เปิดคำอาลัยของลูกๆ ทั้ง 3 คน อย่าง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา และ ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ ที่พูดถึงคุณแม่งามทิพย์ทั้งน้ำตา ถึงเรื่องราวความรักของแม่ที่มีต่อลูก และลูกที่มีต่อแม่ ว่า

หน่อง : ต้องขอบคุณทุกๆ คนนะครับ ขอบคุณแทนคุณแม่ที่มาร่วมส่งแม่เยอะมากๆ เลย (ร้องไห้) ชีวิตของผม ผมมีความสำเร็จอยู่หนึ่งเรื่องโดยที่ผมทำมัน ลงมือทำ แต่ว่ามีเรื่องที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิตโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลยคือการได้เกิดมาเป็นลูกของแม่

และผมก็คิดว่าแม่คงภูมิใจที่ได้เห็นลูกๆ ทั้ง 4 คนเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี ส่วนลูกสาวของคุณแม่คนนี้ น้องวันใหม่ คนที่แม่รัก และเป็นห่วงมากที่สุด พวกเรา 3 คนอยากบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องห่วงเลยนะ พี่ชายทั้ง 3 คนของเขาดูแลอย่างดีแน่นอน ขอให้มองจากข้างบนนะแม่ รักแม่นะ (ร้องไห้) รักมากๆ ขอบคุณครับ

ภัทร์ : นอกจากจะขอบคุณแขกทุกคนแล้ว ก็อยากจะขอบคุณคุณหมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ดูแลคุณแม่มาอย่างดีตลอด 6 ปี ตั้งแต่เด็กผมเคยได้ยินคนพูดมาตลอดว่าคนเราอยู่ให้คนรัก จากไปให้คนคิดถึง ซึ่งแม่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของประโยคนี้จริงๆ แม่เป็นคนที่ใจดีมากๆ แม่ชอบช่วยทุกคน ไม่ว่าใครเดือดร้อนมาหาแม่

...

แม่ยินดีช่วยเสมอ แม่ยอมเสียสละ และยอมลำบากแทนได้เลย ตอนเด็กๆ ผมเคยสงสัยและคุยกับแม่ว่า ทำไมแม่ชอบช่วยเหลือคนอื่นและให้โอกาสคนอื่นมากมายขนาดนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีคำตอบอะไร จนวันนี้ผมได้คำตอบแล้ว ว่าโอกาสและความช่วยเหลือพวกนั้นกลับกลายมาเป็นความรักที่ทุกคนมีให้กับแม่ในวันนี้ แม่ที่ผมเห็นว่าเป็นคุณแม่ธรรมดาๆ มีคนรักมากมาย รวมถึงทั้งในโซเชียลที่มีคนกล่าวถึงคุณแม่และส่งกำลังใจให้ พวกผมรู้สึกขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจเหล่านั้น

แต่หลายคนเป็นห่วงคุณแม่เรื่องอาการป่วย ซึ่งคุณแม่เป็นคนที่ขี้เกรงใจคนมากๆ เขาไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง และต้องลำบากไปเยี่ยมเขา แม้กระทั่งพวกผมเองแม่ก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เห็นเลย เพราะว่าแม่จะสอนตลอด ให้เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเจอกับอะไร เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป (ร้องไห้) ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

ผมกับแม่เคยคุยกันเมื่อนานมาแล้วช่วงที่คนเริ่มรู้จักแม่ใหม่ๆ ก็จะมีคำถามว่าแม่เลี้ยงลูกยังไงให้ลูกเติบโตมาอย่างดี ซึ่งเราคุยกันว่าจริงๆ มันไม่ได้มีความพิเศษอะไร บ้านผมก็เป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง เติบโตมาแบบครอบครัวธรรมดาทั่วไป

แต่ถ้ากลับมาถามคำถามนั้นในวันนี้ ผมจะตอบเลยว่าเพราะผมมีแม่เป็นตัวอย่างที่ดีในทุกๆ แนวทาง เวลามีคนมาชื่นชมว่าแม่เก่งนะ เลี้ยงลูก 3 คน แม่เลี้ยงลูกยังไง เดินเข้ามาบอกผมว่ามีแม่เป็นต้นแบบในการเลี้ยงลูก ผมภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นลูกแม่และดีใจมากๆ ที่ครอบครัวเราได้เป็นตัวอย่างให้กับครอบครัวอื่นๆ

สำหรับพวกผม แม่ห่วงมากๆ แม้กระทั่งในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขา เขาก็ยังทำงานหนัก ซึ่งผมจะบอกแม่ว่าไม่ต้องทำแล้ว พวกผมดูแลตัวเองได้ เขากลัวว่าวันที่เขาจากไปพวกผมจะลำบาก เขาก็เลยพยายามจะสร้างทุกอย่างไว้ให้ แต่สิ่งหนึ่งที่แม่สร้างไว้ให้แล้วก็ดีที่สุด ก็คือการที่ผมได้มีพี่น้องที่ดี แม่สอนให้เรารักกันตลอด แม่ไม่ต้องห่วงเลยพวกผมจะไม่มีวันทิ้งกันแน่นอนนะครับ

สุดท้ายนี้ผมก็คงจะคิดถึงแม่มากๆ เพราะว่าหลายๆ เรื่องราวก็คงไม่มีใครมาคอยรับฟังผมแล้ว ไม่มีใครที่จะเข้าใจผมได้เท่ากับคุณแม่ และการเดินทางของคุณแม่ในโลกนี้มันสิ้นสุดลง ผมก็ขอให้การเดินทางครั้งใหม่ของแม่มีแต่ความสุข พบเจอแต่แสงสว่างและขอให้แม่ได้ไปเจอกับป๊าตามที่แม่ได้บอกไว้ และเชื่อมากๆ เลยว่า ไม่ว่าแม่จะมองพวกผมทั้ง 4 คนจากตรงไหนก็ตาม แม่จะต้องภูมิใจ แม่จะอยู่ในใจภัทร์ตลอดไป กลับบ้านเรานะแม่

บอย : สำหรับผมนะครับ ขอโทษครับ (พยายามกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้) ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่คือทุกอย่างในชีวิตของบอย (ร้องไห้) แม่คือนักสู้ ตั้งแต่ที่ผมโตมาแม่สู้ให้ผมเห็นมาโดยตลอด ภาพจำที่ผมเห็นก็คือ แม่ออกจากบ้านไปตอนเช้า กลับมาตอนดึกๆ และทุกครั้งที่กลับมาแม่ไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยให้ผมเห็นเลย และผมไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าแม่ออกไปทำอะไร แม่เหนื่อยแค่ไหน

จนวันหนึ่งผมได้มาช่วยงานแม่ ผมถึงได้รู้ว่าสิ่งที่แม่ทำทุกๆ วัน มันโคตรเหนื่อยเลย (ร้องไห้) แต่แม่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว แม่ทำได้ไง ผมก็เคยถามแม่เหมือนกันว่าแม่ทำไหวได้ไง ตอนนั้นยังไม่มีวันใหม่ แม่บอกว่า ก็แม่ต้องเลี้ยงดูพวกแก 3 คนไง แม่กลัว สิ่งที่แม่กลัวที่สุดคือแม่กลัวตาย กลัวว่าลูก 3 คนจะอยู่อย่างไร (ร้องไห้)

...

แต่ว่าต่อให้แม่ต้องเหนื่อยแค่ไหน พอผมโตขึ้นมา พวกผม 3 คนต่างมีชีวิต ออกไปทำงานข้างนอก แม่ก็ยังเป็นแม่ที่ทำงานหนักเหมือนเดิม ไม่ว่าพวกผมจะดูแลตัวเองได้มากแค่ไหน แม่ก็ยังไม่เคยที่จะเพลาการทำงานของตัวเองลงเลย

แต่ต่อให้แม่จะทำงานแค่ไหน แม่ไม่เคยลืมที่จะดูแลความรู้สึกของพวกผม 3 คน รวมถึงวันใหม่ด้วย ในวันที่มีวันใหม่เข้ามาอยู่กับพวกเรา ทุกครั้งที่ผมกลับมาจากถ่ายละครดึกๆ แม่จะรอ ถามว่า เหนื่อยมั้ย กินอะไรมารึยัง กินสาลี่มั้ย เดี๋ยวแม่ปอกให้ ไม่เคยมีสาลี่ที่ไหนอร่อยเท่ากับที่แม่ปอกให้กินเลย (ร้องไห้)

สำหรับผมแล้ว แม่เป็นเหมือนเข็มทิศนำทางในชีวิตผมมาตลอด ไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมจะเจออุปสรรค ผมต้องการคำปรึกษา ผมหันมาผมจะเห็นแม่อยู่เคียงข้างตลอด ผมไม่เคยอายใครที่ผมจะต้องบอกเขาว่า ผมต้องถามแม่ก่อน ผมต้องปรึกษาแม่ก่อน เพราะผมมั่นใจตลอดว่าสิ่งที่แม่แนะนำมา นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด

ถึงแม้วันนี้ แม่จะไม่ได้อยู่เป็นเข็มทิศให้บอยแล้ว บอยก็อยากบอกแม่นะ ว่าไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงอะไรบอยอีก เพราะอะไรรู้มั้ยแม่ เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่บอยเดินตามแม่มาตลอด บอยจดจำเส้นทางที่แม่บอกไว้ให้หมดแล้ว ทุกสิ่งที่แม่สอนที่เคยให้บอยจำ บอยจำได้หมดแล้ว ถึงบอยจะไม่ได้เดินเก่งเท่าแม่ แต่บอยมั่นใจว่าสิ่งที่แม่สอนบอยไว้ บอยจะไม่หลงทางแน่นอน

...

และสุดท้าย ถ้าแม่ได้ยิน บอยอยากให้คำมั่นสัญญากับแม่ไว้ตรงนี้ ว่าบอยจะดูแลหน่อง ภัทร์ วันใหม่ ต่อให้พวกมันจะออกไปมีครอบครัวของตัวเอง บอยก็จะไม่ทิ้งพวกมันนะ เพราะว่าความรักที่แม่ทิ้งไว้ให้กับพวกบอย และคอยสอนให้พวกบอยรักกันนั่นแหละ คือสิ่งมีค่าที่สุดที่แม่ทิ้งเอาไว้

กลับมาหาบ้าง ไป 7 วันแล้วยังไม่มาเข้าฝันเลยแม่ มันมีความสุขอยู่อย่างหนึ่งของแม่ เรียกว่าเป็นความสุขที่สุดของแม่อย่างหนึ่งเลย โดยเฉพาะตั้งแต่ที่บ้านเรามีวันใหม่ ก็คือการที่แม่ได้นั่งถ่ายคลิปลูกสาวตัวเองร้องเพลง พอแม่ได้คลิปมาก็จะเอามานอนเปิดดูวนไปอยู่คนเดียว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ วันนี้ลูกสาวแม่จะร้องเพลงส่งแม่ขึ้นสวรรค์นะ แม่เปิดกล้องแล้วแม่เอาไปดูข้างบนนั้นนะ

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”

...