ก่อนหน้านี้ พลอย เฌอมาลย์ เงียบหายไปจากวงการบันเทิงมาระยะหนึ่ง ซึ่งแทบไม่มีใครรู้เลยว่า ในช่วงที่ผ่านมานักแสดงสาวสวยหายหน้าหายตาไปไหน
แต่ล่าสุด พลอย เฌอมาลย์ ได้มาเปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตในช่วงที่หายไปให้ทุกคนได้ฟังในรายการ sisterhood พอดแคสต์ที่ดำเนินรายการโดย คุณแนท ธนวลัย วัชรพล บน YouTube ของ Mirror Thailand ซึ่งเรื่องที่พลอยเล่าทำเอาทุกคนช็อกสุดๆ
- พลอยเล่าว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีมรสุมชีวิตเกิดขึ้นในชีวิตของพลอยในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้จัดการ หรือว่าเรื่องนั้น และเรื่องสุขภาพมันมาพร้อมกันในจังหวะเดียวกัน เหมือนโดนพายุซัดแบบไม่ทันตั้งตัว
- ไปตรวจร่างกายก็เจอว่าเป็นมะเร็งเต้านม ตอนแรกที่รู้พลอยช็อกมาก ถามหมอกลับไปด้วยว่า มันคือเรื่องจริงเหรอ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
- ครั้งแรกที่ตรวจสุขภาพประจำปี พบว่ามีก้อนเนื้อ แต่ตอนนั้นรูปร่างของมันดูไม่อันตราย และหมอให้ติดตามอาการไปเรื่อยๆ แต่พลอยไม่ไปตรวจสุขภาพปีครึ่ง เพราะเป็นคนกลัวเข็มมาก เป็นความดื้อของตัวเอง และพอมาตรวจอีกครั้ง ก้อนเนื้อมันโตแล้ว
...
- อีกทั้งพลอยยังคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรงดี ทุกอย่างดูปกติดีไม่น่าจะเป็นอะไร จนไปตรวจสุขภาพอีกครั้งก็เลยเจอ ตอนนั้นช็อก และเพื่อนที่รู้เรื่องก็แนะนำให้พลอยไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง
- พลอยตรวจพบ 2 ข้าง ข้างซ้ายเป็นมะเร็ง ระยะที่ 2 แต่ข้างขวามันเป็นหินปูน ชิ้นเนื้อปกติหลังจากที่คุณหมอเจาะเอาไปตรวจ ไม่มีมะเร็ง
- ผ่าตัดครั้งแรก เอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นสายพันธุ์อะไร พอตรวจละเอียดก็พบว่าเป็นสายพันธุ์ชนิดพิเศษ คุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็ง Special Type มี ต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเต้านม สรุปคือพลอยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย มันลามไปต่อมน้ำเหลือง
- ตอนนั้นสิ่งที่พลอยกังวล เริ่มเครียดมากๆ คุณหมอบอกว่าต้องไปลุ้นในห้องผ่าตัด ฉีดสีเข้าไปแล้วมันจะลามไปอวัยวะหรือเปล่า ต้องไปลุ้นกันตอนนั้น
- หลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง พลอยร้องไห้ คำว่ามะเร็งเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวและไม่อยากมีประสบการณ์อะไร ครั้งแรกพลอยกลัวมาก แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกลัว รู้เร็ว รักษาเร็ว เทคโนโลยีมีเยอะมาก
- พลอยยอมรับว่า เป็นคนที่ดูแลตัวเองมาอย่างดีตลอด ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นด้วยซ้ำว่าเป็นได้อย่างไร
- แต่พอหลังจากที่ไปสืบมา ก็พบว่า คุณย่าทางคุณพ่อท่านเคยเป็น ก็น่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม
- หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จครั้งแรก บริเวณหน้าอกด้วยการคว้านชิ้นเนื้อออกไป เพราะพลอยเลือกการรักษาแบบไม่ตัดออกไป พักฟื้นไม่ถึงเดือนก็ผ่าตัดครั้งที่ 2 เพราะตรวจชิ้นเนื้อและพบว่ามันลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง พลอยก็พักฟื้นอยู่พักใหญ่
- พลอยต้องฉายแสง 25 ครั้ง หน้าอกไหม้ไปข้างหนึ่ง เจ็บมาก ซึ่งพลอยต้องทำ 5 วันต่อสัปดาห์
- คุณหมอบอกว่า พลอยไม่ต้องใช้คีโมรักษา ให้รักษาโดยการฉายแสง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการรักษา
- หลังจากฉายแสงจบ พลอยต้องกินยาลดฮอร์โมนเอสโตรเจนและฉีดด้วย มีผลกระทบต่อเราเยอะ เพราะผู้หญิงฮอร์โมนเอสโตรเจนมันสำคัญมากๆ สำหรับผู้หญิง
- พลอยกินยามาปีครึ่งแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นผอมมาก เพราะยาส่วนหนึ่ง อารมณ์ของพลอยสวิงมากเพราะลดฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ช่วงนั้นทรมานมาก ตอนนั้นน้ำหนักลดไป 13 กิโล ภายในเวลาเกือบๆ 3 เดือน เครียดทั้งตัว หัวใจ และสมอง มันหนักมากที่สุดในชีวิตแล้ว
- ในตอนนั้นยอมรับว่าตกอยู่ในสภาวะความเครียดหลายๆ อย่าง มี 3 เรื่องที่รุมเข้ามาในชีวิตทีเดียว พลอยรับเรื่องนี้ไม่ทัน
...
- พลอยเล่าต่อว่า หลังจากที่รู้เรื่องว่าตัวเองป่วย หลายเรื่องเข้ามาในชีวิต ร้องไห้หนักมาก จำตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร จมอยู่กับความทุกข์ ความเศร้า ความเสียใจ มันถูกกระทำจนพลอยจำไม่ได้ สูญเสียความเป็นตัวเองไป (น้ำตาคลอ)
- ในตอนนั้นคนรอบข้างก็พยายามให้สติ ให้กำลังใจพลอยมากๆ เพราะพลอยไม่มีความมั่นใจเลย ชีวิตเป๋มาก จนเดือนเมษายนพลอยถึงเริ่มดีขึ้น ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป
- พลอยอยากจะหลุดพ้นจากความทุกข์ ความเศร้า ซึ่งก่อนหน้านี้พลอยก็ผ่านมันมาได้ แต่ครั้งนี้ยอมรับว่ามันยากที่สุดในชีวิต ยากมากที่จะหลุดพ้นออกมาได้
- ในช่วงที่แย่ พลอยก็ให้เวลากับตัวเองวันต่อวัน เพราะถ้าฝืนยิ่งกดดันตัวเอง เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง ยอมรับในความอ่อนแอของตัวเอง และบอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวเราจะดีขึ้นแน่นอน ถึงเวลากลับมารักตัวเองให้มากๆ กลับมาดูแลหัวใจของตัวเอง กลับมาดูแลความรู้สึกของตัวเอง ไม่มีใครทำให้เราดีขึ้นได้นอกจากตัวเรา
- ตอนที่ไม่สบายช่วงนั้นไม่ได้บอกใคร เพื่อนสนิทก็ไม่รู้ รู้แค่บางคน และยังบอกตอนที่ผ่าตัดเสร็จแล้วอีกด้วย เพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะบอกใคร
- ซึ่งพลอยบอกว่า ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง ไม่อยากรบกวนเพื่อนๆ คิดว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ ถามว่าต้องการไหม ยอมรับว่าต้องการกำลังใจ ความห่วงใย แต่พลอยไม่กล้าขอ
- ณ วันนี้พลอยแข็งแรงมากขึ้น พอใจกับตัวเองมากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 8 กิโล ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4 วัน วันละ 2-3 ชั่วโมง ตรวจสุขภาพล่าสุด ตรวจอย่างละเอียด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ปลอดภัย แต่ก็ยังต้องกินยาอยู่
- ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของพลอยเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้ฝืนตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้พลอยไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่ตอนนี้ก็ได้กลับมาใช้ชีวิตแล้ว
...
- จริงๆ พลอยไม่ได้ทานคลีน ไม่ได้เฮลตี้ขนาดนั้น เลยทำให้รู้ว่าที่เป็นมะเร็งเพราะเราไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยไปกับการใช้ชีวิต ตอนนั้นกินไม่เป็นเวลา กินเนื้อแดงเยอะมาก ใช้ชีวิตตามคนของเรา นอนเช้า กินอาหารแปรรูป มันเลยไปเร่งในการเจริญเติบโต บวกกับความเครียดด้วย และตอนนี้พลอยเลิกกินอาหารแปรรูปแล้ว
รายการ sisterhood ออนแอร์ทุกวันพฤหัสเว้นพฤหัส เวลา 19.00 น. รับชมสัมภาษณ์ตัวเต็มได้ที่ยูทูป Mirror thailand และติดตามบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ในทุกแพลตฟอร์มของ Mirror thailand
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”
...