Prime Cast สัปดาห์นี้เปิดหมดเปลือก โยชิ รินรดา เล่าชีวิตจากลูกหลานแม่บ้านย่านทองหล่อสู่ไอคอนด้านความสวย กินยาคุมตั้งแต่ 14 ตอนนี้รู้แล้วสวยได้ไม่ต้องเสี่ยงจนกระดูกพัง เอ็นจอยกับชีวิตหลังปลดล็อกภาพลักษณ์มิสทิฟฟานี และบทเรียนเรื่องการรักตัวเองอย่างแท้จริง อยู่คนเดียวนานจนรู้สึกห่วงความโสด
ในวัยเด็กเป็นยังไง?
"หนูเป็นคนแข็งแกร่งนิดหนึ่ง โตมาย่านทองหล่อ เรียนโรงเรียนติด BTS แต่คือโรงเรียนวัด และบ้านที่ทองหล่อคือเป็นบ้านเจ้านาย ซึ่งหนูเป็นลูกหลานแม่บ้าน หลายๆ คนมองว่าเหมือนลูกคุณหนูหรือเปล่า โตทองหล่อเรียนโรงเรียนใกล้ BTS แต่จริงๆ แล้วพูดภาษาบ้านๆ ก็คือลูกคนใช้ แต่โชคดีที่เจ้านายเอ็นดูเรา ส่งไปเรียนโรงเรียนพิเศษเราก็ได้ข้อดีจากตรงนั้นมา
คือเรื่องจริงเลยใช่ไหม?
"ใช่ค่ะ ตอน 6 โมงต้องไปชงวิสกี้ให้เจ้านาย 1 ทุ่ม ตั้งโต๊ะเสิร์ฟอาหาร หรือว่าช่วงปิดเทอมก็ตามเขาไปที่เขาใหญ่ เขาก็จะพาเราไปเที่ยวหลังจากนั้น เราก็มีเสิร์ฟข้าวกลางวันข้าวเย็นอะไรอย่างงี้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ตอนเด็กก็เลยจะมีความสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยได้อ่อนแอเท่าไหร่"
จนอายุเท่าไหร่ถึงรู้ว่าเราหน้าตาดี?
"คือเราเริ่มรู้ตัวตอน ม.ต้น ที่เวลาไปไหน จะมีแต่คนชมว่าทำไมหน้าตาดีจัง เพื่อนๆ แม่ก็จะเริ่มชม ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าหน้าดีเป็นยังไง จนคุณครูก็เริ่มให้โอกาสในการทำกิจกรรม แล้วก็พอจะรู้ตัวว่า หน้าตาเราอาจจะจัดอยู่ในพื้นฐานที่ดี ก็เริ่มรักตัวเองมากยิ่งขึ้น ช่วงนั้นก็เหมือนค้นพบตัวเอง ก็โอเพนนิ่งกับเพื่อนว่าเราอยากเป็นผู้หญิง"
วันหนึ่งที่อยากจะเป็นผู้หญิงขึ้นมา?
"ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าไม่ได้โฟกัสว่าจะสวยหรือหล่อ เพราะตอนประถมไม่ได้เปิดตัวเต็มร้อยเพราะว่าด้วยความที่กระเทยมันมีน้อย ในโรงเรียนประถมมีแค่ 2 คนแล้วเรารู้สึกว่า ถ้าเปิดตัวไป จะโดนเพื่อนแกล้งไหมอะไรอย่างงี้ ก็จะแอ๊บพูดครับ แต่เริ่มสอดส่องสังคมในมัธยมแล้วว่าโอเคเริ่มมีเพื่อนกระเทยทั้งชั้น 10 กว่าคน ถ้า opening ไป เรามีเพื่อน มีสังคม พอ ม.2 ปุ๊บ ก็เริ่มแบบเปิดเผยตัวตน ว่าอยากจะเป็นผู้หญิง เป็นสาวประเภทสองไม่ใช่ผู้ชาย"
...
เริ่ม Opening ของโยชิคือหมายถึงยังไง?
"อาจจะเริ่มใส่กางเกงสั้น แล้วก็ได้อิทธิพลมาจากกระเทยรุ่นพี่ด้วย ตอนนั้นเราก็เป็นสแตนเชียร์ แล้วพี่ก็เป็นกระเทยที่สวยมากๆ แล้วเราก็ถามพี่ทำยังไงทำไมสวยจัง เขาก็แนะนำการกินยาคุม ช่วงนั้นจะเป็นการที่แบบส่งต่อจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ยังไม่มีพวก TikTok ที่ไถตามแล้วได้ข้อมูล เรารู้ว่ากินยาคุมกินกลูต้า แล้วก็มีพวกอาหารเสริมต่างๆ ก็กินตามรุ่นพี่
เริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 14 เริ่มกินยาคุมเลย ก็มีอ๊องบ้าง คือช่วงนั้นจะเป็นความเข้าใจผิดว่ายิ่งฉันกินยาเยอะๆ ฉันยิ่งสวย น้องๆ ไม่ดีนะคะ ตอนนี้ไปหาหมอดีกว่า ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เราเด็กๆ มันไม่มีข้อมูลเยอะขนาดนี้ แล้วมันส่งผลต่อร่างกายจริงๆ เราก็กินวันหนึ่ง 2-4 เม็ด ตอนนั้นคือรู้สึกว่ากล้ามขึ้นคือเหมือนผู้ชายแล้ว ก็เทคยาเยอะมาก แล้วก็มีการตอนนั้นเริ่มเจอเพื่อนมีการฉีดฮอร์โมน
เอฟเฟคตอนนั้นรู้สึกว่าเรียนไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่าตามเพื่อนไม่ค่อยทันทั้งๆ ที่เราค่อนข้างที่จะเรียนเก่ง กระดูกผิดปกติเวลาเดินได้ยินเสียงก็อบแก๊บในร่างกายตลอดเวลา เหมือนกระดูกไม่แข็งแรงไม่รู้เป็นเพราะเอฟเฟคยาหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นเราก็กลัวตาย เลยเริ่มศึกษาจริงจังว่าการที่เราจะสวยแบบปลอดภัยมันเป็นยังไง ซึ่งก็ได้เรียนรู้แล้ว โชคดีที่เรากลับมาได้"
คาแรคเตอร์เวลาที่โยชิอยู่กับเพื่อนที่สนิทกับเพื่อนที่ไม่สนิทต่างกันเยอะไหม?
"ต่างเยอะค่ะ หลายๆ คนคิดว่าหนูเป็นคนเรียบร้อยไม่พูดคำหยาบ แต่อยู่กับเพื่อนก็แฟดเหมือนกัน หนูก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ปล่อยจอยกับชีวิต คือเชื่อว่าผู้ชมที่ติดตามโยจริงๆ ก็น่าจะรู้แล้วว่าโยไม่ใช่คนเรียบร้อย เพราะว่าหลังจากโควิดหนูรู้สึกใช้ชีวิตได้คุ้มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวร้านเหล้า หรือว่าการปล่อยจอยแบบไม่แอ๊บ
เพราะว่าก่อนหน้าโควิดหรือว่าตอนที่หนูได้มิสทิฟฟานี มีคำว่านางงามตีกรอบตัวเองอยู่ เช่น เป็นนางงามต้องรักเด็ก ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ เยาวชน ซึ่งหนูรู้สึกว่าตอนนั้นหนูแฮปปี้นะที่จะเป็น แต่ว่าใจเราลึกๆ เราก็คันอยู่ข้างใน เราอยากปลดปล่อย อยากเมา อยากเต้น แต่เรายังเต้นไม่ได้ เพราะยังถือภาพลักษณ์ การเป็นมิสทิฟฟานีอยู่
ตอนช่วงโควิดมันทำให้ทุกอย่างล็อกดาวน์ไป 2 ปี ซึ่งหนูเสียดายความสวยตอนนั้นมาก ว่าถ้าเราอายุเยอะกว่านี้เราจะไปเต้นเยอะๆ เด็กเขาจะขำเราหรือเปล่า ก็รู้สึกว่าไม่ได้หลังจากนี้เราต้องออกไปใช้ชีวิต พอหลังออกไปใช้ชีวิตหลายๆ คนก็เห็นมุมมองโยในมุมมองใหม่ขึ้น ก็จะได้รู้ว่าแล้วจริงๆ แล้วโยไม่ใช่คนเรียบร้อย โยก็คือคนๆ หนึ่งที่ชอบปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ เหมือนกันค่ะ"
ด้วยความที่ทุกคนมองว่าโยชิคือคนสวย เคยมีโมเมนต์ที่อยากจะให้คนมองเราที่ข้างในไม่ใช่แค่ภายนอกบ้างไหม?
"อยากมีเหมือนกันค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านั้นที่มีดราม่าว่าโยชิมาทำไม? ที่เขาเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเวลาออกงาน เพราะหนูว่าคนไทยส่วนมากไม่ใช่ทุกคนนะคะ จะชอบเปรียบเทียบกัน ดาราคนนู้นดีกว่าคนนี้ดาราคนนี้เล่นดีกว่า ซึ่งเราก็รู้สึกว่านานาจิตตัง ความสวยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีข้อดีเยอะเหมือนกัน แต่ว่าหลังจากผ่านจุดนั้นไปแล้ว ก็อยากจะให้ทุกคนมองที่ความสามารถหรือว่าอะไรต่างๆ ข้อดีที่เรามีจากข้างใน"
...
โยชิหุ่นดีมากดูแลรูปร่างยังไง?
"ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าเป็นคนกินอะไรก็ไม่อ้วนอยู่แล้ว แต่พอเราโตมาเวลากินเยอะคุณแม่เขาจะพูดว่าตอน 18 19 ฉันก็หุ่นอย่างงี้แหล่ะเดี๋ยวลอง 30 ดูสิขึ้นมาเป็น 10 กิโลแน่ ตอนนั้นเราก็ยังไม่เก็ต โอเคหนูไม่มีทางหรอกค่ะ แม่เลยก็แบบกัดกันกับคุณแม่ช่างแต่งหน้า แต่พอยังไม่ 30 เลยตอนช่วง 26 - 27 รู้สึกว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยทำไมรู้สึกว่าตัวมันหนุบหนับขึ้น น้ำหนักขึ้น หรือว่ามันถึงเวลาของเราแล้ว ฉันจะไม่ยอม
ทุกวันนี้ก็รู้สึกว่าเลือกกินมากยิ่งขึ้น เหมือนเราค่อยๆ ปรับจากที่แต่ก่อนชอบกินหวาน ทุกอย่างต้องหวาน 100 ก็เริ่มกินหวาน 50 จนทุกวันนี้หวาน 0 เริ่มจากชาเขียว ต้องกินชาเขียวทุกวันเป็นเพียวมัทฉะ อาหารก็จะพยายามลดทอด ลดมัน ถ้าวันไหนที่ขยันหน่อยก็จะกินคลีนไปเลย กินแค่ 2 มื้อ ตอนเที่ยงและตอนเย็น นอกบ้านก็กินปกติเลยแต่ก็จะควบคุม"
การออกกำลังกาย?
"เคยออกกำลังกายหนักๆ แล้วไม่เห็นผล เพราะเคยตื่นมามีเทรนเนอร์ต้องไปฟิตเนสแรกๆ โอเคฉันจะปั้นหุ่นมีแรงมาก พอทำไปประมาณ 3 อาทิตย์รู้สึกท้อ แล้วก็พอเริ่มมีงานเยอะๆ ก็เริ่มยอมแพ้ ก็เลยปรับใหม่ งั้นเราออกน้อยๆ แต่ออกทุกวัน ตื่นมาก็จะมีเต้นบ้างตาม YouTube แล้วก็มี body หน้าท้องบ้าง เล่นขาก้นบ้าง วันละครึ่งชั่วโมง วันไหนที่อยู่บ้านถ้าไม่ออกกำลังกายจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องแค่ตื่นมา 10-20 นาทีแล้วทำไม่ได้ หลังๆ ก็รู้สึกว่าถ้าทำอันนี้เสร็จปุ๊บ คือเราสำเร็จแล้วกับเป้าหมายของเรา"
ตารางการนอนเป็นไงบ้าง?
"พยายามนอนไม่ดึก จะหลับประมาณ 4 ทุ่ม ตื่น 7 โมง แล้วก็เตรียมตัวไปทำงาน"
เทคนิคอื่นๆ ที่ทำให้ออร่าพุ่งขนาดนี้มีอะไรบ้าง?
...
"หนูอยากจะแชร์เรื่องนี้ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องหน้าตาดีกว่า รู้สึกว่าอันนี้มันทำให้หนูมีความสุข ทุกคนที่ชอบความสวยนะหนูจะยอมเสียความสุขเล็กๆ เพื่อที่จะแลกกับความสุขทั้งวัน เช่น ก่อนจะออกไปแต่ละวันใช้เวลาในการเตรียมตัว 2 ชั่วโมง รู้สึกว่าวันนั้นเราเสียความสุขแบบหลายๆ คน มองว่าโยชิไม่เหนื่อยเหรอ จริงๆ เหนื่อยนะ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับทั้งวันรู้สึกว่า มันคุ้มเลยคือตื่นมาแต่งตัวที่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจ"
เหมือนที่พี่ปอยบอกว่าสระผมจะทำให้เราดูสวยขึ้น แล้วหนูรู้สึกว่ามันจริง แล้วสระผมหนูเป็นผมต่อด้วยใช้ระยะเวลาในการเป่าอย่างต่ำคือ 45 นาที ความเหนื่อยตรงนี้มีอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าแลกกับการที่เรามั่นใจทั้งวันหนูรู้สึกว่ามันคุ้มนะ เพราะเสียความมั่นใจไม่คุ้ม เราเสียความสุขเล็กๆ เพื่อที่จะแลกกับความสุขใหญ่ๆ มันคุ้ม"
หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวต่างประเทศกระเป๋าเดินทางหนักมากนะ แต่ว่าวันนั้นเราแต่งตัวสวยทำให้มีความสุขมากๆ หนูยอมที่จะแลกกับความสุขเล็กๆ ที่เสียไป"
มุมมองความรักเป็นยังไง?
"ณ ตอนนี้ก็พยายามขายหลายรายการละ แต่มันเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแล้วกัน รู้สึกว่าช่วงชีวิตตอนนี้รู้สึกแฮปปี้กับการเป็นโสดมากๆ แต่ถามว่าอยากมีแฟนไหม อยากมีนะ อยากมีใครสักคนที่แชร์เรื่องไม่ดีหรือว่าเจออะไรมาก็แชร์กับแฟน แต่พอมันเป็นช่วงหนึ่งที่เราอยากมีแฟนมากๆ ก็หาพอไม่เจอก็เลยมาหาข้อดีว่าการเป็นโสดมีข้อดีอะไรบ้าง 24 ชั่วโมงเป็นของเราหมดเลย ไม่ต้องไปรายงานตัว พอไม่มีตรงนี้ได้โฟกัสกับชีวิตตัวเองมาก ได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดได้ ออกไปเที่ยวหลายประเทศมากๆ แล้วก็ได้ลองใช้ชีวิตหลายๆ อย่าง เลยรู้สึกว่าพออยู่คนเดียวมากๆ รู้สึกชิน แล้วก็หวงเวลาโสดของตัวเอง"
...
ถ้าจากนี้อยากจะมีความรักต้องการให้คนที่เข้ามาในชีวิตมีลักษณะแบบไหน?
"พูดตรงๆ ว่าปัจจุบันไม่รู้เลยว่าชอบคนแบบไหน เพราะว่าเคยลองเปิดใจคุยกับหลายๆ คน ก็จะมีอะไรที่รู้สึกว่ามันจะซ้ำกับคนเก่าหรือเปล่านะ มันจะทำให้ระบบข้างในเราตัดออกอัตโนมัติเลย เช่น หนูทำงานหนักมาก แต่เขาบอกว่าเธออาทิตย์นี้ไม่มีเวลาให้เลย ทำไมแบบแบ่งเวลาสัก 2 วันต่ออาทิตย์ให้ไม่ได้เหรอ ซึ่งรู้สึกว่าถ้าเรามีเวลาจริงๆคงไปแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นมีงานเยอะจริงๆ แล้วมันเหนื่อยมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าทำให้เขาไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่มีความสุข ก็จะเปิดใจคุยกับเขาว่าเราให้ตรงนี้ไม่ได้ เธอว่าไงโอเคหรือเปล่า ถ้าเขาไม่โอเคงั้นเราก็แบบต่างคนต่างแยกย้ายไปเถอะนะ ไม่อยากเสียเวลาเราก็จะ 30 อยากเจอกับคนที่คลิกกันจริงๆ อยากใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ ค่ะ"
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม