โดนทัวร์ลงเป็นงานประจำ สำหรับพิธีกรฝีปากกล้า น็อต วรฤทธิ์ ที่มักถูกโยงเป็นดราม่าร้อนๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง อย่างล่าสุดเกิดเป็นวาทะร้อนหลังสัมภาษณ์ จักรภพ เพ็ญแข จนโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์แรง บานปลายไปถึงข่าวลือถูกสั่งปลดจากรายการดังที่เจ้าตัวเป็นพิธีกร งานนี้ลัดคิวมาเปิดใจผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องเวิร์คพอยท์ กับพิธีกรตัวแม่ พี่หนูแหม่ม สุริวิภา ตอบทุกเรื่องร้อน และเหตุใดถึงมีอุดมการณ์และจุดยืนที่ชัดเจนขนาดนี้
ย้อนถามถึงประเด็นดัง สัมภาษณ์ "จักรภพ เพ็ญแข" เป็นเรื่องดราม่าใหญ่โต?
"เหตุเกิดจากเราขึ้น เราซีเรียส มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาแก้ตัว มันต้องพูดกันตรงๆ ต้องสื่อสารกันตรงๆ เพราะทุกคนอยากรู้ว่าแล้วจะต้องทำยังไง เหตุการณ์มันจะบานปลายไปขนาดไหน และจะจัดการยังไงให้จบได้เร็วที่สุด มันคือหน้าที่ของเค้าที่เราอยากรู้คำตอบ"
ได้มีพูดคุยกันในช่วงพักเบรกมั้ย เพราะเป็นรายการสด?
...
"ไม่มีครับ จริงๆ ต้องมีถ่ายรูปรวมกัน แต่พี่เค้ารีบ เค้ามีธุระ (หัวเราะ)"
หลังรายการจบลง มีคอมเมนต์ทัวร์ลงเยอะ เรื่องการทำงานพิธีกรที่ใช้อารมณ์มากเกินไป?
"จริงๆ มันมีคนว่าเยอะ ตัวเราเองก็รู้สึกว่าเราใช้ความเป็นตัวเองมากเกินไป คือหลายคนคอมเมนต์บอกว่าทำไมไม่เป็นมืออาชีพเลย ทำไมไม่ควบคุมรายการ ทำไมถึงใส่อารมณ์ ผมก็ยอมรับว่า ณ เวลานั้นผมไม่ได้ใช้ความมืออาชีพในการเป็นพิธีกร ผมใช้หัวใจในการทำงาน ผมอยากรู้ เวลาเราเป็นพิธีกร เราอยากรู้อะไรเราก็ถาม ไม่ได้ตามสคริปต์ เพื่อให้ได้คำตอบตามที่เราต้องการ นั่นคือวิธีการทำงานของผม ผมรู้สึกว่าผมใช้หัวใจทำงาน ผมใช้เลือดเนื้อในการทำงานมากเกินไป"
หลังจากทัวร์ลงไปไหนมาไหนคนมองยังไงบ้าง?
"ทุกคนก็บอกว่าให้กำลังใจนะ เค้าก็ให้กำลังใจ อยากจะบอกว่าขอบคุณทุกคนมากครับ"
ประเด็นแรงถึงขั้นเมาท์กันว่าจะถูกปลดจากพิธีกร?
"มดดำก็ส่งข่าวมาให้อ่าน จะปลดได้ไง ฉันจะปลดแกได้ยังไง อย่างที่หลายคนรู้มดดำก็เป็นเพื่อนที่น่ารักคนนึง คนที่รักคนรอบตัว รักคนรอบๆ ตัวทุกคนจริงๆ แล้วก็หวังดีกับทุกคนจริงๆ เรื่องการปลดผมว่าคงไม่ได้โดนปลดเพราะว่ามดดำ คงไม่ไปบอกว่าให้เลิกจ้างผู้ชายคนนี้ซะ ไม่น่าจะเกิดจากมดดำ ถ้าจะโดนปลดก็น่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น แต่ ณ วันนี้ไม่ได้มีการปลดอะไร ก็ยังอยู่ด้วยกันไป"
รู้สึกยังไงบ้างที่โดนวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวข้องกับการเมืองมาตลอด?
"ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดน ผมโดนเยอะ ผมโดนทัวร์ลงมาเยอะมาก ถ้ามีแขกรับเชิญที่เป็นเรื่องของการเมืองเมื่อไรผมโดนตลอด เพราะคนจะมองว่าตามที่เค้าเรียกผมว่าไอ้สลิ่ม ก็ว่ากันไป ผมก็รู้สึกว่าผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง จะเป็นอะไรก็เป็นคนไทยเนอะ"
กลัวมั้ยกับการที่มีจุดยืนที่จะทำ?
"ถ้ากลัวผมคงไม่ทำ ก็ไม่รู้จะกลัวทำไม (อ่านทุกคอมเมนต์มั้ย?) อ่านไม่ไหวครับ เพราะมันเยอะ มันเป็นหมื่นๆ คอมเมนต์ มันเยอะมากเป็นหมื่นๆ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนด่า คนอัดคลิปด่า ผมก็ดูมีคนส่งมาให้ ก็แล้วแต่ ต่างคนต่างมีความคิดเห็น ผมรู้สึกไม่สนใจ ไม่รู้ว่าจะต้องไปเถียงทำไม เถียงไปก็เท่านั้นไม่มีประโยชน์ ถ้าคนมันโดนปิดหูปิดตาแล้ว"
เราโดนปลูกฝังยังไงถึงข้ามเรื่องราวแบบนี้ได้?
"บ้านผมไม่ดราม่ากัน คือคุณพ่อคุณแม่ไม่ดราม่า เขาสอนให้เราเข้าใจโลก อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เราถูกปล่อยให้ดูแลตัวเอง ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กๆโดยการที่ส่งไปเรียนต่างประเทศ ทำให้เราสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง
...
ถามว่ารู้สึกว่าโกรธมั้ย เจ็บใจมั้ย มันมีความรู้สึก แต่แค่รู้สึกว่าถ้าเราโกรธไป ความโมโหนั้นมันอยู่กับตัวเอง มันไม่มีใครไปรับความรู้สึกตรงนั้น เพราะเราไปทะเลาะกับใครก็ไม่รู้ แต่เราก็จะทุกข์อยู่คนเดียว แล้วเราจะทำไปทำไม แรกๆ ผมเป็นรู้สึกว่าเราทุกข์อยู่คนเดียว เราเจ็บอยู่คนเดียว แล้วใครรับรู้ตรงนี้ รู้สึกว่ามันไม่มีอะไร ก็ไม่โกรธดีกว่า"
เป็นคนที่ชัดมาตลอดกับภาพรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์?
"เราครอบครัวคนไทยเนอะ พ่อกับแม่ไม่ได้สอน เค้าทำให้เราเห็นมากกว่า แล้วผมก็ยึดมั่นในสามสิ่งนี้ คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอแค่สามอย่างนี้ อย่างอื่นคุณจะว่าอะไรว่าไป สามอย่างนี้คืออย่าแตะต้อง ผมขอแค่นี้เลย มันอยู่ในดีเอ็นเอของเรา มันอยู่ในเลือดเรา เพราะเราคือคนไทย"
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม