หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาวใต้ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ไลฟ์สดขายของหลังเกิดปัญหากับคุณแม่ จนกลายเป็นกระแสเทศกาลเจนนี่ แต่ก็มีดราม่าตามมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการคัดเลือกแบรนด์สินค้าขึ้นไลฟ์ว่าสินค้าดังกล่าวมีความปลอดภัยในการบริโภคหรือไม่ รวมไปถึงการโฆษณาเกินจริงในบางแบรนด์ระหว่างไลฟ์สด อีกทั้งยังถูกวิจารณ์ว่าพอผ่านมาหลายวันกระแสเริ่มตก ยอดขายลด แถมบางแบรนด์ที่มาไลฟ์กับเจนนี่ สุดท้ายขาดทุน ถูกยกเลิกออเดอร์เพียบ

ล่าสุดในระหว่างเจนนี่ไลฟ์สด ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ติดต่อมาที่เจนนี่ ซึ่งเจนนี่คุยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เจนนี่จะเผยถึงเรื่องนี้ผ่านไลฟ์สดว่า เรื่องที่ทาง สคบ. ห่วงใย และอยากให้เคร่งครัด คือการโฆษณาเกินจริง ซึ่งตอนนี้เรามีการเซ็นสัญญาให้รับรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงต่างๆ แต่พอทางแบรนด์เข้ามาและยังคงพูด มันจะผิดกฎหมาย และยังมีเรื่องการร้องเรียน อาจจะนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมายในการตรวจสอบ

ฉะนั้นเจนนี่ยังย้ำเหมือนเดิมว่าอยากให้ทุกคนอ่าน การ overclaim โฆษณาเกินจริง มันเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งทาง สคบ. เขามีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค เขาทำหน้าที่ของเขา ถามว่ามีคนร้องเรียนไหมก็มี เดี๋ยวให้ทางทนายตรวจสอบดูว่าของแบรนด์ไหน เป็นที่คำไหน ที่บางทีพลาดพูดไปหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์

...

แต่ไม่ต้องห่วงว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะโดนร้องเรียนแล้ว จะต้องดำเนินการอะไรต่างๆ เจนนี่ ยิว พวกเราพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการทุกเรื่อง พร้อมปรับปรุงแก้ไขรับผิดชอบกรณีทุกบาททุกสตางค์ ถ้าเกิดมีกรณีผู้เสียหายเกิดขึ้นในไลฟ์สดของพวกเรา เราก็ยินดีรับผิดชอบทุกผู้เสียหายที่เกิดขึ้น 

หลังจากนี้ทางแบรนด์ต่างๆ รบกวนอ่านรายละเอียดข้อเท็จจริง อันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้คุย เพราะว่าเจนนี่ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับทุกเรื่องราวขนาดนั้น เพราะฉะนั้นใครก็แล้วแต่ที่จะมาเข้าไลฟ์กับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สคบ. เรื่องโฆษณาเกินจริง สารสกัด 

แต่เราไม่ห่วงเพราะมีการเซ็นสัญญาปรับ 100 ล้านบาท มีการคัดแบรนด์แล้วว่าแบรนด์ไหนไม่มี อย. สารสกัดไม่ดี หรือตรวจสอบเจอทีหลัง ถือว่าแบรนด์โกหก ทำผิดกฎหมาย ฉะนั้นสินค้าต้องดีจริง ไม่มีสารอันตราย คุณรู้อยู่แล้วที่ตรงนี้ดราม่ามันเยอะ ถ้าแบรนด์คุณไม่ดี คุณโดนยับแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจในแบรนด์จริงๆ ถึงส่งมาให้พวกเราขายได้

และย้ำในเรื่องการโฆษณาเกินจริง overclaim จะใช้คำเลี่ยงมันค่อนข้างยาก แต่ภาษาลูที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อันนี้ไม่ติด เพราะเขายังไม่ได้โอเวอร์เคลม แต่มันเป็นการเลี่ยงของ TikTok เฉยๆ อันนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ใครก็แล้วแต่ที่มาไลฟ์ ฝากเรื่องกระบวนการทางกฎหมายด้วยนะคะ ต่อให้เจนนี่ไม่พูด แต่เป็นสื่อให้พี่พูดก็มีความผิดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นรบกวนจริงๆ นะคะ ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

ทีมงานก็เหมือนกัน แจ้งลูกค้าที่จะขึ้น แจ้งเรื่องห้าม overclaim ห้ามพูดโฆษณาเกินจริง ถ้าสมมติอยู่ๆ แบรนด์ไหนพูดขึ้นมาในไลฟ์ เอฟซีหรือลูกค้าเห็น ทักเข้ามาได้เลย เดี๋ยวเจนให้ทางแบรนด์พูดขอโทษ แล้วให้เขาพูดใหม่เลย ฉะนั้นฝากทุกคนเป็นหูเป็นตาได้ด้วย เพราะหนูย้ำเรื่องนี้เสมอ

ก่อนจะพูดถึงเรื่องที่คนวิจารณ์ว่ากระแสตก คนดูน้อย เจ้าของแบรนด์ที่มาไลฟ์ สุดท้ายขาดทุน โดยบอกว่า “อีกเรื่องที่ทุกคนบอกว่ากระแสตก คนดูน้อย แก 9 หมื่นหรือ 1 แสนคนดู หรือ 3 หมื่นคนดูก็ยังเยอะ ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สมมติแฟนคลับคนนั้นคนนี้เข้ามา เจนนี่รู้ดีว่าไม่มีอะไรแน่นอนยั่งยืน

เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าเรายังมีหน้าที่ทำตรงนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ ทำกันให้มีความสุขค่ะ เจนนี่ไม่ได้ซีเรียสเลยทุกคน วันนี้ได้มีโอกาสได้ขายสินค้าให้ชาวบ้านบ้าง มีโอกาสได้ตอบแทนทุกคน ต่อยอดในการทำบุญ สร้างงานสร้างอาชีพ มีโอกาสได้มอบรถ ambulance มันคือความสุขที่เกิดขึ้นแล้ว

ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง หนูไม่ได้โง่ หนูรู้ดีทราบดี แต่ตอนนี้เรากำลังเคลียร์งานของเราที่ลูกค้าไว้วางใจให้เรามาขายของ เพราะฉะนั้นที่รักฟังนะ การที่เราเปิดร้านๆ นึง คนวิ่งเข้ามาร้านเรา 3 หมื่นคน สำหรับเจนนี่ในฐานะการทำการตลาดก็ยังเยอะ 

...

ถ้าพี่พูดในเชิงตักเตือน เจนนี่มองว่าโอเค เรารับฟังนะ แต่การที่คนมองว่ายอดตก สมน้ำหน้า มันคือการแซะ ซึ่งเจนนี่ไม่แนะนำให้พี่ๆ ทุกคนทำแบบนี้ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่น่ารัก ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องดูค่ะที่รัก แต่ถ้าเข้ามาแล้วมีความสุข อยากได้สินค้าอะไรบอกพวกเรา เราพยายามจะเฟ้นหาทุกอย่างให้ดีที่สุด

เรื่องขาดทุนของเจ้าของแบรนด์ก็เหมือนกัน ถ้าแบรนด์ไหนลดราคาให้คือเขาเต็มใจ ถ้าเขาเต็มใจ เราก็ยินดีที่จะรับไว้เพราะว่าพวกเราเองก็อยากได้สินค้าราคาถูกอยู่แล้ว ฉะนั้นใครก็แล้วแต่ที่วิพากษ์วิจารณ์อะไรก็แล้วแต่ ต้องเข้าใจว่าถ้าขาดทุนทุกคน แบรนด์เก่าเขาไม่มาซื้อหรอก ตอนนี้แบรนด์เก่าเจนนี่ซื้อซ้ำ สัญญายาวทั้งปี เป็นการทำการตลาดที่ต่อให้ยิงแอดก็ไม่ได้เท่านี้ 

หนูในฐานะทำออนไลน์ รู้ดีเรื่อง engagement อัลกอริทึมตรงนี้ หนูมองว่ามันคุ้ม แล้วถ้าสมมติอนาคตเหลือคนดู 3 หมื่น ปรับเรตแน่นอน ไม่คิดแพงแน่นอน ทำยังไงก็ได้ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มากที่สุด แต่วันนี้มันยังคงเป็นแบบนี้อยู่  ซึ่งคิดว่าปีนี้ยังคงเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ชอบกันจริงๆ ต้องขออภัยและจะไม่ขอพูดถึงเรื่องแบบนี้อีก ขออนุญาตตั้งใจตั้งหน้าทำงานหายอดให้ลูกค้า สร้าง engagement ให้ลูกค้าเยอะๆ

...

ล่าสุดมีแบรนด์นึงเขาไปทำคอนเทนต์ว่าเขาขายขาดทุน เขาไม่ได้ซีเรียสหรอก สิ่งที่ทำก็คือแคปหน้าจอไปโพสต์ และอีกอันคือรีโพสต์เพื่อสร้างการมองเห็น จริงๆ มันเป็นภาพลักษณ์ที่ลบกับเจนนี่ คือการจ้างเจนนี่มันขาดทุน แต่ฉันยังไปรีโพสต์ให้เพื่อให้เกิดการมองเห็น

จริงๆ ฉันไม่อยากให้คนรู้หรอกว่าใครขาดทุนหรือไม่ขาดทุน แต่ทำไมเรายังไปรีโพสต์ให้ เพราะเราอยากให้ทางแบรนด์ได้ผลประโยชน์จากเรามากที่สุด เพราะฉะนั้นให้เห็นความตั้งใจกับเป้าหมายที่จะทำ ไม่ได้จะทำตรงนี้มาเพื่อเป็นศัตรูกับใคร ทำให้เกิดความสุขและเกิดรายได้ทุกภาคทุกฝ่าย และทำให้ตัวเองมีรายได้ด้วยแค่นั้นเลย"

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม