หลังจากที่พระเอกหนุ่มหนวด บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ โพสต์ทวงเงินลูกหนี้ผ่านทางไอจีสตอรี่จนกลายเป็นประเด็นร้อน ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าคู่กรณีติดหนี้ 14 ล้านบาท และยังไม่ได้เงินคืน จึงขอใช้สื่อทวงหนี้ ถ้าไม่ได้คืนก็จะพึ่งกฎหมาย ล่าสุดนักข่าวอัปเดตถึงเรื่องนี้กับบอยอีกครั้งหลังบอยทำหน้าที่พิธีกรในรายการ “In the 8ight” รอบไฟนอล ที่เวิร์คพอยท์สตูดิโอ จ.ปทุมธานี ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ขออนุญาตอัปเดตเรื่องเงิน 14 ล้านบาทเป็นไงบ้าง?
“ก็ได้ติดต่อเจอกับบุคคลท่านนั้นแล้วเรียบร้อยครับผม ก็ได้มีการมาทำสัญญาตกลงรับสภาพหนี้ ในสัญญาก็จะระบุว่าพี่เขาจะทำการผ่อนชำระผมทั้งหมดกี่งวด งวดละเท่าไหร่ จนถึงเมื่อไหร่ ทำต่อหน้าทนายของทั้งสองฝั่ง”
เขาแสดงความจริงใจที่จะชดใช้หนี้ไหม?
“ก็เท่าที่ดูเขาก็แสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะชดใช้แหละ แต่ว่าถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับต่อจากนี้ เราก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ในแง่ที่ว่าเขาจะผ่อนชำระตามงวดที่ตกลงกันไว้หรือเปล่า คือพูดแบบง่ายๆ เลย ทุกคนคงเคยได้ยินมาแหละ ทำหนังสือก็ทำกันไป สุดท้ายชำระไม่ชำระ ก็นี่แหละ ปัญหามันเกิดตรงนั้น ก็หวังว่า สาธุ (ยกมือไหว้) ขอให้ชำระตรงทุกงวดครับ (อันนี้คือได้เจอตัวเขาเลย?) ใช่ เจอเขาครับ”
...
แล้วเป็นยังไงบ้าง สบายใจมากขึ้นไหม?
“ก็สบายใจขึ้นไปเปราะหนึ่ง ว่าเราได้ทำหนังสือตกลงกันเรียบร้อยสักที ก่อนหน้านี้ที่ผมคุยแล้วก็ตาม ก็เพื่อหนังสือฉบับนี้แหละ ที่ว่าเขาต้องมารับสภาพหนี้กับผม และมาเซ็นหนังสือสัญญาค้ำประกัน ที่ผมต้องการก็คือหนังสือฉบับนี้แหละ แต่ที่นี้พอได้มาแล้วก็สบายใจเปราะนึง สุดท้ายจะให้สบายใจจริงๆ ก็คือต้องได้เงินจนครบก่อน”
ระยะเวลาในหนังสือกำหนดไหมว่าต้องชำระหมดเมื่อไหร่?
“กำหนดหมด แต่ขอเป็นรายละเอียดข้างในแล้วกัน ถามว่ากำหนดมั้ยก็กำหนดรายละเอียดชัดเจน”
เขาบอกเหตุผลไหมว่าทำไมตอนนั้นเขาหายไป?
“เรื่องหายไปผมก็ไม่ได้ถามเขาเยอะมาก มีถามบ้าง เขาก็ตอบในทำนองว่าเขาก็เครียด หาทางออกยังไม่เจอ ไม่รู้จะตอบเราว่าอะไร ได้ฟังเหตุผลเขา ก็เกี่ยวกับเอาเงินไปทำธุรกิจแหละ”
ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายใช่มั้ย?
“ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องหรือแจ้งความอะไร แต่ผมแจ้งเขาแล้ว และในหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ก็ระบุชัดเจน ว่าเมื่อไหร่ที่เขาผิดนัดชำระแม้แต่งวดเดียว ผมก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที”
การที่เขากลับมาเกิดขึ้นจากการที่ออกสื่อด้วยไหม?
“อันนี้ผมไม่ทราบ ผมไม่แน่ใจครับ”
หน่องว่าไงบ้าง?
“คุณหน่องก็โอเค สบายใจ เพราะไม่ใช่เงินคุณหน่อง (หัวเราะ) แต่หน่องก็มาเป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ผมเยอะมากมายเลย โดยเฉพาะตั้งแต่แม่ไม่อยู่ ไม่น่าเชื่อเนอะ แต่หน่องมาดูแลเรื่องธุระในบ้าน การเงินต่างๆ เหมือนหน่องจะรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ต้องทำอะไรต่อ คือหน่องมีความสนใจทางนี้บ้างอยู่แล้ว หรือมันแอบตั้งใจจะฮุบ (ยิ้ม) ปกติจะเป็นภัทรกับหน่องด้วย แต่อันนี้หน่องมาช่วยดูแล ก็ดีครับ”
กับคู่กรณีก็เป็นคนรู้จักกัน ความสัมพันธ์จะเป็นยังไง?
“คือผมเองก็ไม่ได้ชอบมีปัญหาทะเลาะกับใครจนถึงขั้นไม่เผาผีกัน เอาเป็นว่า ณ ตอนนี้ ถ้าเขาชำระทุกงวดจนครบ สถานะความเป็นคนรู้จักกันก็ดำเนินต่อไป แต่ถามว่ากลับมาร่วมงานกัน คงไม่มีแล้ว ผมก็เข็ดแหละ แต่ถ้าเมื่อไหร่เขาผิดนัดชำระแม้แต่งวดเดียววันเดียว ผมก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ความสัมพันธ์ตรงนั้นผมคงไม่สนแล้วแหละ แต่วันนั้นก็คุยด้วยดีครับ แต่ดีเทลกว่าจะมาถึงจุดที่มานั่งเซ็น มันก็ผ่านกระบวนการหลายอย่าง ที่ทำให้ผมเริ่มหมดความอดทน”
...
เราไม่ได้เป็นเจ้าหนี้เขาคนเดียวใช่ไหม?
“อันนี้ผมไม่รู้”
แสดงว่าก่อนหน้านี้เขามีเงื่อนไขเหมือนกัน ก่อนที่จะเป็นสัญญาฉบับนี้?
“เหมือนกับว่าสมมติตกลงกันแล้วว่าเป็นเงื่อนไขนี้ เจอกัน 3 วันข้างหน้า ความจริงก็คือควรจบแค่นั้น แต่พอ 3 วันต่อมา มาขอเงื่อนไขใหม่ไปเรื่อยๆ หลายๆ ครั้ง หรือพออีก 3 วันติดต่อไม่ได้ จนมันก็ขยับเวลามาเรื่อยๆ ผัดวันประกันพรุ่งนั่นแหละ จนสุดท้ายผมก็รู้สึกว่าทำไงอะ ตามด้วยตัวเองไม่ได้ ให้พี่ทนายช่วยก็ยาก คงต้องตามออกสื่อแล้วแหละ (แต่เขาอยู่เมืองไทยใช่ไหม?) เขาอยู่เมืองไทยครับ”
ส่วนตัวเผื่อใจไหมอาจจะไม่ได้?
“อุ๊ย แรงมากเลย คือเอาจริงๆ ผมก็หวังจะได้เงินทุกบาทของผมคืนมา เพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงที่ผมหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายอันเหน็ดเหนื่อยของผม แต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ครับ ถามว่าเผื่อใจไว้ไหมก็นิดหน่อยแหละ ไม่รู้ต้องไปเหนื่อยในกระบวนการทางศาลต่อหรือเปล่า ก็หวังว่าเขาจะไม่ผิดนัดชำระแม้แต่งวดเดียวครับ งวดแรกที่ต้องจ่ายก็เร็วๆ นี้แหละครับ”
ธุรกิจนี้เราจะไปต่อไหม?
“คือมันเป็นธุรกิจโปรเจกต์บายโปรเจกต์ ถามว่าผมจะไปต่อมั้ย คือถ้าไปต่อก็คงไม่ไปต่อกับเขาแล้วครับ แต่ส่วนจะไปต่อมั้ยคงต้องรอดูสถานการณ์ทั่วๆ ไปครับ”
...
อัปเดตอาการต่อมน้ำลายอักเสบ?
“เท่าที่พี่ๆ ได้เห็น บางช่วงก็บวม บางช่วงก็ยุบ ช่วงนี้ก็บวมขึ้นมานิดหน่อย ต้องอธิบายก่อน หลายๆ คนจะกังวล ผมเองก็กังวล พอมีบางอย่างบวมขึ้นมาแถวคอ แน่นอนเรากังวลอยู่แล้ว แล้วก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์ของแม่มา เราก็กังวลว่าเป็นเนื้อไม่ดีหรือเปล่า
ผมก็ไปเช็กว่ามันอันตรายไหม เป็นเนื้อไม่ดีหรือเปล่า ก็เช็กหลายรอบมากและหลายวิธี ค่อนข้างมั่นใจว่ามันไม่ใช่เนื้อที่ไม่ดีอะไร มันเป็นเรื่องของท่อน้ำลายที่มันตีบ ทำให้น้ำลายออกจากต่อมน้ำลายไม่ได้ เลยกลับไปอยู่ในต่อมน้ำลายเหมือนเดิม เลยทำให้บวมขึ้น ที่ผ่านมาก็รักษาชั่วคราว คือไปเจาะดูดน้ำลายออก มันก็จะยุบบ้างในบางที แต่ช่วงนี้ก็กลับมา แต่วิธีที่รักษาให้หายขาดจริงๆ คือต้องไปทำการผ่าตัดเล็ก
ตอนแรกผมแพลนว่าจะผ่าประมาณปลายกุมภาพันธ์ เพราะด้วยตารางงานต่างๆ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมรอไม่ได้แล้ว เพราะมันกลายเป็นว่าผมจิตตกเวลาส่องกระจก ก็จะคอยดูว่ามันบวมขึ้นหรือเปล่า ตอนถ่ายเห็นไหม ก็เลยรู้สึกว่างั้นต้องรีบแล้ว ความจริงคุยกับคุณหมอว่าจะผ่าก่อนปีใหม่เลย แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ก็เดี๋ยวผ่าหลังปีใหม่เลยครับ”
จริงๆ มันมีผลกับน้ำลายในปากของเราไหมในการใช้ชีวิต?
“ปกติมากๆ ไม่มีผลอะไรเลยสักอย่าง ไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไร มีแค่ว่าบวมออกมาให้ทุกคนได้เห็นแค่นั้นเลย ผมเชื่อว่าหลายคนเป็นห่วงแหละ ก็ยืนยันอีกที ว่าทุกอย่างปลอดภัยครับ ไม่มีอะไรแค่มันบวม แค่ไม่เป็นเนื้อไม่ดี ผมโอเคแล้ว สบายใจไปเปราะหนึ่งแล้ว”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม