หลังจากผ่านดราม่าร้อนเรื่องหุ้นส่วนธุรกิจ Fleen Beauty ซึ่งทุกอย่างจบด้วยดี และแยกย้ายกันไปเติบโต ล่าสุดนางเอกสาว ออม สุชาร์ มานะยิ่ง มาร่วมงานฉลองครบรอบ 11 ปี THE FACE SHOP และเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คู่จิ้นสุดฮอต เก่ง-น้ำปิง ณ ลาน Eden ศูนย์การค้า Centralworld เพื่อมาให้กำลังใจหวานใจอย่างนักธุรกิจหนุ่ม แอมป์ พิธาน องค์โฆสิต นักข่าวเลยสอบถามความรู้สึกหลังผ่านพ้นดราม่าร้อนดังกล่าว

วันนี้มาดูงาน?

“มาดูว่าแบรนด์โกลบอล เขาจัดอีเวนต์แบบไหน แบรนด์ The Face Shop เขาเป็นแบรนด์โกลบอลมาจากเกาหลี เราก็มาศึกษาดูงานว่าเขาจัดอีเวนต์กันยังไง อนาคตอาจจะได้ทำหรือเปล่า ซึ่งก็ได้ไอเดียเยอะค่ะ เพราะว่าผู้บริหารเขาเก่ง เขาตั้งใจทำงาน (ยิ้ม)”

เรามีการไปปรึกษาไหม?

“ก็ถามนะคะว่าใช้เงินเท่าไหร่ ค่าจัดงานเท่าไหร่นะ ค่าพรีเซ็นเตอร์เท่าไหร่ ก็จะถามในแง่ของหลังบ้าน เขาก็บอกว่าราคาดี”

พอเราคุยกับพี่เขารู้สึกไหมว่ามันจะยากไหมในการที่จะจัดงานอีเวนต์?

...

“โห สำหรับออม จริงๆ ยากหลายอย่าง เพราะว่าเราเป็นออนไลน์มาก่อน แล้วถ้าเราจะเป็นออฟไลน์มันก็จะต้องมีสเกลอีกแบบนึง ซึ่งจะต้องปรับตัวกันหลายอย่างเลย”

แต่นี่คือหนึ่งสิ่งที่แบรนด์เราก็จะต้องเดินหน้าไป?

“ก็หวังว่าจะมีการเติบโตไปในทางที่ดี แบรนด์เขาใหญ่มาก แล้วเขาก็มีลองสตอรี่มาเยอะมากตั้งแต่เกาหลี ของเรา 2 ปียังไม่ถึงเลย แต่เราก็ลองสตอรี่เหมือนกัน (ยิ้ม)”

วันนี้มาให้กำลังใจ?

“ใช่ค่ะ ก็มาให้กำลังใจทั้งพี่แอมป์ แล้วก็ทีมงานทุกคนของ The Face Shop รวมถึงน้องเก่ง น้องน้ำปิงด้วย เพราะว่าก็เห็นน้องร่วมงานกับพี่แอมป์ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว พอเห็นวันนี้ก็คือดีใจกับน้องมากๆ ที่น้องเติบโตมาถึงตรงนี้ เรารู้สึกว่าน้องทั้งสองคนเป็นเด็กที่ตั้งใจแล้วก็ขยันมากๆ”

หลังจากนี้เรามีวางแผนธุรกิจเรายังไงบ้าง เพราะ ณ ตอนนี้เราต้องขึ้นมาสู้คนเดียวแล้ว?

“คือทุกอย่างก็จะมีสเตป อย่างที่ผ่านมาเป็นช่วงวิกฤติ แล้วก็แก้วิกฤติไปแล้ว ต่อไปก็เป็นช่วงของการฟื้นฟูแบรนด์รวมถึงหาของมาขายตามความต้องการของลูกค้า แล้วก็รวมถึงแพลนของปีหน้า ก็มีการวางไลน์ โปรดักต์ แล้วก็รวมถึงสเกลแบรนด์อะไรต่างๆ ก็ได้ทำเต็มที่ละ”

มีความกังวลอะไรไหม พอวันนึงเราต้องคิดเองอะไรเองแล้ว?

“คือออมเป็นคนขี้กังวลอยู่แล้ว ถ้าถามเรื่องกังวลจะทำคนเดียวหรือทำด้วยกันคือออมก็กังวลอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้เราก็แค่พยายามตั้งใจทำของออกมาให้ได้ดีที่สุดมากกว่า เพราะเราเชื่อว่าตอนนี้มีหลายๆ คนเปิดใจยอมรับ Fleen Beauty แล้ว มิชชั่นต่อไปก็คือทำของที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมให้กับลูกค้าที่เปิดใจซัพพอร์ตเรามากกว่า อันนี้คือมิชชั่นเราเลย คือทำของให้ดีที่สุด”

แสดงว่าปีหน้าตัวใหม่ๆ ก็คือเตรียมพร้อม?

“เตรียมพร้อมค่ะ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เร็วขนาดนั้น เพราะว่าออมออกของช้า อย่างปีนี้ยังออกได้แค่ลิป 2 รุ่นเอง ปีหน้าจริงๆ ก็วางแพลนไว้หลายตัว แต่มันก็แล้วแต่ว่าตัวไหนจะพัฒนาในแบบที่เราคิดว่าพร้อมออกมาแล้วอะไรแบบนี้มากกว่า”

อย่างปีนี้ลิปมันขายดีมากๆ เตรียมรับมือยังไงบ้าง?

“เอาจริงๆ ออมไม่คิดว่าจะมีวันที่ออมไลฟ์ขายครั้งเดียวแล้วลิปหมดสต๊อก เราก็ไม่ได้เตรียมรับจุดนี้ เพราะว่าเวลาสั่งของมาเราก็เตรียมไว้ขาย 2-3 เดือนถูกไหม แล้วเวลา Replace Order มันไม่ได้เร็วมากขนาดนั้น แพ็กเกจจิ้งเอย คิวของการโปรดักชั่นเอย มันทำให้ตอนนี้มันไม่มีของขาย ก็เลยคิดว่าอาจจะมีพรีออเดอร์หรือเปล่า กำลังประชุมกันว่าในระบบมันสามารถทำได้ไหม เพราะว่าเราก็อยากให้ทุกคนได้ใช้ของเรา”

มันคือแรร์ไอเท็มไหม แบบล็อตนี้หมดไป เราเปิดล็อตใหม่?

“จริงๆ ก็มีการพัฒนาไว้แล้วอีก 2-3 สี เป็นสีใหม่ ยังไม่ได้ตั้งชื่อสีเลย แต่ว่ามันสนุกนะเวลาทำสิ่งนี้ พอเราชอบแล้วเราได้ทำแล้วเราได้ครีเอทีฟ เราได้มีอิสระในทางความคิดของเรา เราก็เต็มที่”

...

แสดงว่าหลังบ้านตอนนี้เราก็หนัก?

“ก็เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นพนักงานประจำค่ะ เข้าออฟฟิศ 10.00-19.00 น. แต่ว่าก็มีแอบแวบๆ บ้าง เพราะว่ามางานอะไรแบบนี้ แต่หลักๆ ตอนนี้ก็เข้าออฟฟิศเป็นรูทีนมากกว่า เพราะว่าเวลามีปัญหา เราแก้ไขได้ทันทีเวลาเราเข้าออฟฟิศ”

แสดงว่าจากเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นประสบการณ์ให้เรา?

“ใช่ ออมคิดว่าการทำธุรกิจทุกอย่างแหละ ไม่ว่าจะแขนงไหนก็มีปัญหากันทั้งนั้น เพียงแค่เรารู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง ออมอาจจะเป็นเรื่องอยู่ในที่แจ้ง ทุกคนก็เลยรับรู้อะไรอย่างนี้ ก็คิดว่าปัญหาอาจจะเป็นเรื่องปกติของคนทำธุรกิจ ทุกคนอาจจะได้พบเจอกัน”

แล้วพอเคลียร์ทุกอย่างมันโล่งยังไงบ้าง?

“มันก็โล่งที่ทุกคนเข้าใจเราละ ไม่มีคนเข้าใจเราผิดว่าเราเป็นคนเหลี่ยม หรือเป็นคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรมหรืออะไรอย่างนั้นนะ คือเราก็สบายใจตรงนี้มากๆ เพราะออมรู้สึกว่าเราเติบโตมาในวงการนี้ เราอยู่ได้เพราะมีคนรักเรา ประชาชนสนับสนุนเรา เราถึงมีวันนี้ แล้วพอประชาชนได้รู้เรื่องนี้ เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดหวังในตัวเรา อันนี้เป็นสิ่งที่ออมโล่งใจมากกว่า ส่วนเรื่องของการทำงานมันก็มีเรื่องที่เราก็ได้มีอิสระทางความคิดมากขึ้น ทุกอย่างมันก็ดำเนินต่อไปได้”

...

หลังจากนี้แสดงว่าจะชวนใครเข้ามาทำงานก็กลัวละ?

“(ยิ้ม) อาจจะต้องถามน้องสาว จริงๆ ทุกเรื่องเขาก็น่ารัก คือออมกับน้องสาวคนละสายกันเลย ออมจะเป็นแบบศิลป์ๆ ติสต์ๆ นิดนึง แต่น้องเขาจะเป็นวิชาการมาก เป็น business management เป็นนิติศาสตร์ เราก็จะเป็นละครเวที มันเหมือนคนละด้านกันเลย ก็เป็นการผสมผสานที่ออมก็คิดว่าก็ดูลงตัวนะ แล้วก็ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน”

น้องก็คือเป็นพนักงานประจำแล้วใช่ไหม?

“ใช่ น้องสาวก็คือต้องเป็นพนักงานประจำ เดี๋ยวให้สิทธิลาคลอดเฉยๆ 3 เดือนแล้วเดี๋ยวกลับมาใหม่นะ”

แล้วหลังจากนี้คือโฟกัสงานเต็มที่แล้วนะ?

“ใช่ โฟกัสงาน ออมสนุกที่ได้ทำงาน มันรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราชอบด้วยแหละ มันเหมือนได้เจอแพชชันอีกอย่างหนึ่งของเรานอกจากเรื่องของการเล่นละคร”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม