เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปแล้วเรียบร้อย สำหรับนักแสดงสาวคนเก่ง มายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล และนักธุรกิจหนุ่ม พาย สุนิษฐ์ สก๊อต ทายาทตระกูลภิรมย์ภักดี โดยล่าสุดทั้งคู่ควงคู่เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกถึงงานฉลองมงคลสมรส ณ ห้องนภาลัย ชั้น 1 โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาเลือกธีมมิวสิกเฟสติวัล ที่ได้แรงบันดาลใจจากความชื่นชอบในดนตรีของทั้งคู่

- วันนี้ตื่นเต้นมาก พายบอกตอนแรกคิดว่ามีเวลาเตรียมตัวนาน แต่อยู่ดีๆ ก็ถึงเลย อาทิตย์สุดท้ายค่อนข้างลน มายด์เสริมว่าเราเตรียมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็คิดว่าไม่เป็นไร ชิลๆ มีเวลาเป็นปี แต่สักพักทุกอย่างเข้ามาจนวินาทีสุดท้าย ตื่นเต้นแต่ก็สนุกดี งานสเกลค่อนข้างใหญ่ จะมีความกังวลนิดนึง ก็ต้องรอดูฟีดแบ็กว่าเป็นยังไง

- เรื่องธีมงานแต่งเป็นมิวสิกเฟสติวัล พายบอกว่าเป็นคนชอบคอนเสิร์ตกับดนตรีทั้งคู่ เลยคิดว่างานแต่งงานก็เอาให้สุด ให้เป็นตัวเอง ไลน์อัปศิลปิน มายด์บอกว่าจริงๆ มีศิลปินทาง Muzik Move อยู่แล้วด้วย ซึ่งก็รู้จักกันคุ้นเคยอยู่แล้ว ส่วนพี่ป๊อก (ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์) ก็รู้จักกันอยู่แล้ว อยากให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของงาน ก็มีแต่คนที่เรารักมาร่วมสนุกกับเรา

...

- ชีวิตหลังเป็นสามีภรรยาก็เหมือนเดิม ถามว่าต่างจากการเป็นแฟนไหมไม่ต่างอะไรมาก ก็ดีใจที่มาจนถึงวันนี้ด้วยกันทั้งคู่

- ส่วนเส้นทางความรัก มายด์-พาย รู้จักกันได้เพราะมารีน่า (ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า) น้องสาวพี่มาร์กี้ เป็นคนจับแมตช์ ตอนนั้นมารีน่าและพี่ผู้ชายเป็นเพื่อนกับคุณพายพอดี แล้วมองว่าน่าจะไลฟ์สไตล์ตรงกันก็เลยจับแมตช์กัน พายบอกว่าแต่ก็ไม่ได้ปิ๊งกันทันที เป็นเพื่อนกันมากกว่า ชวนมาเล่นดนตรี ชวนไปดูคอนเสิร์ต พาไปเที่ยวด้วยกัน ก็รู้สึกว่าคนนี้เวิร์คดี ก็เลยค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ 

- ถามว่ามายด์ชนะใจยังไง พายบอกว่าเขาเป็นคนที่ฟังเพลงดี เป็นคนลุย ไปคอนเสิร์ตผมชอบเดินเยอะมาก เขาไม่เคยบ่น เดินไปด้วยทุกที่ เป็นคนจิตใจดี นิสัยดี ดูแลเราดี เลยคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นคนที่ใช่

- ด้านมายด์บอกว่า สเปกเราชอบลูกครึ่งอยู่แล้ว ข้างนอกเขาผ่านหมดเลย ก็ใช้วิธีเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เขาเป็นคนน่ารัก สม่ำเสมอ วันแรกเป็นยังไง ทุกวันนี้ยังเป็นอย่างนั้น ไม่มีเปลี่ยนเลย มีแต่จะพัฒนาดีขึ้น บางอย่างเราไม่โอเคก็จะบอกตรงๆ เขาก็ค่อยๆ ปรับ เราก็เห็นว่าเขามีการพัฒนาเพื่อเรา ก็เลยประทับใจ

- คบกันมา 8 ปีแล้ว เดือน ก.พ. ก็จะครบรอบ 9 ปี ตอนขอแต่งงานก็คบมา 7 ปี ทลายเลขอาถรรพ์ด้วยการขอแต่งงานเลย พายบอกว่าความรัก 8 ปีก็สนุกมาก เราได้ทำอะไรด้วยกันเยอะ ไปดูวงที่เราอยากดูมานานเยอะ เป็นการเดินทางที่สนุกและเต็มไปด้วยเพื่อนฝูง ส่วนมายด์บอกว่าพอเราได้ทำกิจกรรมร่วมกันเยอะ เรารู้สึกว่าคนนี้เป็นได้ทั้งเพื่อน แฟน พี่ ครอบครัว เป็นได้ทุกอย่างเสมอ เลยรู้สึกว่าชีวิตที่เหลืออยากใช้อยู่กับเขา

- ตัวเชื่อมความรักคือบทสนทนาแรก ถามเลยว่าชอบวงอะไร ฟังเพลงแนวไหน เป็นคำถามแรกที่มายด์ถามเขาเลย ตอนเจอกันเดตแรกเขาเงียบๆ เราไม่รู้ว่าจะชวนเขาคุยอะไรดี เราเลยถามคำถามนี้ จริงๆ ไม่ใช่แค่ถามเขา เป็นคำถามเบสิกที่มายด์ชอบถาม

- เรื่องแพลนอนาคต มายด์บอกจริงๆ ปีหน้าก็อยากมีลูกเลย เราเที่ยวด้วยกันมาเยอะแล้ว 8 ปีที่ผ่านมาได้เที่ยว ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมาเยอะมากแล้ว ก็เตรียมพร้อมสำหรับสเตปต่อไปแล้ว ส่วนจะมีกี่คน พายบอกว่ารอดูแล้วกัน ถามว่าแฝดเลยไหม มายด์บอกน่าจะเหนื่อย เห็นตัวอย่างของพี่ป๊อกพี่กี้แล้วมันสนุก แต่พอทุกอย่างมันดับเบิ้ลก็ไม่รู้จะไหวมั้ย

...

- พายบอกว่าจริงๆ ตั้งใจจะแต่งงานตอนอายุ 35-36 ปี แพลนไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้บอกเขา มายด์บอกว่าแล้วมันเป็นแพลนอายุในใจมายด์เหมือนกันว่าตัวเองอยากแต่งงานตอนอายุ 30 ปี มีลูกอายุ 32 ซึ่งเป็นอายุที่พอดีสำหรับเขา เขาก็อยากแต่งตอนอายุ 35 ปี มายด์กับเขาห่างกัน 5 ปี มันเลยลงตัว ส่วนพายหยอดว่าโชคดีเจอคนที่ใช่ด้วย

- ส่วนการดูแลกันในฐานะสามีภรรยา มายด์บอกว่าทุกวันนี้ก็เริ่มแล้ว ชงกาแฟให้เขาทุกเช้า มีชาเขียวใส่กระติกเก็บความเย็นให้เขาไปทำงานทุกวัน ต่อให้วันนั้นเราไม่มีงานตอนเช้า แต่เขาต้องออกไปทำงานตอนเช้า เราก็จะตื่นมาทำทุกอย่างให้เขาไว้ พายบอกว่าประทับใจมาก เขาชงกาแฟอร่อยมาก ชาก็อร่อย 

- ส่วนเรื่องทำอาหาร มายด์บอกว่าจริงๆ ตอนเด็ก ที่บ้านเป็นคนจีน ต้องทำของไหว้ มันมีสกิลการทำประมาณนึงอยู่แล้ว แต่พอมาเจอเขา เขาเป็นคนทำอาหาร แล้วเขาทำเก่งมาก เพราะเขาเคยเรียนเชฟมาก่อน ก็เลยรู้สึกว่าสรุปยูจะทำอาหารใช่มั้ย ถ้างั้นเรารอกินนะ แต่ก็ทำได้ เดี๋ยวจะพยายามลองทำ มายด์ไม่ถนัดอาหารฝรั่งเลย เคยทำแต่อาหารไทยกับจีน แต่เขาถนัดทำอาหารฝรั่ง

...

- มายด์บอกว่าตอนนี้ยังไม่กล้าเรียกเขาว่าสามี ทุกวันนี้เวลาเขาจะแนะนำเรากับเพื่อนคนอื่นว่าเป็นภรรยาก็ยังแบบยูๆ พายบอกมันขำ พูดแล้วมันตลก มันจั๊กจี้ มายด์บอกยังไม่ค่อยชิน แต่เดี๋ยวก็คงชิน

- ส่วนงานวันนี้ในธีมมิวสิกเฟสติวัล มายด์บอกว่าก็สมใจอยากมาก เรื่องศิลปินที่มาโชว์วันนี้ จริงๆ ตอนแรกแพลนไว้แค่ 10 คน แต่ไปๆ มาๆ เริ่มเกินไป 12-14 แล้ว แต่เราพยายามจัดการเรื่องเวลา โชคดีเราได้แพลนเนอร์ดี ออแกไนซ์ที่ดีมาก ทำทุกอย่างลงล็อกหมดเลย

- เรื่องคำมั่นสัญญา พายบอกว่าจริงๆ ไม่มี ผมเป็นคนยังไงก็ยังงั้น ตรงไปตรงมา ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรมากกว่านี้ มายด์บอกว่า รู้สึกว่าการอยู่กันไปแบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมามันพิสูจน์ได้หลายๆ อย่าง เราอยู่แบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำสัญญาอะไรต่อกันเลย พายเสริม “อยู่ให้สบาย ไม่ต้องอยู่ให้มันเยอะ”

- ส่วนมุมน่ารักของพาย มายด์บอกว่า เขามีความอ้อนบ้างบางที รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ครบรสสำหรับเรา จะมีมุมหวานก็มีให้ได้ มุมเท่ก็มี เป็นคนมีความสามารถรอบตัว เป็นคนฉลาด มีความรู้เยอะมาก คบกับเขาแล้วเรารู้สึกว่ากลายเป็นคนฉลาดขึ้นมาเลย เพราะเขาชอบพาไปพิพิธภัณฑ์ พาไปโน่นนี่ เวลาไปเที่ยวไหนตอนอยู่บนรถเขาก็บอกให้หยุดเล่นโทรศัพท์แล้วมองทางหน่อยได้ไหม แล้วบอกว่าตรงนี้มันคืออะไร พายบอกว่าโทรศัพท์เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอเราไปเที่ยว อยากให้ซึมซับทุกอย่างให้มากที่สุด เราไปเที่ยวด้วยกันก็อยากแชร์โมเมนต์นั้นด้วยกัน

...

- มุมน่ารักของมายด์ พายบอกว่า จริงๆ เขาเก่งทุกอย่างเหมือนกัน มีความสามารถเยอะ ร้องเพลงได้ เป็นคนตลก น่ารัก เป็นคนเลี้ยงหมาเก่งมาก มันไม่ใช่ทุกคนที่จะได้หมามาแล้วสามารถเลี้ยงให้มันฉลาด แต่เขาสอนได้ สอนหมาได้ก็ต้องสอนลูกได้ 

- ส่วนแพลนฮันนีมูนจะไป Alaska เพราะเป็นที่ที่มายด์ไม่เคยไป แต่พายเคยไปแล้วและเขาชอบ พายบอกว่า เคยไปแล้วและอยากพาไป มันเป็นที่ที่เป็นธรรมชาติ แล้วพวกเราชอบหมี อยากไปดูหมี มายด์บอกว่าเขาเป็นคนจอยเวลาไปต่างประเทศ ชอบไปดูสวนสัตว์ ดูสัตว์น่ารัก ชอบพาเราไปดูธรรมชาติ ไม่ใช่แค่มีแค่ไปดูเทศกาลดนตรีอย่างเดียว เราก็จะไปเที่ยวที่เป็นธรรมชาติด้วย เราก็รู้สึกว่าควรมีทริปแบบนี้ปีละครั้ง อย่างปีนี้เพิ่งไปแทนซาเนียมา เราอยู่กับธรรมชาติแล้วดีจังเลย

- ส่วนงานในวงการบันเทิง มายด์ยืนยันว่ายังทำเหมือนเดิม ทำเท่าที่ไหว เราจะไม่หายหน้าไปจากวงการ ดังนั้นยังจ้างได้เหมือนเดิมนะคะ ถึงจะมีลูกก็สามารถอุ้มท้องไปทำงานได้ มายด์เป็นคนชอบทำงาน ไม่ชอบอยู่เฉยๆ พายบอกว่าโอเค เพราะเราก็ทำงาน ก็ดีเขาจะได้มีอะไรทำ เห็นเขาทำงานก็สนุก

- ถามว่าพายจะมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงบ้างไหม พายบอกว่าเห็นกล้องสื่อเมื่อกี้ก็ตกใจ คือไม่ถนัด แต่ถ้าเล่นดนตรีเล่นได้ เพราะไม่ต้องพูดอะไร แต่ถ้าให้ไปพูดก็เขิน ไปถ่ายรายการ “3 แซ่บ” มาก็ยังไม่ดูตัวเองเลย มายด์เสริมว่าเปิดทีวีแต่นั่งกินข้าวไม่มองทีวีเลยเพราะเขิน

- ปิดท้ายมายด์บอกกับพายว่า “มายด์อยากขอบคุณเขาที่ทำให้มายด์เป็นคนที่ดีขึ้น ขอบคุณที่… (เสียงสั่นก่อนจะหัวเราะ) มายด์มีชีวิตที่มีความสุข มีชีวิตที่สนุกสนานขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขา ขอบคุณที่พามายด์ไปเปิดโลกที่มายด์ไม่เคยเจอเยอะแยะมากมาย ขอบคุณที่ทำให้มายด์เป็นคนเก่งขึ้น รับผิดชอบตัวเองดีขึ้น เป็นคนที่มีสติ ทำอะไรก็คิดมากขึ้น ขอบคุณที่เป็นสติให้มายด์เสมอ อันนี้เป็นสิ่งที่มายด์ประทับใจในตัวเขามาก ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะเข้าวัดสวดมนต์ทำวัตรเย็น แต่ขอบคุณที่ทำให้มายด์กลายเป็นคนที่อยากไปวัด สวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน”

- ส่วนพายบอกกับมายด์ว่า “ขอบคุณที่เป็นคนที่จิตใจดีแล้วกัน มีน้ำใจที่ดี เป็นคนที่อาจจะดื้อนิดนึงแต่ยังเชื่อฟังและก็พยายามปรับตัวให้เรา เป็นคนที่ไม่คิดเล็กคิดน้อย สร้างบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันที่ดี เราไปไหนก็มีความสุข ไปเที่ยวก็ไม่ค่อยทะเลาะกัน ไปแล้วก็สนุกอย่างเดียวเลย ที่จริงผมคิดว่าเวลาคนเรามีอยู่แป๊บเดียวนะก็ตาย ฉะนั้นเราก็อยากหาคนที่เราสามารถอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ใช้ชีวิตด้วยกัน มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน เป็นคนที่ดี ขอบคุณที่รักผมครับ”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม