ทำใจและพยายามให้ตัวเองเข้มแข็งอยู่นาน ในที่สุด ฝ้าย พีรญา มะลิซ้อน ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ยุติสัญญากับค่ายเดิม ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ โดยเจ้าตัวได้เคลียร์ประเด็นถึงสาเหตุที่ต้องออกจากสังกัดเดิม พร้อมกับชี้แจงถึงเรื่องของอดีตคู่จิ้น ซึ่ง ฝ้าย ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกด้วยใจสลายว่า

- ฝ้าย พีรญา นักแสดงสาว ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว หลังผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ พร้อมชี้แจงเรื่องของอดีตพาร์ทเนอร์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

- ฝ้ายบอกว่า เรื่องที่จะพูดเกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว กระทบกับการทำงานและคนรอบข้าง วันนี้อยากจะขอพูดในมุมฝ้ายบ้าง เพราะที่ผ่านมาสภาพจิตใจพยายามหลายครั้งแล้วที่อยากจะพูด แต่ด้วยสภาพจิตใจที่ยังไม่พร้อม เนื่องจากแตกสลายมากเลยทีเดียว ใช้คำว่าแตกสลายได้เลย แต่วันนี้ความรู้สึกฝ้ายเข้มแข็งขึ้นแล้ว พร้อมที่จะพูดเลย

- เรื่องแรก เรื่องการทำงาน ที่ผ่านมากล้าพูดได้เต็มปากมากๆ ว่ากับค่ายเก่า ฝ้ายทำงานเต็มที่ แล้วก็จริงใจกับการทำงานมากๆ รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ที่ฝ้ายเคยร่วมงานด้วย ฝ้ายและน้อง ก็เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน น้องน่ารักมากๆ และเป็นมืออาชีพมากๆ เราทำงานด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัย มีปัญหาอะไรปรึกษาหารือกันตลอด ทำงานราบรื่นมาตลอด

...

- ฝ้ายค่อนข้างมั่นใจมากๆ เลยว่าเราเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีกันมาตลอด สนับสนุนและคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจับมือกันทำงานด้วยกันด้วยดีมาตลอด

- เรื่องที่สอง เรื่องความสัมพันธ์ ด้วยความที่เราเข้าค่ายมาด้วยกัน ฝ้ายเข้าค่ายมาก่อน พูดได้ว่าในความสัมพันธ์เราเป็นพี่น้องและพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน และฝ้ายสามารถพูดได้เลยว่า ความรู้สึกที่มีให้กันมันคือเรื่องจริง แต่ในความจริง ณ ที่นี้ น้องเป็นน้องที่น่ารักของฝ้ายจริงๆ ฝ้ายพูดเสมอว่าน้องเป็นคนสำคัญของฝ้าย ไม่เคยรู้สึกเลยว่า ถ้ามีปัญหาแล้วเราจะไม่หันหน้าคุยกัน

- ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนทำงานด้วยกัน ที่อาจมีการน้อยใจและเข้าใจผิด แต่ปัญหาเหล่านั้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้ทำงานด้วยกันไม่ได้ เราสองคนไม่เคยมีเลย

- จนกระทั่ง มีเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนวันวาเลนไทน์ เรามีการพูดคุยกันว่า ไปกินข้าวร้านไหนดี เอาน้องหมาด้วยไหม ในช่วงวาเลนไทน์เราจะได้วางแผน แต่ฝ้ายไม่เข้าใจว่าตั้งแต่วันนั้น วันที่ 9 ก.พ. ฝ้ายทักถามอีกว่า คิดได้หรือยัง ว่าอยากไปไหน อยากกินอะไร

- ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ น้องไม่มีการอ่านไลน์ฝ้ายอีกเลย ไม่เคยส่งข้อความกลับมา ไม่เคยโทรกลับมา ซึ่งฝ้ายก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เรายังอัปเดตชีวิตประจำวันด้วยกันอยู่เลย พูดด้วยความสัจจริง ว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

- ส่วนเรื่องที่ 2 เรื่อง “4 Elements” ที่แฟนๆ ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ้ายเองก็สงสัย เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้ คือฝ้ายเองก็ไม่ได้ทราบว่าจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น แต่มาทราบตรงที่มีอิโมจิ มีการคาดเดาต่างๆ นานาว่า เป็นคู่รักต่างวัย เป็นสัญลักษณ์ดอกทานตะวัน ฟองสบู่ ซึ่งแฟนๆ น่าจะคาดเดากันได้บ้างว่าเป็นคู่ใคร ฝ้ายก็ทราบเหมือนที่ทุกคนทราบ แต่ทางค่ายจะไปคุยอะไรกับผู้ใหญ่ อันนี้เราไม่ทราบรายละเอียด แต่ว่าก็มีสายจากผู้ใหญ่ถามฝ้ายว่า ทำไมไม่เล่น เราก็บอกว่า เราอยากเล่นจะตาย เพราะ “4 Elements” เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่น่าสนใจมาก และแฟนๆ รอคอย เหมือนเป็นจักรวาล GL แต่ด้วยสาเหตุอะไรตนก็ไม่ทราบ แต่ทางผู้ใหญ่บอกว่า ไม่เป็นไร ไว้มีโอกาสร่วมงานกัน

- และมีอีกสายหนึ่งซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่ใน “4 Elements” มาถามฝ้ายว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทะเลาะกันจนเล่นด้วยกันไม่ได้เลยเหรอ มีปัญหาจนต้องยกกองจริงมั้ย ฝ้ายขอตอบตรงนี้เลยว่า เราไม่เคยมีปัญหากันจนต้องยกกอง ไม่เคยมีปัญหากันจนทำงานไม่ได้ เราทำงานด้วยดีมาตลอด ก็ยังชมน้องเลยว่า น้องเก่ง เรากอดกันก่อนเข้าฉาก เราเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน ฝ้ายค่อนข้างมั่นใจ แต่เหตุผลอะไรฝ้ายไม่ทราบ ได้ยืนยันไปแล้วว่า ไม่ใช่ฝ้ายที่ไม่อยากเล่น ฝ้ายอยากเล่นมากๆ ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่า สิ่งที่ได้ยินมาเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

- ตอนที่อยู่ช่อง 7 เราทำงานมา ถ้าจะมีเหตุผลว่าฝ้ายไม่ทนแดด ทนร้อน มันเป็นไปไม่ได้ ฝ้ายไม่ได้เพิ่งทำงานเป็นอาชีพนักแสดงแค่วันนี้หรือเมื่อวาน ฝ้ายทำงานมาหลายปีแล้ว

...

- ทุกวันนี้พี่ๆ ผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดูฝ้าย ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ เดี๋ยวเรามาฟังข้อเท็จจริงกันดีกว่าว่าเป็นยังไง จากนั้นฝ้ายก็ได้โฟนอินสดจากผู้ใหญ่ใน “4 Elements” ว่าไม่อยากเล่นจริงมั้ย ซึ่งทางผู้ใหญ่บอกว่า ตอนที่ตัดสินใจจะทำ “4 Elements” ก็ทราบว่าจะมีคู่ ฝ้าย-โยโกะ, อิงฟ้า-ชาล็อต, ฟรีน-เบ็คกี้ และน้ำหนึ่ง-เนย วันหนึ่งเจ้าของค่ายของฝ้าย ได้มาแจ้งขอถอนตัวจากการแสดง “4 Elements” ของฝ้าย-โยโกะ เหตุผลคือ เกรงว่าถ้าน้อง 2 คนมาเล่น จะไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายได้ ถ้าน้อง 2 คนไม่สามารถทำงานได้ด้วยกันอย่างราบรื่น

- เมื่อถามว่า ตอนที่ทางค่ายตั้งโต๊ะแถลงข่าว เขาบอกว่าไม่ได้รับการติดต่อจาก “4 Elements” ซึ่งทางผู้ใหญ่ของ “4 Elements” บอกว่า ถ้าไม่ได้รับการติดต่อ แล้วจะสามารถมาแจ้งขอถอนตัวได้ยังไง นั่นแปลว่า ต้องได้รับการติดต่อแล้ว ถึงมีเหตุมาแจ้งขอถอนตัว ถูกต้องไหม

- ฝ้ายก็ได้ยืนยันหนักแน่นว่า ตัวเองไม่เคยปฏิเสธเลยว่าจะไม่รับเล่นเรื่องนี้ และรู้เรื่องนี้พร้อมทุกคน ซึ่งเรื่อง “4 Elements” ตนเองอยากเล่นมาก และภาวนาในวันที่มีข่าวว่าขอถอนตัว ขอให้ไม่ใช่คู่เรา เพราะยังมีหวังว่าจะได้เล่น

...

- เรื่องประเด็นการแยกคู่ เป็นเรื่องที่ทำให้คนเข้าใจผิดเยอะมากๆ ก่อนวันแฟนมีตคู่ครั้งแรกในไทย 1 วัน ทางค่ายมีการให้ฝ้ายและน้อง และตัวเจ้าของค่าย ไปนั่งคุยกับนักจิตวิทยา ว่าฝ้ายและตัวน้อง มองภาพตัวเองออกไหม ถ้าต้องเล่นคู่กับคนอื่น หรือต้องแยกคู่ ฝ้ายตอบไปว่า ในฐานะนักแสดง ถ้าฝ้ายต้องเล่น ก้อนหินดินทราย กับหญิงหรือชาย ฝ้ายเป็นอาชีพนักแสดง ก็ต้องเล่นให้ได้ ไม่ว่ากับใคร นี่คือคำตอบที่ฝ้ายตอบ

- หลังจากนั้นค่ายก็มีการให้ฝ้าย อยากให้เข้าไปคุยกับนักจิตวิทยาอีกสักครั้ง ฝ้ายปฏิเสธว่าฝ้ายไม่อยากไป เอาจริงๆ ฝ้ายไม่รู้สึกว่าจำเป็น เพราะมันเป็นก่อนแฟนมีตครั้งแรก แต่มาถามเรื่องแยกคู่ หนูเลยต้องใช้ความพยายามและความเข้มแข็งทั้งหมดที่มี เพราะวันนั้นแฟนคลับรอเราอยู่เยอะมาก เราทั้งคู่ก็ต้องเข้มแข็ง และฝ้ายก็ไม่ไป สิ่งนี้ทำให้คนเข้าใจผิดว่าฝ้ายอยากแยกคู่หรือ ทิ้งน้องหรือ ฝ้ายขอพูดตรงนี้เลยนะ ฝ้ายไม่เคยคิดแบบนี้เลย เพราะเราเพิ่งไปรับรางวัลคู่กันมา เพิ่งมีผลงานด้วยกัน

- อยากถามกลับทางค่ายว่า ไม่รู้จริงๆ หรือ เรื่องการแยกคู่ แล้วทำไมผลกระทบมันมาตกที่ฝ้าย นี่คือคำถามที่ฝ้ายอยากถามกลับไป

...

- จากนั้น ฝ้าย ก็ให้พี่อีกคนซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในค่าย และเห็นการทำงาน เห็นการอยู่ด้วยกันทุกอย่างตั้งแต่วันแรกกับน้อง ได้ออกมาพูดเรื่องที่ทุกคนสงสัย ซึ่งทางพี่ผู้ใหญ่คนนี้บอกว่า ตนเองเป็นคนอยู่กับน้องๆ มาตั้งแต่วันแรก ในการทำเพลงและซีรีส์ต่างๆ เรื่องที่อยากจะมาพูดคือ เรื่องที่มีข่าวว่า ฝ้ายไม่อยากทำงานคู่กับพาร์ทเนอร์คนเก่าต่อ และอยากออกมาทำงานคนเดียว แต่ความจริงไม่ใช่เลย ตลอดระยะเวลาการทำงานของฝ้ายและคู่พาร์ทเนอร์ ทั้งคู่ทำงานด้วยดีมาตลอด อาจจะมีงอนกันบ้าง แต่ผ่านไป 5 นาที ก็กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม อันนี้ขอพูดในมุมของความเป็นมืออาชีพที่ได้เห็นมา ซึ่งเราไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร

- จนกระทั่งช่วงปลายปีที่แล้ว ฝ้ายไม่สดใสเหมือนเดิม และมาถามตนเองว่า พี่รู้มั้ยว่าหนูมีแพลนที่จะได้เล่นซีรีส์มั้ย ตนเองก็ตกใจนิดนึง และบอกไปว่า เราทำเพลงไม่ได้รู้เรื่องอะไร น้องก็ถามว่าได้คุยกับเจ้าของค่ายมั้ย เพราะหนูไม่รู้แพลนอะไรเลยว่าจะได้เล่นคู่กับน้องอีกรึเปล่า เลยทำให้ตนเองตกใจว่าทำไมฝ้ายถามแบบนี้ แต่ฝ้ายก็บอกว่า หนูอยากทำ หนูอยากเล่นต่อ หนูเป็นนักแสดง หนูมีความสุขจากการทำงานอาชีพนี้ ถ้าพี่รู้อะไรบอกหนูนะ

- และมันมีคำหนึ่งที่สะเทือนใจมาก ในวันที่ฝ้ายมาอัดเสียง คือฝ้ายพูดว่า ทุกวันนี้ไม่รู้จะตื่นมาทำอะไร ไม่รู้ว่าจะได้เล่นซีรีส์อีกมั้ย ไม่รู้จะทำอะไร ค่ายไม่ได้บอกอะไรเลย ทำให้เรารู้สึกว่าค่อนข้างหมดหวังกับชีวิตพอสมควร

- เลยได้มีการสอบถามไปบ้างในมุมคนนอกกับทางค่าย ซึ่งทางค่ายบอกว่า เป็นตามที่เคยประกาศไปว่าอยากทำงานในรูปแบบระบบบริษัทมากขึ้น การพูดคุยแบบตรงๆ ในระบบครอบครัวกับฝ้ายเองเลยค่อนข้างยาก ก็เลยอาจจะเป็นเรื่องของการสื่อสารมากกว่า สุดท้ายแล้วเหตุผลที่น้องออกมา ก็เป็นเหตุผลที่รู้สึกว่ามันเป็นทางที่น้องเลือกทางที่ดีที่สุดของน้อง โดยน้องไม่เคยคิดที่จะทิ้งความสำเร็จต่างๆ ทิ้งคู่ หรือสิ่งดีๆ ต่างๆ ออกมาแน่นอน

- ส่วนที่หลายคนถามเข้ามาเยอะมากว่า ฝ้ายเกลียดคู่พาร์ตเนอร์ เขาไม่รักกันแล้วเหรอ ซึ่ง 90% เวลาฝ้ายเจอหน้าผมเขามักจะถามผมว่า พี่ได้เจอน้องบ้างมั้ย น้องเป็นยังไงบ้าง ผมรู้สึกว่าเขายังห่วง ไม่ได้มีความเกลียดชังใดๆ เลย แต่มันอาจจะเป็นวัฏจักรของวงการ ที่มีการเลี่ยงการทำงาน แต่เชื่อว่า ฝ้ายไม่ได้เป็นคนแบบนั้น

- เรื่องของการยุติสัญญา ฝ้ายบอกว่า ทางค่ายได้มีการเรียกคุยเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสัญญา จากสัญญาเดิมเป็นสัญญาฉบับใหม่ และทางค่ายบอกว่า ถ้าอ่านเสร็จแล้ว เซ็นด้วยนะในวันนั้นเลย ฝ้ายจึงตอบกลับไปว่าไม่สามารถทำในตอนนั้นได้ เพราะสัญญามันความละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลาในการอ่านสัญญา การที่เราจะเซ็นสัญญาอะไรต่างๆ มันคือช่วงเวลาอนาคตของเราเลย จากนั้นก็ได้มีการปรับแก้สัญญาและส่งให้เขา และเรามีความเห็นร่วมกันว่า พี่สัญญาเดิมมันแฟร์กว่านะ เขาก็บอกว่า งั้นก็ใช้สัญญาเดิม แต่เราไม่มีการพูดคุยเรื่องแพลนอนาคตเลย ฝ้ายมีการทวงถามไปว่าแพลนจะเป็นยังไง

- ถามฝ้ายในตอนนั้นความรู้สึกมันมืดไปหมด ไม่มีทางให้เดิน ทางที่จะเดินได้คือต้องเลือกทางตัวเอง เพราะเราไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องแพลน ทวงถามไป แต่ไม่ได้คำตอบกลับมา

- จึงเป็นจุดที่ทำให้ฝ้ายรู้สึกว่า เกิดการยุติสัญญา เราทำอาชีพนี้มาขนาดนี้ กล้าพูดได้เลยว่า อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่เราหล่อเลี้ยงครอบครัว แต่ถ้าวันหนึ่งเราไม่เห็นอนาคตว่า ตื่นมาจะทำอะไรต่อ มันไม่มีความสุขแล้ว เพราะฉะนั้นทางที่ฝ้ายเลือกได้ คือทางที่เลือกเอง

- ขอพูดด้วยความสัจจริงเลยว่า ไม่เคยมีความคิดที่จะทิ้งใครและออกมาทำของตัวเอง ไม่เคยมีวางแพลนไปล่วงหน้าเลย แต่พอออกมาแล้ว สภาวะจิตใจไม่ได้ดีเลย แตกสลายยับมาก แต่ก็ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ขอบคุณผู้ใหญ่และคนรอบข้างที่ให้โอกาสเสมอ วันนี้เข้มแข็งขึ้นมากๆ แล้ว

- สิ่งที่ทุกคนสงสัย และเข้าใจผิด ก็อยากให้ฟังในมุมของฝ้ายบ้าง ไม่เคยคิดทำร้ายใคร

- จึงเป็นเหตุผลที่ยุติสัญญา และวันที่ยุติสัญญา ก็มีความรู้สึกดีๆ และเขาก็บอกฝ้ายว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งมีทางที่ดีกว่า หรือฝ้ายไปได้ไกล เขายินดีที่จะเห็นฝ้ายไปได้ดี ก็ถือว่าเราจบกันด้วยดี อย่างน้อยๆ ฝ้ายก็เลือกจำสิ่งดีๆ ฝ้ายขอพูดด้วยความสัจจริง ไม่ได้คิดทำร้ายใคร ทำงานให้มันออกมาดี แก้ไขในจุดบกพร่อง และทำผลงานออกมาให้แฟนๆ กำลังใจเดียวของฝ้ายคือแฟนๆ ที่รอชมผลงาน เพราะถ้าไม่มีแฟนๆ คอยซัพพอร์ต คอยให้กำลังใจ ฝ้ายก็คงไม่ได้อยู่ตรงนี้

- ขอบคุณทุกคนที่ยังรัก พี่ๆ ผู้ใหญ่ที่เอ็นดูฝ้าย ให้โอกาสฝ้าย ต่อไปนี้ตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อมอบความรักให้แฟนคลับ

- จากนี้ถ้าฝ้ายเห็นหรือเจอข้อความที่พาดพิง หรือทำให้สื่อถึงว่าเป็นฝ้ายในทางที่ผิด หรือทำให้ฝ้ายเสื่อมเสียชื่อเสียง ฝ้ายจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด และไม่รับคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อปกป้องตัวเอง คนรอบข้าง คนที่รักฝ้ายและแฟน ๆ

- ในวันที่ทางผู้บริหารต้นสังกัดเก่าเขาแถลง เขาก็แถลงในมุมของเขา เราไม่ได้ทะเลาะกับใคร ฝ้ายก็อยากจะพูดในมุมของฝ้ายว่า ฝ้ายไม่ทราบจริง ๆ ว่าเราไปทะเลาะตอนไหน การที่ไปพูดว่าทะเลาะกันจนทำงานไม่ได้ จนต้องยกกอง มันเหมือนว่าฝ้ายไม่มีความรับผิดชอบ ในฐานะนักแสดงมันร้ายแรงมาก เพราะเราไม่เคยทำ

- แม้ว่าในวันนั้นจะมีหลายข้อสงสัย แต่เราได้เคลียร์ตัวเองแล้ว ได้พูดไปหมดแล้วในมุมของตัวเอง

- ในวันที่ทางค่ายให้เรากับน้องไปพบนักจิต เขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไร ซึ่งฝ้ายเองก็ไม่ทราบจริง ๆ ทำไมเขาให้เราไปนั่งคุยนั่งฟังเรื่องนั้น ออกมาเราก็ลอยไปเลย เพราะไม่เข้าใจทำไมต้องเข้าไป

- ส่วนฝ้ายกับน้อง ตอนนี้ฝ้ายยังชมน้องอยู่เลยว่าเขาเป็นมืออาชีพมาก ๆ ทำงานได้เก่งมาก ก็เลยมีข้อสงสัยว่า เกิดอะไรทำไมต้องไปพบนักจิต และหลังจากนั้นก็ไม่อยากหาคำตอบแล้ว เพราะเราไม่อยากไปอีก ทำให้ใจเรารู้สึกว่าไม่ได้อยากฟังอะไรแบบนั้น มันเป็นคำถามในหัวเรามาตลอด แต่ไม่เคยได้คำตอบ ซึ่งก็เคยคุยกับน้องเรื่องนี้เหมือนกัน น้องก็บอกว่า หนูก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกอย่างเรารู้พร้อมกันหมดเลย

- ฝ้ายเผยว่าตัวเองได้คุยกับน้องอดีตคู่จิ้นครั้งล่าสุดคือ 9 ก.พ. เมื่อถามว่า ไม่ได้มีความรู้สึกอยากโทรหาเพื่อคุยกันเหรอ ฝ้ายบอกว่า การไม่ตอบก็คือคำตอบแล้วมั้งพี่ จะให้ฝ้ายหาคำตอบจากอะไร บางทีฝ้ายไม่ได้รู้ทุกเรื่องขนาดนั้นว่าใครคิดยังไง รู้สึกอะไร แต่สิ่งที่ฝ้ายรู้สึกก็คือเราวางแพลนจะไปวาเลนไทน์ด้วยกันอยู่เลย แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้ง ๆ ที่ยังคุยกันทุกวินาทีอยู่เลย เราก็คิดว่า เขาอาจจะติดอะไรหรือเปล่า แต่เราถามเขาก็เงียบ ซึ่งเราก็ติดอยู่กับคำถามนี้มาครึ่งปีแล้ว เราพยายามหาคำตอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เลยไม่รู้จะหาคำตอบจากอะไร

- ส่วนเรื่องวันที่ยกเลิกสัญญา ฝ้ายจำได้ดี เราพูดกับพี่เขาและถามว่า ในเรื่องราวที่ฝ้ายได้ยินมา มันจริงไหม และเราจะอยู่กันยังไง ถ้ามันไม่จริง ซึ่งคำพูดนั้นคือ เรื่องที่เราทะเลาะกันจนต้องยกกอง ที่เราได้ยินมาจากผู้ใหญ่ ฝ้ายก็ถามเขาว่า ถ้าพี่พูดอย่างนี้ ฝ้ายไม่รู้ต้นสายปลายเหตุคืออะไร ทำไมเราถึงไม่ได้เล่น เราไปทะเลาะกันตอนไหนจนต้องยกกอง ซึ่งฝ้ายไม่ได้ไปมีอำนาจให้สั่งยกกองขนาดนั้น ก็เลยถามเขาไปว่า "พี่พูดแบบนั้นหรือเปล่าคะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น เราจะอยู่กันยังไง แล้วแพลนของฝ้ายคืออะไร" เขาก็ถามว่าไปได้ยินจากใครมา หนูก็ถามว่าแล้วพี่ไปพูดกับผู้ใหญ่คนไหน ซึ่งหนูก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา

- และอดีตต้นสังกัดเขาก็ไม่ได้ดึงเราไว้ และจริง ๆ เขาจะเซ็นยกเลิกสัญญาให้ตั้งแต่วันนั้น แต่ว่าด้วยเรื่องงานที่ยังค้าง ก็ทำงานให้แล้วเสร็จในวันที่ 1 มี.ค.

- ก่อนหน้านั้นมีข่าวออกมาว่า คู่ของเราทำงานด้วยกันไม่ได้ มันก็เลยมีข่าวคุกคามอดีตคู่จิ้นเรา และอดีตต้นสังกัดทั้งส่งพวงหรีด ส่งรถแห่ ซึ่งฝ้ายมองเรื่องนี้ว่า บางเรื่องบางอย่างอาจจะเกิดจากไม่ได้มีการอธิบาย ประเด็นข้อสงสัย สภาพจิตใจ ก็อย่างที่ทุกคนเห็น ช่วงเวลานั้นฝ้ายแตกสลายมาก ฝ้ายคิดเยอะมาก ๆ ว่าถ้าพูดออกไปแล้วจะทำร้ายจิตใจใครไหม ใครจะเป็นยังไงบ้าง ก็เลยยอมไม่พูด ถ้าต้องทำร้ายแฟน ๆ จนมันล่วงเลยและมีผลกระทบต่อจิตใจคนรอบข้าง วันนี้ก็เลยได้มาแถลงข่าว

- ซึ่งฝ้ายไม่ได้มองว่ามันเป็นแอนตี้แฟน แต่มองว่ามันเป็นความไม่เข้าใจมากกว่า ฝ้ายยังคงเคารพแฟน ๆ เสียใจเหมือนที่แฟน ๆ เสียใจ และไม่ได้มองว่าเป็นแอนตี้แฟน ไม่ได้โกรธด้วย

- เมื่อถามว่า ก่อนหน้านั้นมีข่าวออกมาว่า ที่ฝ้ายออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะน้องสารภาพรักเรา ชอบเราจริง ๆ แบบว่าเราอึดอัด ฝ้ายบอกว่า เอาจริง ๆ ไม่ได้อึดอัดเลยนะ สิ่งที่ทุกคนเห็น มันเกิดจากความรู้สึกเราจริง ๆ แต่ฝ้ายบอกชัดเจนว่า เราทั้งสองคนชัดเจนว่า เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน เรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แล้วทำไมจะต้องไม่ดีต่อกันด้วย ฝ้ายไม่เคยเกิดความอึดอัดเลยสักนิด และน้องก็พูดแค่ว่า น้องรู้สึกดี ฝ้ายเองก็พูดเหมือนกันว่า ฝ้ายรู้สึกดี คำสารภาพไม่เคยพูดว่า รักแบบไหน รักแบบอะไร ไม่เคยพูด

- ถามว่าเสียดายไหมกับคู่เราที่ต้องจบ รู้สึกสงสารแฟน ๆ มากกว่า

- แฟน ๆ จะปกป้องเรื่องที่ตัวเองรักก็ไม่ผิด แต่อย่าพูดอย่างเดียวคือเรื่องไม่จริง เรื่องที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

- ที่เพิ่งออกมาพูดตอนนี้ ปล่อยทิ้งเวลาไว้เยอะมาก คือฝ้ายคิดเยอะมาก พยายามหลายครั้งที่จะพูด สภาพจิตใจไม่ได้จริง ๆ

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม