต่ละที่มันจะมีเรทของมันอยู่แล้ว แต่ถามว่าใช้เงินเยอะมั้ย ใช้เงินเยอะ นั่นคือเหตุผลที่เราบอกทุกคนว่าอย่ารอให้มันยาก แพลนก่อน อันนี้คือมันยากมันต้องจ่าย”

เอาลูกสักกี่คนดี?

นุ่น “คนเดียวก่อน”

หลุยส์ “ตอนนี้เราก็ไม่อยากที่จะบอกว่า 2 จริงๆ แล้วเราอยากได้ 2 แต่ว่าอันนั้นคือตอนที่เราไม่รู้เรามีภาวะนี้ พอเรามามีตรงนี้แล้ว เราก็รู้ว่ามันยากลำบากอยู่ด้วย และก็ด้วยอายุของเราที่ไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว คิดว่าคนนี้ก่อนดีกว่า ถ้าคำตอบตอนนี้”

นุ่น “เปิดกว้างๆ ก็คือเอาคนนี้ให้สมบูรณ์ก่อนดีกว่าค่ะ ให้จบไปทีละเรื่องดีกว่า คือพอไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าคนแรกเราอาจจะแฮปปี้ คือเขาชอบพูดว่า มีคนแรกแล้วจะมีคนที่สองตามมา ใครจะรู้ ถูกมั้ยคะ นุ่นกับหลุยส์ก็เลยเปิดกว้างๆ แต่ถามว่าโฟกัส โฟกัสแค่คนนี้คนเดียวก่อน แค่นั้น”

ตั้งใจจะเป็นพ่อแม่แบบไหน?

นุ่น “ยุคใหม่ค่ะ ชัวร์ๆ เพราะว่าทุกวันนี้เราพยายามทำความเข้าใจกับ Gen Z เนอะ หลายๆ อย่าง เพราะหนึ่งเราเปิดคลินิก เราทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ด้วย เพราะฉะนั้นเรามีความเข้าใจว่าวิธีการทำงานเป็นยังไง วายเขาทำแบบนั้น ทำไมถึงคิดแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันหนึ่งถ้าเราเป็นพ่อแม่การที่เราได้ทำงานร่วมกับ Gen ใหม่ๆ เราก็จะมาปรับใช้กับตัวเอง อันนี้ความคิดของนุ่นนะ

รวมกับความคิดของนุ่นที่โตมากับคัลเจอร์ที่ค่อนข้างมีระเบียบ แล้วเรารู้ว่าตัวเราแหกกฎตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเรารู้ว่าเราไม่ชอบอะไร เราจะไม่ทำกับลูก มันก็เอาประสบการณ์ตัวเองมาสอน แต่ถึงใดๆ แล้วเราไม่รู้หรอกถึงเวลาเรากลับไปเป็นคนแบบนั้น เพราะฉะนั้นก็คือเรียนรู้เยอะๆ แต่ใดๆ ก็คือต้องตามโลกให้ทัน นุ่นว่ายังไงก็ต้องอยู่กับโลกปัจจุบัน ไม่อย่างนั้นเราอยู่กับเขาไม่ได้จริงๆ เพราะเด็ก Gen ใหม่มันเร็วมากๆ”

รับมือกับพี่เลี้ยงออนไลน์ยังไง?

นุ่น “สำหรับนุ่น นุ่นมีความกลัวอยู่นิดหนึ่งนะ ถ้าช่วงแรกๆ ค่ะ คือปกตินุ่นจะไม่ค่อยกลัวกับคอมเมนต์เท่าไหร่หรอก ถ้ามันมีอะไรนิดหนึ่งก็จะผ่านได้ แต่สิ่งที่นุ่นกลัวหลังคลอดเสร็จ มันจะมีพวกฮอร์โมน เพราะฉะนั้นคือช่วงแรกๆ ถ้าไม่ได้ตอบใครเลยอย่าว่าแล้วกันนะ พยายามที่จะเลี่ยงไม่อ่าน เพราะว่าเราไม่รู้ว่าภาวะจิตใจของเรา แค่เขาติงมานิดหนึ่ง อาจจะตีเป็นเรื่องใหญ่ ถามว่ากลัวมั้ย ก็กลัวเหมือนกันเพราะว่าวิธีเลี้ยงวิธีคิดไม่เหมือนกัน แล้วเราก็ไม่อยากเถียงเขาผ่านออนไลน์ เขาก็เซนซิทีฟ แต่เราเซนซิทีฟกว่า”

หลุยส์ “สำหรับหลุยส์คิดว่ามันก็ต้องมีอยู่แล้ว เพราะทุกคนต่างความคิดกันในวิธีการเลี้ยงลูก เพราะว่าหลายๆ คนเขามีประสบการณ์แล้ว ซึ่งหลุยส์ก็เข้าใจ จะหยิบมาใช้บ้างไม่ใช้บ้าง แล้วแต่เรา เพราะอันนี้ก็คือลูกของเราและวิธีเราที่เราจะเลี้ยง ผมว่าเดี๋ยวมันก็ต้องมีคนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว”

แต่ก็ยังลงคลิปลูกอยู่เหมือนเดิม?

หลุยส์ “ผมว่ายังไงก็ต้องลงคลิป เพราะว่าเราเป็นคนของสังคม เขาก็อยากเห็น เราให้ได้อยู่แล้ว แต่ว่ามันไม่ใช่ว่าถ่ายทุกวัน เขายังตัดสินใจเองไม่ได้จะอยากอยู่หน้ากล้องมั้ยเอาพอดีๆ”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม