ปิดตำนานลงอย่างสวยงาม สำหรับวง COCKTAIL (ค็อกเทล) วงดนตรีชื่อดังที่มีแฟนเพลงติดตามกันจำนวนมาก กับคอนเสิร์ตสุดท้าย “COCKTAIL 77 EVER TOUR” ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน กรุงเทพ ซึ่งมีแฟนๆ มาร่วมชมกันจำนวนมากทั้งชมสด และชมทางออนไลน์
ซึ่งความพิเศษของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ คือการเลือกปิดวง ในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นวันก่อตั้งวง COCKTAIL เมื่อ 23 ปีที่แล้ว
โดยบางช่วงบางตอนของการแสดง โอม ปัณฑพล นักร้องนำ ได้เปิดใจเล่าสิ่งที่อยู่ในใจตลอด 23 ปีที่ผ่านมาให้ฟังครั้งแรก โดยบอกว่า ที่เลือกวันนี้เพราะรู้สึกว่าเป็นวันที่มีความหมาย และฟังดูเบียวอย่างสวยงาม เป็นการปิดฉากอย่างสมบูรณ์
“ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา มันมีสิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจ เป็นแรงขับผม ตอนแรกไม่คิดจะพูด แต่สุดท้ายมีดิจิทัลฟุตพรินต์ ผมเลยคิดจะทิ้งสิ่งหนึ่งเอาไว้ 23 ปีที่ผ่านมา ผมมีแรงปรารถนาอย่างยิ่ง แรงขับที่ทำให้ลุกขึ้นมาทำงานในทุกๆ วัน คือผมเลือกที่จะเล่นดนตรีเป็นอาชีพ ผมแค่อยากพิสูจน์ว่า ผมสามารถสร้างอาชีพนี้ให้มั่นคงได้ ไม่ให้คุณพ่อคุณแม่ ไม่ให้ที่บ้าน ไม่ให้ภรรยาหรือลูก รู้สึกว่าการที่เราเลือกเล่นดนตรี ทำให้เขาลำบาก
...
แต่ผมไม่เคยคิด ไม่เคยเลยสักครั้งว่ามันจะมีอุปสรรคใหญ่มากๆ ที่กระทบกับความรู้สึกของผมตอนที่ยังเป็นเด็ก และไม่ได้เข้มแข็ง ไม่ได้เข้าใจโลกมากนัก วันที่ผมนั่งล้อมวงอยู่ในวงกลม G16 ผมได้ฟังเรื่องราวมากมาย ความในใจของพี่ๆ หลายคน ที่ได้พูดถึงช่วงชีวิตที่ลำบากยากเย็น อดมื้อกินมื้อ เหนื่อย ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง และก็ฝ่าฟันจนเป็นศิลปิน เป็นขวัญใจมหาชน เป็นที่รัก
และวินาทีนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมตระหนักว่า ผมเกิดมาสบายครับ ผมไม่มีปัญหาอะไรตรงนั้นเลยแม้แต่เรื่องเดียว เราที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่มีใครลำบาก โชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น และมีฐานะที่สบาย ไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่ไม่ต้องกลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่มีข้าวทาน มันฟังดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่มันเป็น มันกลายเป็นสิ่งที่ถูกเปรียบเทียบว่าไม่ใช่ตัวจริง ไม่ลำบาก เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
ครอบครัวดัน เงินซื้อได้ คนอื่นทำให้ ผมเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้เลยตลอด 23 ปีที่ผ่านมา เพราะผมเชื่อว่าผมอยากใช้ผลงานเป็นตัวเล่า ผมและวงจึงทำงานหนักตลอด 23 ปีที่ผ่านมา COCKTAIL เป็นอย่างแรกที่ผมนึกถึงเมื่อตื่นและอย่างสุดท้ายก่อนตาจะปิด 23 ปีผ่านไป
แต่โดยรวมแล้วเรื่องงาน COCKTAIL อยู่ตรงนั้นเสมอ เพราะผมอยากจะบอกเล่าเรื่องราวว่า แม้เราจะเกิดมาสบาย แต่ความตั้งใจความทุ่มเทในการทำงานมันไม่ต่างกัน แต่ผมอยากพิสูจน์ได้ว่าไบแอสที่มีอยู่ มันสามารถทลายลงได้เพราะเพลง โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดร้องขอความเห็นใจจากใคร ผมถึงไม่พูด ไม่แสดงอารมณ์ ไม่บ่น ไม่เล่า และปล่อยให้งานมันเล่าไป
ในที่สุดไม่ว่ามันสำเร็จมากน้อยแค่ไหน วันนี้ดีแค่ไหนผมก็ทำดีที่สุดแล้ว จะแย่แค่ไหนก็ไม่อาจแย่ไปที่สุดได้กว่านี้แล้ว กับคอนเสิร์ต 79 รอบ กับเพลงฮิตที่เราได้ทำขึ้นมา ถ้าคำว่าฮิตแปลว่ามีคนชอบและร้องตามได้แล้วกันนะครับ ผมน่าจะถูกยอมรับบ้างแหละ
แต่ในวันที่ผมเติบโตไปแล้ว ผมไม่ได้คิดอย่างเดิมแล้วครับ ผมไม่ได้รู้สึกที่จะเอาชนะอะไร หรือไม่ได้โกรธแค้นที่มีคนเขียนหรือว่ากล่าวว่า มึงไม่เคยลำบากอะไร ไม่เคยโกรธแค้นที่มีคนเขียน หรือว่ากล่าวว่ามันจะเคยลำบากอะไร เข้ามาแกรมมี่ก็ดังเลย คนอื่นเขาเป็นศิลปินใต้ดินมาตั้งกี่ปี ถ้าศิลปินใต้ดินที่เขาพูดถึง เป็นอินดี้อยู่ 3 ปี ผมเป็นอยู่ 8 ปีอ่ะครับ เขาไม่รู้
...
วันนี้ผมเรียนรู้แล้วว่า ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องของเราหรอก เขามีสิทธิ์จะมองเราแบบไหนก็ได้ แต่ผมไม่ได้อยากจะวิ่งตามเอาชนะอะไรอีกแล้ว ผมแค่อยากทำสำเร็จตามเป้าเพื่อพิสูจน์ว่า สุดท้ายแล้วดนตรีมันก็แค่ดนตรี ดนตรีสามารถที่จะเชื่อมเราเข้าหากันโดยไม่จำเป็นจะต้องมีกำแพงของเพศ ฐานะ ความเชื่อ หรืออะไรก็ตามแต่ ชอบเพลงหนึ่งก็ได้ แต่ไม่ชอบอีกเพลงหนึ่ง ชอบอัลบั้มหนึ่งก็ได้ เคยชอบแล้ววันนี้ไม่ชอบก็ได้ แต่ถ้าเราครั้งหนึ่งรู้จักกันแล้ว ก็รู้จักกันตลอดไป
ผมมองว่าผมประสบความสำเร็จที่สุดแล้วในชีวิตครับ คือการมายืนในท่ามกลางความรักมากมายจากพวกคุณ และก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การทำงานหนักสามารถที่จะทำให้วงดนตรีวงหนึ่งเดินทางและพิสูจน์ได้แล้วว่า เราสามารถสร้างชีวิตที่มั่นคงได้ด้วยดนตรีจริงๆ นั่นคือเรื่องที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตเลยครับ
เพราะว่ามันจบแล้วถึงเล่าได้ ณ ขณะนี้ไม่ได้ขอความเห็นใจเลย ไม่ใช่เลย มันอยู่ในเพลง “ชั่วชีวิต” ชั่วชีวิตฉันไม่เคยเรียกร้องให้ใครเห็นใจ ฉันไม่ง้อใคร หยิ่งเสมอมา แต่วันนี้ขอบคุณจริงๆ ครับ ดีใจที่ได้รู้จักกัน เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ครับ”
...
หลังจากที่ โอม พูดจบ ด้านแฟนเพลงต่างปรบมือให้ดังทั่วสนามกีฬาเทพหัสดิน และบางคนต่างมีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา รู้สึกทั้งเศร้า มีความสุขไปพร้อมกัน โดยในช่วง 4 เพลงสุดท้าย โอม ให้สมาชิกทั้ง 6 คนออกมายืน ซึ่ง โอม บอกไว้แล้วว่า คอนเสิร์ตนี้ทุกคนจะขึ้นมาอย่าง COCKTAIL แล้วจะลงไปแบบ โอม, เชาว์, ฟิลลิปส์, เหน่ง, ปาร์ค, เอ็กซ์ จะไม่ใช่ COCKTAIL อีกต่อไป
และคอนเสิร์ตนี้ก็จบลงอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยความสุขและน้ำตา ท่ามกลางการสวมกอดของสมาชิกทุกคนในวง โดยเฉพาะ เชาว์ ที่ได้เดินมาสวมกอดโอม พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาแบบสุดกลั้น ทุกภาพความทรงจำของคอนเสิร์ตสุดท้าย กลายเป็นความตราตรึงใจ และยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า COCKTAIL ไม่ได้เป็นเพียงแค่วงดนตรี แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลายคน
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม
...