เจอเหตุการณ์สุดช็อกจนทำให้คนเป็นพ่อแม่แทบขาดใจ สำหรับคู่รักดังอย่างนักร้อง-ดีเจหนุ่ม โด่ง ศิระ รัตนโภคาสถิต หรือ โด่ง AF3 และดีเจสาวหน้าหวาน ออม ภัสสร พัชรสรวุฒิ ที่ล่าสุด น้องไอเซ็น ลูกชายวัย 5 ขวบ เกิดอาการชักจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู
ซึ่งในแฟนเพจ เลี้ยงลูกสนุกจังเลย by DJ Aom Passorn ได้โพสต์ภาพของน้องไอเซ็นพร้อมทั้งเขียนข้อความเล่าถึงเรื่องนี้ว่า “ม๊าเคยคิดว่าผ่านประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตมาแล้วนะ แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ความรู้สึก “ใจจะขาด” เป็นยังไง เพิ่งเข้าใจจริงๆ ค่ะ
#ไอเซ็นเข้าICU Part 1
ไอเซ็นนั่งเล่นกับเจ่เจ้อยู่ในห้องนอน ป๊าม๊าได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักกันสนุกสนาน ซักพักเจ่เจ้เดินออกมาบอก “หม่าม๊า น้องทำหน้าแปลกๆ หนูถามว่าน้องโอเคไม๊ น้องไม่ตอบอะไรเลย หรือน้องจะอ้วก” แล้วไอเซ็นก็เดินตามออกมา มีน้ำลายไหลมุมปากข้างเดียว แล้วก็ทำท่าเคีัยวๆ ฟัน น้องเดินตรงไปห้องน้ำ หยิบแก้วใส่น้ำพยายามบ้วนปาก ม๊าถามว่า “มีอะไรติดฟันเหรอลูก เดี๋ยวม๊าช่วยแคะออกให้” (เพิ่งแวะทานข้าวเย็นและซื้อขนมก่อนเข้าบ้าน ใจคิดแค่ว่าสงสัยมันติดฟันรึเปล่า)
...
ม๊าจับให้น้องหันมา จังหวะที่จะเอานิ้วเปิดปากดูว่ามีอะไรไม๊ ไอเซ็นก็กัดนิ้วม๊าสุดแรง ม๊าร้องตะโกนด้วยความเจ็บสุดๆ แต่ไอเซ็นก็ไม่ปล่อย คือกัดค้างจนม๊าต้องเอามืออีกข้างมาง้างปากน้องออก และน้องยังทำท่าเคี้ยวฟันไม่หยุด วินาทีนี้แหละที่ม๊ารู้แล้วว่า มีบางอย่างผิดปกติ!! เพราะไอเซ็นไม่เคยเป็นแบบนี้ ลูกไม่มีทางตั้งใจทำม๊าเจ็บขนาดนี้แน่นอน!
ม๊าตะโกนบอกป๊ากับไอมิให้พาน้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ม๊าคว้ามือถือกับกระเป๋า ทุกคนใส่รองเท้าแล้วออกเลย! ช่วงที่ลงลิฟต์ ไอเซ็นยังมีสติ เดินเองได้ พยายามพูดแต่พูดไม่เป็นภาษาแล้ว เสียงอยู่ในลำคอ หน้าซีกซ้าย ตาและปากกระตุกแรงขึ้น ม๊ารีบหยิบมือถือมาถ่ายไว้เพื่อให้คุณหมอและพยาบาลได้ดู (ซึ่งตัดสินใจถูกมาก เพราะคุณหมอได้เห็นอาการชัดเจน ณ เวลาที่เกิดเหตุ ว่าน้องมีอาการกระตุกเกร็งตรงไหนบ้าง กระตุกมานานแค่ไหนก่อนถึงมือหมอ น้องยังมีสติและยังทรงตัวเองได้ด้วย)
พอขึ้นรถ ม๊ารีบโทรบอกโรงพยาบาลเพื่อแจ้งชื่อลูกไว้ก่อน แจ้งอาการเบื้องต้นและถามพยาบาลว่าพอมีอะไรที่ม๊าจะช่วยลูกได้บ้างระหว่างทาง พยาบาลบอกให้ม๊าจับลูกนอนตะแคง แล้วรีบมาให้เร็วที่สุด ดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล แต่ช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีนั้น ม๊าก็เหมือนจะขาดใจให้ได้เลย
ไอเซ็นยังกระตุกตลอดทาง สายตาเริ่มเหม่อลอยแล้ว ป๊าม๊า และเจ่เจ้พยายามเรียกน้องไม่ให้หลับ ถ้าเข้าใจที่ม๊าพูดให้บีบมือแรงๆ นะ ซึ่งน้องก็พยายามบีบมือม๊า แต่อ่อนแรงลงทุกที ม๊าใจไม่ดีเอามากๆ เลย
ถึงโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ม๊าอุ้มน้องวิ่งตรงไปห้องฉุกเฉิน มีคุณหมอและทีมพยาบาลสแตนด์บายรอแล้ว คุณหมอประเมินอาการและสอบถามม๊าไปด้วย น้องโดนจับใส่หน้ากากออกซิเจน และฉีดยาทันที จากที่ไอเซ็นกระตุกอยู่ก็ค่อยๆ สงบลง ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก มันเหมือนเราเห็นภาพ Slow Motion ในหนังเลย แต่นี่มันคือเรื่องจริง… หมอแจ้งว่า “น้องชักนะคะแม่”
ป๊าม๊าตกใจ มันเกิดขึ้นได้ยังไง?? ก่อนหน้านี้ไอเซ็นปกติมาก ไม่ได้ป่วย ไม่มีสัญญาณเตือนอะไรมาก่อนเลย
“การชักในเด็กมี 2 อย่างค่ะ 1. ชักจากไข้ (อาจมีไข้สูงก่อนแล้วชัก หรือมีอาการชักก่อนแล้วไข้ตามมาก็ได้) 2. ลมชัก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติในสมอง/ มีเนื้องอก/ มีน้ำในโพรงสมอง / กระแสไฟฟ้าในสมองทำงานผิดปกติ/ มีการอักเสบติดเชื้อส่งผลให้ชัก หรือบางเคสเกิดขึ้นได้โดยไม่ทราบสาเหตุก็มี หมอสั่งเจาะเลือดดูค่าอักเสบติดเชื้อ swab จมูกตรวจเรื่องไข้หวัดใหญ่และไวรัสอื่นๆ รอฟังผลเลือดอีกทีนะคะ คืนนี้ให้น้องอยู่ ICU เพื่อมอนิเตอร์ใกล้ชิดว่าจะชักซ้ำหรือไม่ เพราะมีโอกาสที่น้องจะชักได้อีก”
”ดีมากๆ ที่ตัดสินใจพาน้องมาโรงพยาบาลทันที ทำให้ฉีดยากันชักได้ไว“
คุณหมอสอบถามเรื่องราวเพิ่มเติมว่าน้องมีไปทำกิจกรรมอะไรมาบ้างในช่วงนี้ ซึ่งก็เพิ่งมีไปเรียนว่ายน้ำ ไปดูงานสัตว์ ถ้าเคยมีกระแทกกันก็เกิดขึ้นเกือบอาทิตย์แล้วคือเล่นกับเจ่เจ้แล้วหัวโขกกันเอง แต่ก็ไม่ได้หัวโน ไม่มีปวดหัวหรืออาเจียนอะไร แป๊บเดียวก็หายเจ็บ หมอบอกว่าไม่น่าเกี่ยว เพราะหลายวันแล้ว และถ้าเกิดจากการกระแทก ก็ต้องอาการหนักกว่านี้ไปนานแล้ว
...
“ดังนั้นถ้าคืนนี้ไม่มีไข้ ผลเลือดไม่มีเรื่องอักเสบติดเชื้อ คงต้อง CT Scan สมองดูความผิดปกตินะคะ”
ตอนนี้น้องจะหลับไปซักพักด้วยฤทธิ์ยา คุณหมอและพยาบาลช่วยพูดให้คลายกังวลได้ระดับนึง แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้ม๊าจุกอกมากจริงๆ เจ่เจ้เองก็ยืนแทบไม่ไหว ตอนที่น้องโดนฉีดยาแล้วนิ่งไป เจ่เจ้กรีดร้องแบบจะขาดใจเลย จนม๊าต้องให้ป๊าพาเจ้ออกไปรอข้างนอกก่อน
“ทำไมน้องเป็นแบบนี้ หรือหนูเล่นกับน้องแรงเกินไป เป็นเพราะหนูรึเปล่า ถ้าน้องตาย หนูอยู่ไม่ได้นะหม่าม๊า” แล้วเจ้ก็พูดซ้ำๆๆๆ “เป็นความผิดของหนูๆๆๆ”
ม๊าต้องกอดเจ้ไว้ บอกลูกว่า “ไม่ใช่เลย ไม่ใช่เพราะหนู เรายังไม่รู้สาเหตุ แต่ตอนนี้น้องอยู่กับหมอแล้ว ปลอดภัยแล้วนะ ม๊าเข้าใจว่าหนูกลัว ม๊าก็กลัว แต่น้องคงกลัวมากกว่า ม๊าก็อยากร้องไห้เสียงดังๆ เหมือนไอมิเลย แต่เราต้องเข้มแข็ง ให้กำลังใจน้อง ถ้าเราร้องไห้หนัก น้องจะยิ่งกลัวนะ”
ไอมิฟังม๊า แล้วไอมิก็ฮึบ! เหมือนพยายามกลืนน้ำตาเข้าไป แต่ก็ยังร้องไห้ไม่หยุดด้วยเสียงที่เบากว่าเดิม
ม๊าโทรแจ้งข่าวที่บ้าน ให้อาม่ากับอากู๋มารอรับไอมิกลับบ้าน ม๊าต้องค้างที่ ICU กับไอเซ็น (โรงพยาบาลให้ค้างได้คนเดียว) ส่วนป๊าให้รอสแตนด์บายอยู่คอนโดใกล้ๆ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้เหยียบมาเลยทันที
พอไอเซ็นรู้สึกตัว กลับมาพูดรู้เรื่องเหมือนเดิมแล้ว น้องจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่งงอยู่ว่ามานอนที่นี่ได้ยังไง แล้วก็เริ่มร้องไห้นิดหน่อยตอนที่รู้ว่าจะไม่ได้กลับบ้านรวมถึงโดนงดน้ำและอาหารด้วย (ตื่นมาก็หิวเลยงี้ลูกเอ๊ยยย) เจ่เจ้กับป๊าเลยกลับไปเอาตุ๊กตาที่น้องกอดนอนมาให้อยู่เป็นเพื่อน ไอเซ็นก็เลยโอเค แค่น้องดีขึ้น พอจะพูดคุยได้แบบนี้ม๊าก็ใจชื้นแล้วลูก
เพราะแวบนึงในช่วงเวลานั้น ม๊าคิดว่าอาจจะเสียน้องไปซะแล้ว…
...
ตั้งแต่คลอดจนอายุ 5 ขวบ ไอเซ็นไม่เคยป่วยหนักจนต้องแอดมิดมาก่อน อย่างมากก็เป็นไข้หวัดและภูมิแพ้ฝุ่น แพ้อากาศ แต่พอจู่ๆ มาเป็นหนักแบบนี้ มันก็ทำให้ครอบครัวเราช็อกมากๆ
ตอนหน้า จะมาอัปเดตว่าผลตรวจเป็นยังไงนะคะ น้องตรวจละเอียดทุกอย่าง เนื้อหาค่อนข้างยาว แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกในวัยเดียวกัน ที่อาจต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ จะได้รับมือได้ทันท่วงทีค่ะ ขอเวลาม๊ารวบรวมสติเพื่อเรียบเรียงเรื่องราวซักหน่อยนะคะ”
...
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม