กรรชัย เล่าดารา น. ขอเงินผู้เสียหาย อ้างเอาไปลงทุนให้กับ ต. เสียหายนับร้อยล้าน

หลังจากที่เพจ ท่านเปา เปิดประเด็นสะเทือนวงการบันเทิงถึงกรณีดาราตัวแม่เบี้ยวหนี้กว่า 400 ล้านบาท และมีผู้เสียหายเป็นดาราดังในวงการบันเทิง ก่อนที่จะมีการเปิดเผยว่าดาราคนดังกล่าวเป็นดาราสาว น. ซึ่งทาง พุทธ อภิวรรณ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้เปิดประเด็นถึงเรื่องนี้ว่าดารา น. ไปขอเงินผู้เสียหายโดยอ้างว่าเอามาลงทุน ความเสียหายนับร้อยล้านบาทเลยทีเดียว

ล่าสุดในรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ทางช่อง 3 โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และ หมวย อริสรา กำธรเจริญ เป็นผู้ประกาศข่าว โดยในช่วงหนึ่งของรายการ หนุ่ม กรรชัย พูดถึงเรื่องนี้ว่า 

เรื่องนี้มีผู้เสียหายเป็นเพื่อนสนิท น. 5 คน มีดารารวมอยู่ในนั้นด้วย ดารา น. เริ่มยืมเงินจากเพื่อนๆ ตลอด 2 ปี คนละ 5 ล้าน 10 ล้านบ้าง รวมเป็นเงิน 50 ล้าน น. จ่ายดอกเบี้ยให้ร้อยละ 4 ต่อเดือน เท่ากับร้อยละ 48 ต่อปี ตอนหลัง น. ไม่ได้จ่ายเงินให้เขา แล้วก็ถาม น. ว่าเอาเงินไปทำอะไร คำตอบคือทำธุรกิจ อีเวนต์ ออร์แกไนซ์ บางธุรกิจก็ขาดทุน บางอีเวนต์ติดลบ หมุนเงินไม่ทัน 

เหตุผลที่เจ้าหนี้เริ่มขยับตัวเพราะ น. จ่ายแต่ดอกเบี้ยไม่ได้คืนเงินต้น แล้วเหตุผลที่ทำให้เพื่อนทั้ง 5 คนในกลุ่มรู้สึกแย่คือ น. จะบอกกับเพื่อนๆ ว่าตัวเองเป็นแค่คนกลาง เงินนี้ยืมเอาไปบุคคลอื่น ผ่านไป 2 ปีถึงได้รู้ว่า น. เอาเงินไปหมุนธุรกิจของตัวเอง ทั้ง 5 คนเลยเสียใจที่ น. ไม่ได้บอกตรงๆ ก็เลยไปไล่เช็กถึงได้รู้ความจริง

เรื่องนี้ผมรู้มาสักพักใหญ่แล้ว แต่ไม่คิดจะออกมาพูดอะไร จนกระทั่งเพจท่านเปาเปิดเรื่องนี้ออกมา ก็ไม่ได้คิดจะพูดอะไร คนก็ส่งมาถามเยอะ ผมก็บอกว่าไม่ทราบ มันมีบางสิ่งที่ไม่อยากไปยุ่ง ให้เขาเคลียร์กันเอง แต่วันนี้ประเด็นมันมาถึงตรงนี้แล้ว ต้องขออภัยคุณ น. ด้วย เพราะผมได้คุยกับผู้เสียหายอีกหลายคน คุณพุทธก็เปิดแล้ว พุทธเปิดหนุ่มตาม เวลาขึ้นโรงพักก็เดินนำหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเล่าให้ฟังบางส่วนแล้วกัน

เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน มันมีเรื่องคุณ น. และเพื่อนของ น. มีหลายกลุ่ม น. เคยชวน ข. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ลงทุนในการเอาเงินก้อนนึงซึ่งเป็นเงินเย็นของ ข. ไปใช้ในการลงทุนบางอย่าง ครั้งแรก ข. เชื่อและมั่นใจว่าสิ่งที่ น. บอกมามีที่มาที่ไป มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ดีเพราะเขาบอกเลยว่าเงินก้อนนี้จะถูกส่งต่อไปให้บุคคลคนหนึ่งชื่อ ต. แล้วจะได้เงินปันผลออกมา

ข. เลยลงทุนครั้งแรก 3 ล้าน อีกไม่กี่วันลงอีก 4 ล้าน รวมเป็น 7 ล้าน สิ่งที่ได้คืนมาคืออัตราดอกเบี้ย คนนี้ผมไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่ได้ 7% ในครั้งแรก หลังจากนั้นเปลี่ยนจาก 7% มาเป็น 4% ตามที่คุณพุทธบอก ครั้งแรกที่ลงทุนไปก็หักเงินต้นเลย ได้ดอกทันที

หลังจากนั้นเงินไปสู่ ต. ทำให้ ข. สบายใจว่ามีผลตอบแทนจริงๆ ปรากฏหลังจากนั้น น. บอก ข. ว่าอย่าบอกใคร รู้ไม่กี่คน ไม่งั้นประเด็นเกิด จากนั้นมาที่ จ. ก็โดนเหมือนกัน ได้ 4% ตั้งแต่แรก ไปจนถึง ท. รวมถึง พ. และก็ น.1 ผมเชื่อว่า 5 คนนี้น่าจะเป็น 5 คนเดียวกับคุณพุทธนำเสนอไป เพราะฉะนั้น ข. เนี่ย เท่าที่ทราบมาเฉพาะเงินต้น 70 ล้านบาท ส่วน จ. เฉพาะเงินต้นเท่าที่ทราบมา 70 ล้าน ส่วน ท. ผมเชื่อว่า 90 ล้าน พ. ไม่เกิน 10 ล้าน อาจจะ 5 หรือ 4 ไม่แน่ใจ ส่วน น.1 ผมไม่ทราบว่าเท่าไหร่

ถามว่าทำไม ข. ถึงลง 70 ล้าน ในเมื่อตอนแรกลงไปไม่เท่าไหร่ ผมเอาสิ่งที่คุณพุทธพูดมาขยายความให้ฟังแล้วกัน ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า น. มาบอก ข. ว่าจะเอาส่วนของ จ. กลับมาให้ ข. เอาไหม ทาง ข. ก็บอกว่าอ้าว แล้ว จ. ไม่ว่าอะไรเหรอ น. บอกไม่เป็นไร อยากให้ ข. ถือไว้ ข. ก็ตกลง ก็เลยจ่ายเงินไปอีกรวมเป็น 70 ล้านบาท เงินปันผลไปกลับ 90 ล้านบาท

ส่วน จ. ก็โดน น. บอกว่า ข. กูว่ามันพูดไปเยอะแล้ว กูไม่อยากให้ทำแล้ว เดี๋ยวขอของ ข. มาให้ จ. ก็ไม่รู้ ลงไปอีก ซื้อส่วน ข. ถือไว้ ทั้งหมดจะส่งไปให้ ต. ประเด็นคือ ณ วันนี้ถ้า น. อยากออกมาพูดก็พูดเถอะ มันจะไปไกลกว่านี้มาก 

เพราะผมไม่รู้ว่า น. รู้หรือเปล่า ต. ที่คุณพูดถึงคนนี้ เขาคุยกับ ข., จ., ท., พ., น.1 แล้ว เขาบอกคนกลุ่มนี้ว่าฉันไม่เคยไปเอาเงินของพวกคุณเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ฉันเอาเงินของฉันเองให้ น. ไปด้วย อันนี้ไม่รวมวงนอกที่มันผุดขึ้นมาแล้วจับกลุ่มคุยกันแล้วกับคนกลุ่มนี้

เล่าประมาณนี้ก่อนแล้วกัน ส่วนดีเทลมีอีกเยอะ ปรากฏว่าทางฝั่งผู้เสียหายที่คุยกับผมหลายคนฝากมาเพราะว่าไม่อยากคุยเอง เขาฝากบอกว่าอยากให้ น. ดูสิ่งนี้หน่อยว่าจำได้ไหม ในวันที่คุณเรียกเขาไปหาและบอกว่าเป็นเช็คที่ ต. ให้ น. มา

ก่อนจะเปิดภาพเช็คใบที่ 1 จ่าย 50 ล้านบาท, ใบที่ 2 จ่าย 50 ล้านบาท, ใบที่ 3 จ่าย 50 ล้าน, ใบที่ 4 จ่าย 50 ล้าน, ใบที่ 5 จ่าย 2.8 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 202.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเช็คที่ น. เอามาวางให้กับเพื่อนได้ดูว่า ต. เอาเงินส่งมาให้แล้ว ไม่ไปไหนแน่นอน คุณ น. ต้องออกมานะ พูดด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ซึ่งทางผู้เสียหายก็บอกว่าอยากให้รู้ว่ามีแบบนี้คืออะไร แล้วเช็คนี้มันไม่ใช่เช็คของ ต. เป็นเช็คของคนใกล้ตัว แล้วเขาเชื่อว่าคุณ น. เขียนเองเซ็นเอง นี่คือ 1 ชุดนะ

อีกหนึ่งคนเขาบอกว่าคดีของเขาไม่ใช่แพ่ง แต่เป็นคดีอาญา เพราะมันมีที่กรณีคุณจ่ายเช็คเขาไปแล้วตีกลับ เขาก็ฝากผมมาเหมือนกัน ก่อนจะเปิดภาพใบนำส่งเช็คคืนและแจ้งหักบัญชี ยอดเงิน 8.16 ล้านบาท ข้างล่างเขียนว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย นี่อีก 1 ใบ

ผมว่ามันถึงเวลาที่คุณต้องชี้แจง ไม่งั้นไปกันใหญ่แล้ว ผมเล่าแค่นี้แล้วกัน อันนี้่ไม่รวมกับหลักฐานเดิมที่มีอยู่อีกเยอะมาก รอดูว่าทางนั้นจะว่ายังไงก่อน เพราะประเด็นมันเกิดแล้ว แล้วมันจะเป็นเรื่องใหญ่ ทางผู้เสียหายมาร้องกับทางเราด้วย เรารู้จักทุกคนหมดเลย หวังว่าอีกฝั่งจะพูด และหวังว่าจะเป็นปัญหาทางธุรกิจ แล้วมันอาจสะดุด เกิดมรสุมชีวิต ก็เป็นกำลังใจ และหวังว่าจะออกมาพูดในมุมตัวเอง วันนี้ยินดีดูแลเยียวยาผู้เสียหายทุกคน มันต้องคุยกันแล้ว

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม