ในวันนี้ทางครอบครัวของ นนกุล ชานน ได้จัดพิธีฌาปนกิจคุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล ที่วัดธาตุทอง ได้มีญาติ คนใกล้ชิด และเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง เดินทางมาร่วมอาลัยคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก

และก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจ ลูกๆ ได้ขึ้นพูดกล่าวคำอาลัยถึงคุณแม่เพ็กแฮ ซึ่ง นนกุล ได้ขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงคุณแม่เพ็กแฮ แม่ผู้เป็นที่รักของลูกๆ บอกว่า

"ฟังคำพูดของลูกๆ ที่น่ารักไปแล้ว ลองฟังจากมุมมองของลูกที่ไม่ได้เรื่องคนนี้สักรอบแล้วกันนะครับ ในมุมมองของผมแล้วเนี่ย จริงๆ เขาบอกว่าคุณแม่เป็นคนที่ขี้บ่นมากๆ แล้วก็จู้จี้จุกจิก แล้วบางทีเรื่องบางเรื่องที่มันดูเล็กๆ คุณแม่ก็ชอบทำให้เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่ แล้วตัวผมก็เป็นคนที่ขี้รำคาญ เราก็เลยทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะฉะนั้นเวลาที่ถามว่าใครที่ดื้อที่สุดในบ้าน ทุกคนก็จะกล้าตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นผมเอง และตัวผมก็จะไม่เถียงอะไร เพราะมันไม่มีข้อกังขาใดๆ

เพราะฉะนั้นเวลาที่ทุกคนในที่นี้หลายๆ ท่าน อาจจะเป็นลูกที่ดีของคุณแม่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นเวลาที่นึกถึงคุณแม่ของตัวเอง ก็อาจจะนึกถึงรอยยิ้ม แต่สำหรับผม ผมก็จะนึกถึงคำบ่นของคุณแม่ หลายๆ คนอาจจะนึกถึงคำสอนของท่าน แต่ผมอาจจะนึกถึงเวลาที่คุณแม่จู้จี้จุกจิก ว่าทำไมไม่เตรียมเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนกลางคืน ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องมาหา และหลายๆ คนอาจจะนึกถึงคุณแม่เวลาที่ท่านโอบกอด ผมก็คงจะคิดถึงท่านเวลาที่ท่านปลุกตอนเช้า แล้วบอกว่าสายแล้ว ทั้งๆ ที่ตั้งไว้ 6 โมง แต่เพิ่งตี 5 ผมจะคิดถึงสิ่งเหล่านี้มากๆ เพราะเสียงของคุณแม่ตอนนั้นที่ผมแสนจะรำคาญ วันนี้ผมกลับคิดถึงมากที่สุด

...

และจากที่ผมพูดไปทั้งหมด ทุกคนก็น่าจะเห็นแล้วว่า การบอกรักของครอบครัวสันตินธรกุล อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดีสักเท่าไหร่ การที่พวกเราลูกๆ ปากแข็งบอกรักคุณแม่แบบตรงๆ แค่ไหน มันก็เหมือนกับการที่คุณแม่ปากแข็งไม่กล้าชมพวกเราตรงๆ เหมือนกัน ผมก็เพิ่งได้ยินสิ่งเหล่านี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไปหลังจากที่คุณแม่เสียได้ไม่นาน จากคุณหมอที่ดูแลครอบครัวเรามา 30 กว่าปี เราเพิ่งรู้ว่า คุณแม่มาบอกคุณหมอว่า คุณแม่ดีใจมากๆ ที่คุณพ่อและเราพยายามอย่างสุดความสามารถ จะหาทางออกมาให้กับโรคร้ายมาตลอด 19 ปีที่ผ่านมา และจากเพื่อนๆ คุณแม่มากมายหลายคน ที่บอกกับพวกเราว่า คุณแม่มักจะบอกกับเพื่อนๆ ของตัวเองเสมอว่า ภูมิใจในตัวลูกสาวทั้งสองคนที่ดำเนินชีวิตได้ดี โดยที่ไม่ทำให้แม่บ่น

และจากพี่คนหนึ่งที่ผมเคยร่วมงานเมื่อไม่นานมาก แต่คุณแม่ยังติดต่อกับเขาอยู่ คุณแม่บอกกับพี่คนนั้นว่า ประทับใจที่ผมเคยบ้าๆ บอๆ สื่อนู่นนี่นั่นที่ผมอยากทำงานการแสดงให้ไปถึงระดับโลก แล้วคุณแม่อยากเห็นผมในผลงานให้ไปได้ไกลๆ จังเลย แต่น่าเสียดายที่เป็นข้อเดียวที่ผมทำให้แม่ไม่ได้ ถ้าในโลกของความเป็นจริง และคุณแม่ยังเฝ้ามองผมอยู่ในตอนนี้ ผมก็อยากบอกคุณแม่ของผมว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะวันหนึ่งนนจะทำให้ได้แน่นอน แต่อาจจะขอเวลาสักหน่อย เพราะคนเก่งกว่าผมเยอะมากจริงๆ

สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะบอกคุณแม่ว่า ผมไม่ได้ขออโหสิกรรมอะไรให้หรอกนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง แม่จะได้อยู่จองเวรจองกรรมกับผมต่อ แต่ตอนนี้ปล่อยจอยปล่อยใจให้สบายไม่ต้องกังวลทางนี้ พวกเราจะดูแลกันและกันอย่างดี เหมือนที่แม่ดูแลพวกเรา แต่ก็ใช้เวลาสักหน่อยแล้วกันให้ความเศร้าได้เบาลงไปบ้าง ความคิดถึงไม่หายไปไหนแน่นอน แต่เพราะตอนนี้อาจจะเป็นเพราะแม่ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ก็เลยไม่ค่อยเขินแล้วที่จะบอกว่า รักแม่มากๆ นะครับ ขอบคุณครับ"

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม

...