หลังจากที่นักร้อง-นักแสดง ตั้ม วราวุธ ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนขณะกำลังขับกลับบ้าน ส่งผลให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ปากฉีกถึงจมูก จมูกหัก และต้องนอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู

ล่าสุดตั้มได้ออกงานเป็นครั้งแรกหลังประสบอุบัติเหตุ ในงานแถลงข่าวโครงการ BUFF TO BUILD NUMBER ONE หน้า MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์บางกะปิ เล่าถึงอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่า

- แผลข้างในตอนนี้ยังละลายไม่หมด แผลข้างนอกโอเคมากๆ ประโคมทุกอย่างเพื่อที่จะให้ทำงานได้เร็วขึ้น มีการฉีดสเต็มเซลล์ ไปหาหมอฟัน เพราะว่าฟันหน้าหายไปเลย 3 ซี่ ตอนนี้ใส่วีเนียร์ชั่วคราว เพราะยังอ้าปากทำแบบนั้นไม่ได้ กลืนลงท้องไปหลายอันแล้ว เพราะว่ามันหลุดง่าย

- ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ แผลข้างในจมูกยังเจ็บอยู่ เพราะว่าดั้งหัก แล้วแผลที่ฉีกคือฉีกแบบเห็นฟันแยกถึงจมูก ณ ตอนนี้ เวลาที่ยิ้มมันยังตึงอยู่ มันเหมือนตรงกลางไม่สมานกัน ยังแข็งเป็นไตๆ เวลาที่โดนอะไรแรงๆ ยังรู้สึกเจ็บ เวลาพูดจะมีความตึงๆ อยู่

- ไม่ได้ศัลยกรรมอะไรเพิ่ม จมูกแค่ดัดกลับ ส่วนปากโชคดีที่ได้หมอศัลยกรรมเย็บให้ ทุกคนชมว่าแผลสวย ขอบคุณคุณหมอมากๆ

...

- ร่างกายส่วนอื่นๆ แขนฝั่งซ้ายไม่สามารถยืดได้เลย เหมือนว่ามันช้ำที่เอ็น ไปกายภาพและฉีดสเต็มเซลล์ตรงข้อศอกมาแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมาก เกือบ 100%

- ตั้มยอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต มันเป็นเหตุการณ์ที่อุบัติเหตุจริงๆ ตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีตอนที่มีคนมาพยุง ตอนนั้นชาไปหมดเลย

- ตั้มถามแฟนว่าหน้าเป็นอย่างไรบ้าง แฟนก็ปลอบใจ

- ยอมรับว่าตอนนั้นกลัวจะเสียความทรงจำ เลยเรียงชื่อพ่อ ชื่อแม่ บ้านเลขที่ เกิดวันไหน อะไร ไล่ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าสมองมันจะไม่เหมือนเดิม

- เรื่องการออกเสียง การร้อง การพูด ที่อาจจะไม่ชัด ซึ่งคุณหมอบอกว่าประมาณสัก 3 เดือน แต่นี่ 3 อาทิตย์ ตนทำงานแล้ว

- ตั้มขับรถตามรถกระบะ แล้วรถกระบะเลี้ยวเข้าซอย แต่ตนต้องขับตรงต่อไป ซึ่งขับไปด้วยความเร็วคงที่ไม่ได้แซง แต่คู่กรณีออกจากซอยที่รถกระบะเลี้ยวเข้าไป ตัดกันพอดี ตรงนั้นไม่มีไฟแดง เป็นซอย กล้องวงจรปิดจับภาพได้แบบนี้เลย

- ส่วนหลักฐานมีครบหมดแล้ว เรื่องคดีมอบให้พ่อเป็นคนจัดการแทน เพราะพ่อเป็นทนายความก็จะเร็วหน่อย

- กับคู่กรณียังไม่ได้เจอกัน ญาติจะนัดเจอวันที่ 11 มิ.ย.นี้ เพราะว่าจะไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่สถานีตำรวจ ซึ่งพ่อยื่นโนติสไปเพราะคู่กรณีไม่ได้ติดต่อมา ถ้าติดต่อมา ฝั่งตนยังรู้สึกว่าโอเค หลังยื่นโนติ ญาติคู่กรณีก็ติดต่อมา บอกว่าทางนั้นยังไม่พร้อมคุย เลยส่งญาติมาก่อน

- คู่กรณีบาดเจ็บหนักเช่นกัน สะโพกหัก กระดูกซี่โครงร้าว ซึ่งตนไม่รู้ มารู้ทีหลังตอนที่ทางเราพยายามติดต่อไป ทางฝั่งของเขาสะโพกหัก เพราะว่ารถของตนชนเข้าตัวคู่กรณี สะโพกหัก กระดูกซี่โครงร้าว ซึ่งตนไม่รู้เลยว่าตรงนี้มันโดนอะไร เพราะว่าความจำมันหายไปเลย

- เรื่องคดีจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังไม่ได้รับการติดต่อเลยตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ ติดใจแค่เรื่องเดียวที่ว่าคู่กรณีไม่ได้ติดต่อกลับมาหรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกัน การแสดงความมีน้ำใจแค่หลักเริ่มต้นของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแสดงความเป็นห่วงกันก็ยังดี แค่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมกันเขายังไม่มีให้กับเราเลย ดังนั้นเราก็รู้สึกว่าอะไรที่เราจะเรียกร้องได้เราก็เต็มที่

- ยกเลิกงานมูลค่าความเสียหายกว่า 6 หลัก

- อุบัติเหตุทำกระทบงาน จำใจคืนเงินลูกค้า เพราะตนมีถ่ายผลิตภัณฑ์ที่ร่วมทำอยู่ตัวหนึ่ง แล้วก็มี 2 อีเวนต์ แต่อีเวนต์ไม่ได้เลื่อน เขาต้องจัดต่อ เลยต้องคืนเงินทางลูกค้า 2 งาน

- ส่วนงานใหม่คืองานที่สำรองไว้ ลูกค้าไม่คอนเฟิร์มแล้วเพราะยังไม่มั่นใจว่าตนสามารถร้องเพลงได้เหมือนเดิมไหม อันนี้กระทบ ตนก็พยายามบอกว่า ร้องเพลงได้ พูดได้ แต่อาจจะมีคอรัส เพราะว่าในรูปปาก บางคำมันอาจจะยังไม่ค่อยชัด

- ตั้มไม่พักงาน เพราะยังผ่อนบ้านอยู่ พักไม่ได้ ฟื้นฟูได้แต่ภายนอก ภายในต้องปล่อยมันไป ภายนอกไปเข้าเครื่องไฮเปอร์แบริค (HBO) เพื่อให้มันลดบวม ไปฉีดสเต็มเซลล์ให้มันฟื้นฟูแผลได้ไวขึ้น ร่างกายก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอยู่แล้ว

- ตั้มฝากบอกลูกค้า ว่าตนเหมือนแค่คนที่ฉีดฟีลเลอร์เท่านั้น รับงานได้ทุกอย่างแล้วไม่ต้องกังวลอะไร ทำงานแบบเต็มร้อยแน่นอน ส่วนการเป็นเอนเตอร์เทนฯ ยังเหมือนเดิม แค่คนจ้องหน้าก็ตลกแล้ว

- รับเข็ดกับการขับมอเตอร์ไซค์ แต่ในยามวิกาลในยามจำเป็นอาจจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ขับเองแล้ว วันนั้นขนาดใส่หมวกกันน็อกปากยังเป็นแบบนี้

...

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”