หลังจากที่พิธีกรดัง วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา เจอทัวร์ลงหนักหลังปล่อยคลิปตัวอย่างรายการ “Woody อเวนเจอร์” ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีการพูดถึงนมวัวไทย โดยมีวู้ดดี้เป็นพิธีกร และมีแขกรับเชิญมานั่งพูดคุยถึงเรื่องนมวัวในประเทศไทย จนเกิดเป็นดราม่าใหญ่โตว่าเป็นการด้อยค่านมวัว ก่อนที่วู้ดดี้จะอัดคลิปชี้แจงและขอโทษ ล่าสุด วู้ดดี้ มาร่วมงาน "Life Expo" ณ UOB Live ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ เลยสอบถามถึงดราม่าดังกล่าว
ถามถึงเรื่องดราม่านมไทยและเราขอโทษ?
“ก็รู้สึกโล่งใจอันดับแรก เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราก็ตัดสินใจออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ออกมาขอโทษ ในชีวิตนี้ก็จะมีหลายครั้งที่จะมีบางเรื่องที่เอ๊ะ ทำไมมันเกิดขึ้น พอมาทบทวนดู เราก็ต้องยอมรับว่ามันมีความผิดพลาดในการกลั่นกรอง สองคือเจตนาแรกของเราไม่ได้เกี่ยวกับนมเลยใดๆ เป็นรายการเกี่ยวกับการกินของบุคคล 3 คน เอาประสบการณ์การใช้ชีวิตของเขามาถ่ายทอด ซึ่งรายการนั้นเรางดออกอากาศไปแล้ว
...
ซึ่งประเด็นสั้นๆ 2 นาทีเกี่ยวกับนมกับมุมมองของแต่ละคน มันก็เป็นประเด็นอย่างที่บอก แล้วกลายเป็นอีกเรื่องนึงไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องแรกจากที่เป็นแค่เรื่องอาหารและประวัติของการใช้ชีวิตของคน 3 คน ไม่ได้เป็นรายการเกี่ยวกับนมเลย มันตีออกมาเป็นก้อนเล็กและเป็นนม ตอนนี้ก็กลายเป็นอีกเรื่องราวของมัน ก็ตามไปเป็นประเด็นของมันเรื่อยๆ แต่ละวัน
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราเรียนรู้ก่อนว่าต่อจากนี้ไปไม่ว่าเราจะคุยแบบไหนก็ตาม อะไรก็ตามที่จะพาดพิงส่งผลกระทบ เราต้องมาตั้งคำถามว่าในการสนทนาในวันนั้น เชื่อว่าหลายๆ คนที่คุยกัน โดยเฉพาะแขกที่มาร่วมรายการเขาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใคร แต่การพูดคุยมันไม่ได้เป็นทางการ แต่รายการออกไปสู่สาธารณะ สังเกตว่าวู้ดดี้ทำรายการมา 20 ปีในวงการ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
แต่เราซ้อมมาแล้ว เพราะเราเชื่อว่าชีวิตกับดราม่าที่เกิดขึ้นกับผมทุก 10 ปี มันต้องมีการเรียนรู้ คนก็จะดึงเรื่องอดีตมาหมด เราก็มานั่งย้อนดูก็เออ ในวันนั้นที่เกิดขึ้น เราอาจไม่ได้ชี้แจงอย่างรวดเร็ว เราก็เรียนรู้ว่าถ้ามันมีดราม่าในชีวิต เราก็ต้องออกมาเคลียร์ให้จบ ไม่ให้ค้างคา ครั้งนี้เมื่อเกิดขึ้นปุ๊บ เราซ้อมหนีไฟมา เราก็ต้องตั้งเป้าก่อนว่าเราพลาดตรงไหน ต้องชี้แจง เราต้องมีการขอโทษออกแถลงเรียบร้อย
เราเอาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของนมโดยเฉพาะ ที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำรายการเกี่ยวกับนม มาเป็นคอนเทนต์พิเศษขึ้นมา และให้คนได้มาเคลียร์ว่าตกลงแล้วมันคืออะไร พอผ่านกระบวนการเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็ต้องชี้แจงต่อไปนะครับเพราะว่าจากเดิมเป็นรายการซึ่งไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีการจ้างให้มาพูดใดๆ ทั้งสิ้น ก็กลายเป็นประเด็นว่าอ้าว ถูกจ้างมาพูด
ผมยอมรับเลยว่าวันที่มีดราม่า เราไม่เสพสื่อ เพราะเรารู้ว่าจิตใจของคนเราแต่ละช่วง ถ้าเราเสพมันจะอินมาก ผมก็พักอีกประมาณ 1 วัน แล้วกลับมาดูอีกรอบนึง โอเคตอนนี้คนเริ่มเข้าใจ และข้อความที่ส่งมาอีกเป็นพันให้กำลังใจ ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ กำลังใจจากทุกคนส่งมาถึงวู้ดดี้แล้ว ทำให้เรามีพละกำลังจัดงาน Life Expo และทำรายการต่อไป ใช้ชีวิตต่อ
หลังจากนั้นเราก็มูฟออนกับชีวิต แล้วก็ส่งต่อให้กับหลายๆ คนว่าต่อจากนี้ไปการทำคอนเทนต์มีการพิจารณาอย่างแท้จริง และยิ่งไปกว่านั้นเลยก็คือถ้ามีโอกาสเราก็อยากให้ทุกคนรับทราบทั้งหมดมันคือการเรียนรู้ของเราในวันนี้ แล้วเราก็มูฟออนต่อไป ผมให้ตัวเอง 1 วันเต็มกับการคุยกับทีม บทเรียนของเรา วิธีปรับในการถ่ายทำ กระทั่งการกลั่นกรองด้วย สองคือการใช้ชีวิตต่อไป เราก็ชี้แจงแถลง และต้องให้เวลา ผมว่าสำคัญที่สุดเลย เพราะเรื่องราวทั้งหมดมันยังตกตะกอนอยู่เลยตอนนี้
ถ้าถามความรู้สึก ผมไม่รู้สึกดีนะครับที่จะทำให้ใครรู้สึกเสียใจ หรือใครรู้สึกไม่ดี ผมเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในมวลนั้น ตั้งแต่ทำรายการเราก็ออกจากมวลดราม่ามาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นเพราะตัวเราหรือคอนเทนต์ของเราก็ต้องตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่าโอเค เราต้องไปต่อกับชีวิต ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ และต้องขออภัยขอโทษทุกท่านอีกครั้งนึง (ยกมือไหว้) ที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกเฮิร์ตหรือเสียใจไป”
3 คนที่มา เรายืนยันไม่มีการไทอินผลิตภัณฑ์?
“ขอยืนยันตรงนี้ อย่างที่บอกว่ารายการนี้ไม่ได้เกี่ยวกับนมตั้งแต่แรก เสียดายที่ว่าผมปิดรายการนั้นไปครับเพราะคิดว่าไม่อยากให้คนต้องทุกข์อีกต่อไปกับเหตุการณ์นั้น ก็เลยอยากชี้แจงตรงนี้ว่าไม่มีการจ่ายตังค์ ไม่มีการสปอนเซอร์ รายการนี้ชื่อว่าวู้ดดี้อเวนเจอร์ เพิ่งเปิดมาเป็นตอนที่ 3 และไม่ใช่รายการถกเถียงด้วยนะครับ เป็นรายการที่เอาแต่ละมุมมองชีวิตมาใช้เกี่ยวกับธรรมะ การใช้ชีวิต บังเอิญเทปนั้นเกี่ยวกับอาหาร ไม่ได้ตั้งใจทำเกี่ยวกับนมเลย เป็นภาคผนวกที่เราควรจะต้องตัดออกด้วยซ้ำไป แต่เราไม่ได้ทำ ผมว่านั่นคือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
...
แล้วคิดว่าเราผิดพลาดตรงไหนในการสื่อสาร ทำให้คนตีความไปอีกเรื่อง?
“เราคิดว่าเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วกลายเป็นประเด็นออกไป การที่เราปิดรายการใหญ่ คนก็จะตีความว่า สมมติเราแค่เสพข่าวในฟีด เราก็เห็นดราม่านม ในหัวก็คิดแล้วว่าเป็นรายการเกี่ยวกับนม คงต้องมีเรื่องของนม และสิ่งที่พูดไปมันเป็นบริบทที่สรุปแล้วว่านมไม่โอเค ทั้งๆ ที่เมื่อหลายวันต่อมาเราทำคอนเทนต์เพิ่มเติม เราเห็นว่ามันมีมาตรฐานทั่วโลก แต่คุณสามารถเลือกได้
ข้อดีของเหตุการณ์นี้คือตอนนี้คนจะดูฉลากแล้ว คนจะศึกษาแล้ว จากเดิมที่หยิบนมเข้าปาก ตอนนี้ก็อ้าว นมมาจากไหน ผมว่ามันชวนคิดนะครับ เพราะระหว่างเหตุการณ์นี้คนเข้ามาบอกผมเยอะมากว่า ขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าฉันต้องตระหนัก ต้องตั้งคำถามว่าเอาอะไรเข้าปาก ไม่ใช่แค่เรื่องของนม แต่ในเวลาเดียวกันปุ๊บคนที่เป็นสื่อก็ขอบคุณเหตุการณ์นี้เพราะว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการนี้มานานขนาดไหน มันก็ต้องมีวันนั้นที่คุณจะผิดพลาด ขอยืนยันว่าไม่มีการสปอนเซอร์ ไม่มีใครโดนจ้างมาพูด”
...
ทำไมถึงเลือกลบคลิป ทั้งๆ ที่เราก็อยากให้คนดูทั้งรายการ ดีกว่าที่ตัดมาเฉพาะเรื่องนม?
“ผมตั้งคำถามตรงนี้ว่า ผมพลาดไหมที่ลบคลิปนั้นออก แต่ตอนนั้นมันร้อนมาก ต้องยอมรับ และทุกคนรอบข้างบอกว่าไม่ไหวแล้ว มันโดนถล่มหนักมาก ถ้ายังปล่อยคลิปไป ผมก็ยอมรับว่าสงสารคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดครับ และการที่จะมีคอนเทนต์อยู่ตรงนั้น ผมคิดว่าผมต้องรับผิดชอบแขกรับเชิญของผม ไม่อยากให้ใครโดนถล่มไปมากกว่านี้ ก็เลย pause ก่อน อันนั้นแค่เรื่องเดียวนะครับ แต่อย่าลืมว่ามันมีอีกหลายประเด็นเกี่ยวกับชีวิตเขา ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบต่อใดๆ เพราะมันไปอีกประมาณ 10 หัวข้อด้วยกันอยู่ในเทปนั้นหมด แล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัวของชีวิตเขา เรื่องราวที่เกิดขึ้นผผมว่ามันมีเหตุผลของมัน ทุกคนก็เรียนรู้แล้วมูฟออน”
ถือเป็นดราม่าที่หนักสุดในชีวิตไหม?
“ไม่ครับ แต่บางทีก็ถามตัวเองว่าหรือเปล่า เพราะว่าเจอทุกคนก็ถามว่าโอเคไหม เรื่องราวผ่านไปหรือยัง 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีคนไหนที่มาหาผมแล้วไม่กอดแล้วบอกว่ารับทราบเรื่องนี้ หรือแม้แต่เพื่อนจากต่างประเทศก็โทรมา คิดว่างานนี้น่าจะเป็นข่าวที่ไปทั่วถึงพอสมควร ผมว่ามันส่งผลกระทบและเกี่ยวข้องหลายคนเพราะเราดื่มนมอยู่แล้ว สองคืออุตสาหกรรมหรือแม้แต่การบริโภคมันเป็นเรื่องที่ทุกคนตื่นตัวและให้ความสนใจ แล้วเวลาที่มีวู้ดดี้เข้าไปเกี่ยวข้อง มันก็ไปในกระบวนการของมัน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในดราม่าที่ใหญ่ แต่ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในชีวิตครับ”
...
หลายคนด่าว่าเป็นคอนเทนต์หิวแสง?
“คอนเทนต์หิวแสง อันนี้เรารู้สึกเฮิร์ตนะครับ เราไม่มีเจตนาตรงนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเมื่อคนตัดสินใจว่าเขาจะพูดแล้ว นี่คือบทเรียนของผมในวันนี้กับการอยู่ในสื่อในแสง ถ้าคุณเลือกจะอยู่ในแสง บางทีมันจะร้อนจะไหม้ก็ต้องยอมรับ เพราะว่าคุณเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้ คุณจะได้เรียนรู้ปรับปรุงตัวเองในแต่ละวันยังงั้นมากกว่าที่จะอยู่ตรงนี้ได้เรื่อยๆ ผมมีแต่พลังบวกที่จะมอบให้ แต่บางพลังที่ออกไปอาจจะดูหิวแสง ผมก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าคนจะคิดแบบนั้น
ผมฟังคอมเมนต์แล้วรู้สึกว่าเอ๊ะ ทำไม เราหิวแสงจริงหรือเปล่า หนึ่งคือเราทำงานในแสง มันจำเป็นต้องหิวเวลาจำเป็นต้องนำเสนอ เพราะถ้าคุณทำคอนเทนต์แล้วไม่อยู่ในแสง มันก็ไม่สามารถไปต่อ แต่ถ้าทำคอนเทนต์เพื่อทำให้คนรู้สึกไม่ดีในแสง ผมว่าไม่ใช่ผมแน่นอน และคุณต้องแยกแยะให้ถูกก่อนว่าการอยู่ในสื่อแล้วคอนเทนต์มันออกไป แต่เจตนาคอนเทนต์นั้นไม่ได้ต้องการให้คนมาดราม่าใดๆ ทั้งสิ้น นั่นก็คือเจตนาของวู้ดดี้ทั้งหมดที่อยากจะบอกความในใจ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม