เตรียมตัวย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้ว สำหรับครอบครัวของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หลังจากที่เพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่มูลค่าเกือบ 100 ล้าน เป็นของขวัญให้กับครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบายขึ้น ซึ่งบ้านหลังนี้ได้ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการทยอยขนของเข้ามาเท่านั้น
ซึ่ง เจนนี่ ได้ทำการรีวิวบ้านหลังใหม่ โดยเจ้าตัวบอกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ เจนนี่กับยิว นั้นชอบมากๆ โดยเลือกซื้อบ้านตัวอย่าง เพราะเฟอร์นิเจอร์ครบสามารถเก็บกระเป๋าเข้าบ้านได้เลย เจนนี่ยังบอกอีกว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ ตนเองและสามีตั้งใจทำเพื่อลูกทั้ง 2 คนมากๆ

นอกจากนี้ ได้มีคนเข้ามาถามว่า "ขออนุญาตสอบถามทำธุรกิจอะไรหรอคะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ" ซึ่ง เจนนี่ ก็ได้ทำคลิปตอบกลับ โดยชี้แจงรายละเอียดของธุรกิจแต่ละตัวเป็นข้อๆ บอกว่า
ไม่ได้โกรธกับคำถามนี้ เลยอยากจะมาตอบให้ฟัง เผื่ออาจจะให้ประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คน และคำถามนี้มันอยู่ในคลิปที่เจนนี่ซื้อบ้าน ซึ่งก็เป็นปกติเวลาที่เราซื้อของที่มีราคาแพงเช่น บ้านกับรถ คนก็จะมาถามที่มาทางการเงิน หรือธุรกิจของบ้านเรา
...

เจนนี่ บอกว่า จะตอบอย่างจริงใจและซื่อตรงกับธุรกิจที่เธอทำในตอนนี้ ขอยกตัวอย่างแค่ 10 ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบ้านได้ และยังบอกอีกว่า เธอมี 2 บริษัท คือ บริษัท เจนนี่โอเค กับ บริษัท เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น ที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจค่ายเพลง รวมถึงบริษัทที่ทำเกี่ยวกับของออนไลน์ ยืนยันว่าจ่ายภาษีถูกต้องทั้งรายเดือนและรายปี จากนั้นก็ได้เล่ารายละเอียดของธุรกิจทั้งหมด 10 ธุรกิจที่ทำในตอนนี้ คือ
1. การรับรีวิวสินค้าและพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ถ้าใครที่ติดตามจริงๆ จะลงงานรีวิวบ่อยมาก แทบจะทุกวันเลย ส่วนเรทราคาก็คือ ถ้าช่วยแชร์โพสต์ จะเริ่มต้นที่ 20,000 บาท แพงสุดที่ 5 ล้านบาท แล้วแต่งานที่ลูกค้าจะให้ทำ และยังบอกอีกว่า คุ้ม เพราะเอนเกจเมนต์หรือฟอลโลเวอร์ของเรา ลูกค้าคิดมาแล้วพร้อมจ่ายในราคานี้สำหรับจ้าง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น
2. ทำเพลงไทน์อินสินค้า เพลงไหนที่มีสินค้าในเพลง หรือแต่งเพลงเพื่อสินค้านั้นๆ ลูกค้าจะเป็นคนจ่ายมา เรทราคาอยู่ที่ 1-3 ล้านบาท แล้วแต่งานหรือโปรดักชั่น ซึ่งผลงานตรงนี้มีมากกว่า 10 กว่าเพลง
3. ยอดวิวรวมจากค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ที่น่าจะมี 1,000 ล้านวิว โดยได้รับรายได้เป็นเดือน อย่างเช่นเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว รายได้จากยอดวิวในทุกวันนี้ก็ยังเข้าเรื่อยๆ ซึ่งแบ่งสัดส่วนทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว ดราม่าไม่มีแล้ว

4. จากคอนเสิร์ต ที่วิ่งงานตั้งแต่ปี 2559 - 2568 รวมกันทั้งหมด 9 ปี ซึ่งเอาจริงๆ แค่วิ่งคอนเสิร์ตอย่างเดียวก็อยู่ได้แล้ว ถ้าเราบริหารเงินเก่งๆ เรทคอนเสิร์ตอยู่ที่ 130,000 - 250,000 บาท แล้วแต่ระยะเวลาและสโคปงาน ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีมาเรื่อยๆ เดี๋ยวรอคลอดลูกก็มีลูกค้าเข้ามาจองแล้ว
5. ออกรายการและไปถ่ายรายการต่างๆ ซึ่งก็จะมีบัดเจ็ตแล้วแต่รายการให้ที่ไป ค่าตัวอยู่ที่ 10,000 - 60,000 บาท ซึ่งเดือนนึงออกรายการทีวีไม่ต่ำกว่า 10 รายการเลยทีเดียว จะถูกจะแพงก็ไปหมด แค่ได้ออกทีวีก็ชอบแล้ว เพราะตั้งแต่เด็กชอบมาก
6. การเล่นภาพยนตร์, หนังสั้น, ซีรีส์ และซิทคอมต่างๆ อย่างเช่นเล่นหนังค่าตัวจะอยู่ที่หลักล้าน ส่วนพวกซีรีส์ หนังสั้น ซิทคอมที่ไปแจมจะอยู่ที่หลักหมื่น หลักแสน
...
7. รายได้จากคลิป reel ที่ได้หลักหมื่น หลักแสน พร้อมกับแนะนำคนที่ชอบทำคลิป ต่อไปอาจจะแมสและสามารถสร้างรายได้ได้
8. รายได้จากหนังสั้นของตัวเอง คือจาก ยูจินแฟมิลี่ฟิล์ม ที่ถ้าใครได้ติดตามจะเห็นว่า ในหนังสั้นแต่ละเรื่องจะมีสินค้าเข้ามาในทุก EP ซึ่งเจ้าของแบรนด์จะเป็นสปอนเซอร์ พร้อมกับบอกว่า ในแต่ละ EP จะได้เงิน 100,000 - 300,000 บาท แต่ยังไม่รวมเงินที่ได้จากยอดวิว ซึ่งจะได้ 2 ช่องทางจากหนังสั้นตรงนี้
9. การได้อ่านข่าว และไปเป็นพิธีกรรายการทีวีต่างๆ ซึ่งได้ค่าตัวเฉลี่ย 10,000 - 60,000 บาท ก็จะมีรายได้เข้ามาให้เราได้มีเงินเก็บ
10. รายได้จากการขายของออนไลน์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบ้านเลย โดยในระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ขายมาค่อนข้างแมสเลย
ทั้งนี้ เจนนี่ ทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่เอาชื่อเสียงที่สร้างมาตั้งแต่ปี 59 มาแลกกับเรื่องที่ทำไม่ดีแน่นอน ต่อให้วันนี้ที่เรามีงานทำอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสดีๆ เข้ามา ก็จะคว้าไว้เสมอ
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม

...
@janeydm ตอบกลับ @PP Land ขอบคุณสำหรับคำถามน้าาา ฝากดูให้จบด้วยยยยย #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น ♬ เสียงต้นฉบับ - รัชนก สุวรรณเกตุ