จากกรณีอดีตพระเอกดัง ทูน หิรัญทรัพย์ ทะเลาะวิวาทกับเด็กวัยรุ่นจนถูกทำร้ายร่างกายกลางตลาดคลองถม จนนำไปสู่การแจ้งความ และขึ้นโรงพักเพื่อไกล่เกลี่ยกับ 2 วัยรุ่นกรณีที่เข้าใจผิดกัน ซึ่งล่าสุดเหตุการณ์ทั้งหมดได้จบลงด้วยดี ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิด และขอโทษกัน โดย ทูน ได้ให้สัมภาษณ์กับ บันเทิงไทยรัฐ ทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เผยถึงเรื่องนี้ บอกว่า
- ตอนนี้ดีขึ้นกว่าตอนเกิดเหตุ เรื่องทุกอย่างมันจบแล้ว และเราก็คิดว่าต่างคนต่างไปดำเนินชีวิตต่อได้
- ทูน ย้อนเล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นคือไปเดินซื้อของตามปกติ และเรามีเจตนารมณ์ที่ดี ไปบอกเขาว่า ถ้าคุณจะค้าขาย ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อเราก็ต้องพูดดีๆ ก็เป็นเจตนาของผู้ใหญ่ที่แนะนำเด็ก ซึ่งน้องเขาอาจจะตีความไปแบบหนึ่ง และอาจจะด้วยอารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายด้วย
- อีกฝ่ายอาจจะเข้าใจผิด ตีความว่าเราจะไปด่า ไปขู่ ไปทำร้าย หรือพูดไม่ดีกับเขา ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น
- แต่ตอนนี้จบกันด้วยดี เราก็ดีใจที่น้องเขาเป็นผู้ติดต่อสถานีตำรวจ แล้วก็อยากมาเจรจาว่า อายุเขาน้อยและเป็นเยาวชน และเขาไม่อยากมีประวัติเสีย ซึ่งเขาคำนึงถึงการทำงานในอนาคตของเขา เรามองว่าเป็นจุดที่ดีที่เขาคิดได้แบบนี้ เลยได้มานั่งพูดคุยกัน
...
- ทูนยอมรับว่า ตัวเองก็ลืมคิดไปว่า การไปอบรมหรือพูดบอกคนอื่นที่เขาไม่ได้สมัครใจ มันก็ไม่ใช่
- พอได้มาคุยกันดีๆ อีกฝ่ายก็ขอโทษที่ใช้คำแรงๆ และเราก็ขอโทษที่น้ำเสียงหรือกิริยาของเราที่ทำให้เขาไม่สบายใจ เราก็ขอโทษในจุดนั้น และที่คนบอกว่าเขาทำร้ายร่างกายเรา คือเราก็จบแล้ว และไม่ได้เอาเรื่อง อย่าไปคิดเลย คิดแค่ว่าอนาคตของเรากับอนาคตของน้องดีกว่า ว่าจะไปลงเอยตรงไหน ต่อยอดยังไง และอยากจะบอกสังคมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครผิดใครถูก
- ข่าวที่ออกมามีทั้งบวกและลบเราห้ามไม่ได้ ที่คนมองว่าเราเป็นผู้ใหญ่ไปรังแกเด็ก เขาก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์เราได้ แต่ก็ยอมรับเสียใจนิดหน่อยที่ถูกคอมเมนต์ด้านลบ แต่เข้าใจความเป็นมนุษย์ ที่ไม่มองให้ลึกกว่านี้ ถูกมองเจตนาของเราไปอีกแบบ
- ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล เหตุการณ์นี้ไม่มีใครผิดใครถูก แต่อาจมาในช่วงจังหวะเวลาไม่เหมาะสม อีกคนอาจจะเครียดจากการทำงาน ส่วนอีกคนก็เหมือนเข้าไปสอนว่าทำไมน้องทำอย่างนี้
ส่วนเรื่องดวงตา ที่เคยเสี่ยงสูญเสียการมองเห็น เพราะเคยบาดเจ็บที่ดวงตา จากการใส่แว่นแล้วแว่นแตกจนมีแผลภายนอก ทูน บอกว่า
- ข้างนอกไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเรื่องของสายตา เรามีปัญหาอยู่แล้ว เรามองไม่เห็นอยู่แล้ว ก็ตกใจที่หมอบอกว่าถ้ามันอักเสบ เป็นแผลเรื้อรัง ก็ต้องควักเอาออกและใส่ลูกตาเทียมคือลูกแก้วแทน ซึ่งเราก็ตกใจ ถ้าข้างขวาเป็น ก็ส่งผลไปที่ตาข้างซ้ายเหมือนกัน เพราะมันทำงานพร้อมกัน
- โดยตาข้างขวาที่มองไม่เห็นอยู่แล้วคือ เส้นประสาทตาไม่สามารถทำงานได้แต่ยังมีลูกตาที่มีชีวิตอยู่ แต่มันไม่ทำงาน ไม่มีการส่งภาพมาแล้ว ก็เลยต้องเปลี่ยนถ้ามันเลวร้ายเกิดขึ้น
- เผยทุกวันนี้เวลาเดินไปไหน ก็ต้องใช้ไฟฉาย หรือเกาะแขนคนอื่นเดิน แต่ไม่ได้เหมือนคนพิการตาบอด แค่มันทำให้เราไม่มั่นใจ เพราะเวลาเดินจะไปชนโน่นนี่ ทำให้ชีวิตไม่ง่ายเลย
- ตอนนี้คุณหมอให้หยอดตาฆ่าเชื้อวันละ 4 เวลา เพื่อรักษาเยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งคุณหมอบอกว่าให้หมั่นเข้ามาหา แล้วเดี๋ยวจะค่อยๆ ปรับยาให้ แต่โดยรวมแล้วไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกังวล ส่วนลูกตาอีกข้างเราต้องดูแลรักษาเขาไปตลอด ต้องหยอดตาตามเวลาที่คุณหมอบอก
คลิกเพื่ออ่าน "ข่าวบันเทิง" เพิ่มเติม