รายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย สัมภาษณ์ ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือ ทนายปาเกียว ถึงเรื่องตอนไปรับคดีของ นานา ไรบีนา เมื่อวานนี้ที่ไปประกันตัว มูลค่า 50 ล้านบาทที่จะมีการประกันในชั้นสอบสวนจริงไหม ทนายสายหยุด แจงว่า โดยหลักการแทบไม่เคยให้ใครประกันชั้น สน. หรือโรงพัก เขาจะเรียกทุนทรัพย์ 1 ใน 3 ของความเสียหาย ซึ่งใครจะเอาเงินที่ไหนมา 50 ล้านบาท แต่ที่ศาลจะพิจารณาหลักประกันจากอัตราโทษสูงสุดที่โดนกล่าวหา ในครั้งนี้สูงสุดที่โดนกล่าวหาคือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ศาลในเรตความผิดนี้ ขั้นต่ำอยู่ที่ 5 แสน
แต่ทีนี้มันมีพวกฉ้อโกง อ้างว่าหลอกเทรดหุ้นด้วย เอกสารด้วย มันหลายฐาน ผมก็คำนวณว่าลูกความผมไหวที่เท่าไหร่ ก็เลยเขียนไปก่อนว่า 1 ล้านบาท มีเวลา 1-2 ชม. หามา รับเป็นเงินสด ผมใส่ไป 1 ล้านบาทเท่านั้นเอง ความเสียหายมากน้อยแค่ไหน จะฉ้อโกง 100 ล้าน หรือฉ้อโกง 1,000 บาท อัตราโทษเท่ากัน แต่คนบอกว่าความเสียหายวงกว้างวงสูง มันไม่เท่ากัน ไม่ใช่อย่างนั้น กฎหมายไม่ได้เขียน ผมก็ยื่นไปล้านนึง และเขียนเหตุผลประกอบไปเกือบ 10 ข้อ
...
ส่วนเหตุผลที่เขียนไป เราบอกว่า หนึ่งเป็นการกล่าวหาของผู้กล่าวหาเพียงฝ่ายเดียว ชี้ให้เห็นบางส่วน ความเสียหายรวมตามคำเรียกร้องฝากขัง 160 กว่าล้าน ตอนแรกบอกข่าวว่า 400 ล้านบาท หายไปแล้ว 250 ล้าน ผู้ต้องหายังไม่ทำอะไรเลย ความเสียหายลดฮวบไปเลย 250 ล้านบาท ซึ่งคำร้องฝากขังจริงๆ คือ 160 กว่าล้าน ตำรวจยื่นไป 152,907,500 ล้านบาท ผมก็ชี้ให้เห็นว่าผู้เสียหายบางส่วน ผมแยกเป็นกลุ่ม มี 4 กลุ่ม กลุ่ม 1 คืออ้างว่าเอาเงินไปเทรดหุ้น กลุ่ม 2 หลอกให้ลงทุนธุรกิจเงินกู้ แล้วแต่จะใช้โวหาร กลุ่ม 3 ลงทุนบริษัทต่างๆ กลุ่ม 4 คือยืมเงิน
ผมมองว่ากลุ่มให้กู้เป็นกลุ่มที่สำคัญ เพราะบางคนยังบันทึกรับสภาพหนี้ 90 ล้าน 70 ล้าน 64 ล้าน รวมๆ กันเกิน 400 ล้านอีก เขาใช้หนังสือรับสภาพหนี้ ผมก็บอกว่ามันไม่ตรงแล้ว ฉะนั้นฟังผู้เสียหายฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องฟังผู้ต้องหาด้วย แล้วหลักการสำคัญที่ศาลปล่อยตัวชั่วคราว ท่านพิจารณาคำร้อง ผมบอกว่าเขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ในเมื่อวันนั้นผมไปกับทีมงาน ให้นานากับน้องสาวมารอ ก็มีกระแสข่าวว่าวันที่ 3 จะออกหมายจับ
ผมก็ไปวันที่ 1 ตอนเย็น ผมก็พยายามไปหาที่สอบสวนกลาง เพราะใหญ่สุดในนั้น ผู้กำกับก็มีวาระย้าย คนใหม่ยังไม่มารับ เลยมาหาพนักงานสอบสวน เลยไปที่ตึกควบคุมตัวคือตึกหน้า ไม่รู้ว่าอยู่ไม่อยู่ รออยู่เกือบ ชม. ไม่มีใครออกมา เลยโทรไปหารองผู้กำกับงานสอบสวน ว่าผมมีความประสงค์แบบนี้ ถ้ามีหมายจับก็พามามอบตัวเลย แต่ถ้ายังไม่มีหมายจับ จะแจ้งข้อหาวันไหนก็บอกเดี๋ยวพาเข้ามา ไม่ต้องเสียเวลาไปออกหมายจับหรอก
แล้วที่ทางผู้การบอกว่าไม่รู้ว่าคุณนานามาหรือไม่มา จริงๆ คุณนานาใช้บัตรตัวเองเสียบ เพราะการเข้าไปสอบสวนกลางต้องใช้บัตรประชาชนแสดงตัว บอกเบอร์โทร. และบอกว่าติดต่อใคร ไปเอามาดูก็ได้ ผมรอตำรวจ 2 ชม. จนถึงทุ่มนึง แต่ก็ไม่มา เลยบอกคุณนานาให้มาถ่ายรูปไว้หน่อย เพราะหลักฐานอยู่กับฝ่ายตำรวจหมด เดี๋ยวเขาบอกว่าคุณไม่มาแล้วจะยุ่ง แล้วให้บัตรประชาชนของคุณนานาเสียบ ให้เขาบันทึกไว้ว่ามา
แต่เขาไม่รับผู้ต้องหา ท่านบอกว่ายังไม่มีสถานะผู้ต้องหาตามกฎหมาย แต่ความจริงคือถ้ามีคนมากล่าวหา แจ้งความร้องทุกข์ ก็เป็นผู้ต้องหาแล้ว ตอนนั้นเขียนไปถึงศาลก็บรรยายละเอียดพร้อมภาพประกอบว่าเขาไปมอบตัวแล้ว พร้อมทั้งเขียนบรรยายละเอียดพร้อมภาพประกอบ โทรหาใครเบอร์ใครระบุในคำร้องหมด บอกให้ศาลเรียกตำรวจพวกนี้มาไต่สวนเลย
...
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม