หลังจากสอบปากคำ นานา ไรบีนา จนถึงตอนนี้นานายังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การหลายส่วนยังมีความขัดแย้งกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ โดยเฉพาะหลักฐานเกี่ยวกับเอกสาร สลิปการโอนเงิน เอกสารการโอนหุ้น รวมไปถึงเอกสารการทำธุรกิจต่างๆ มากมายที่ถูกทำปลอมขึ้นมา ซึ่งเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ในขณะเข้าตรวจค้นบ้านพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  

ซึ่งนานาอ้างว่าสิ่งที่ทำไม่ทราบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเข้าใจว่าเป็นการกู้ยืมธรรมดา และคิดว่าจะหาเงินมาชดใช้ให้กับเพื่อนๆ ได้ทัน แต่หามาไม่ทัน เหมือนดอกเบี้ยมันกินหาง พร้อมระบุว่าธุรกิจเริ่มทำตั้งแต่ปี 2565 ประมาณ 4 ธุรกิจ ทั้งการร่วมลงทุนสินเชื่อ และเทรดหุ้น ก่อนจะขยับขยายมาทำลงทุนสนามบาส และร้านอาหาร



นอกจากนี้ ยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า พฤติการณ์ว่านานามีการชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตน ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา

...

ซึ่งในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับนานาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นานา เริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถาม ก็ได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี 

และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกนานากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่นานาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวม กว่า 195 ล้านบาท

และจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว นานายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ที่ตัวนานาเองเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่านานาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยนานามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมต่างๆ  ย้อนหลังไปพบว่า ธุรกิจเดียวที่มีอยู่จริงของเจ้าตัวและครอบครัว คือ ธุรกิจร้านตัดผมชื่อดัง ที่ทำร่วมกับ นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนียม นักร้องชื่อดังผู้เป็นสามี และเป็นแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว ส่วนเงินต่างๆ ที่เข้ามาในระบบนั้นส่วนใหญ่เป็นเงินที่มาจากการหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย

ก่อนหน้านี้ยังพบว่านานาเคยหลอกขายหุ้นทิพย์ธุรกิจร้านตัดผมให้กับคนรู้จักรายหนึ่ง โดยมีการปลอมเอกสารการโอนหุ้นขึ้นมาเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายตายใจว่ามีการโอนหุ้นให้จริง ก่อนที่เจ้าตัวจะมาทราบในภายหลังว่าแท้จริงแล้วนานาไม่ได้โอนหุ้นให้ตามที่ตกลงกันไว้ และเอกสารที่นำมาแสดงนั้นยังเป็นเอกสารปลอม 

จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่านานาทำการทุกอย่างเพียงคนเดียว เชื่อว่ายังมีบุคคลอื่นที่เป็นคนใกล้ตัว หรือคนใกล้ชิดรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขยายผลดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องคนอื่นๆ เพิ่มเติม

และในช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนานาพร้อมตรวจค้นบ้านพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่พบสามี เวย์ ไทเทเนียม อยู่ในบ้าน หลังสืบสวนพบว่าเวย์ไม่ได้กลับบ้านแล้วประมาณ 3 วัน และยังไม่มีผู้พบเห็นเวย์มาเยี่ยมหรือให้กำลังใจภรรยาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแต่อย่างใด

ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดนั้นมีสิ่งของหลายอย่าง ได้แก่

1. โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง

2. art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง

3. ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น

4. กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ

5. กระเป๋าหิ้ว louis vuitton 1 ใบ

...

6. จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น 

7. รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. เพื่อนำมาประกอบในสำนวนและหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป


คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”