หลังจากที่พระเอกหนุ่มเข้ม ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ แจ้งข่าวอาการป่วยของนางร้ายสาว เอ๋ พรทิพย์ ภรรยา ว่าป่วยโรคมะเร็ง และขอให้ติดตามในรายการ “ป๋อสะกิดเอ๋” ทางยูทูบแชนแนล ป๋อสะกิดเอ๋ ในวันพุธที่ 4 มิ.ย. 2568



...
ล่าสุด ป๋อ-เอ๋ เผยคลิป “เมื่อครอบครัวได้รับ ข่าวร้ายที่สุดในชีวิต | ป๋อสะกิดเอ๋” ทางยูทูบแชนแนล ป๋อสะกิดเอ๋ ซึ่งในช่วงแรกเผยคลิปที่เอ๋เข้ารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพ ด้วยการผ่าตัด ซึ่งหลังผ่าตัดเอ๋บอกว่าเจ็บมาก คันคอตลอดเวลา ซึ่งป๋อก็ให้กำลังใจ และบอกว่าถ่ายเก็บไว้ดู จะได้รู้ว่าเวลายากลำบากต้องผ่านไปให้ได้ ก่อนที่เอ๋จะบอกขอบคุณ
จากนั้น ป๋อ ก็เผยถึงวันที่ได้รับข่าวร้ายนี้ว่าเป็นอาทิตย์ที่ยากที่สุดสำหรับเราสองคน สองวันแรกงงทั้งคู่เลย เอ๋แทบไม่รับอะไรเลย ไม่คิดว่าวันนึงจะเป็นโรคที่เขาหวาดกลัวที่สุด มันอาจจะเป็นภารกิจที่ยากที่สุดในชีวิตของเอ๋ที่ต้องเจอ เป็นโรคที่วันนึงไม่คิดว่าจะเกิดกับเรา แต่ทั้งนี้เอ๋ต้องสู้ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลเรื่องครอบครัว แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเอ๋ต้องผ่านด้วยตัวเอง



ด้าน นพ.ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ศัลยแพทย์ทรวงอก รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า จริงๆ มะเร็งปอดแบ่งเป็นเซลล์เล็กกับไม่เล็ก เซลล์เล็กไม่ดี โตเร็ว กระจายเร็ว เซลล์ไม่เล็กก็แบ่งเป็นหลายชื่อ แต่ที่เจอบ่อยมากคือเซลล์ Adenocarcinoma อย่างแรกเลยคือความเป็นคนเอเชียจะมียีนชื่อ EGFR ซึ่งผสมกับที่ไปเจอฝุ่นควัน PM 2.5 มีส่วนสำคัญมาก มันไปกระตุ้นยีนนี้ให้กลายพันธุ์ ทำให้เกิดเซลล์มะเร็งปอดได้เร็วมากขึ้น
ป๋อถามว่าที่เอ๋เป็นครั้งนี้น่าจะมาจาก PM 2.5 ส่วนหนึ่ง หมอพยักหน้าและบอกว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งเลยที่สำคัญที่กระตุ้นให้เกิดขึ้นมา ตอนนี้ผลสุดท้ายยังไม่ออก แต่คิดว่าน่าจะอยู่ในระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะที่เราหวังผลหายขาดสูงเลย

...

ซึ่งในเคสของเอ๋ พรทิพย์ เจอตรงปอดซ้ายข้างหลัง ตำแหน่งที่เจอไปซ้อนกับเงาหัวใจพอดี เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ CT Scan เอ็กซ์เรย์อย่างเดียวจะไม่เห็นเลย จนกว่าก้อนนี้จะโตประมาณ 3-4 ซม. เพราะซ่อนอยู่ในจุดที่ค่อนข้างยากในการตรวจ
คิดว่าสิ่งที่คุณเอ๋ตรวจเจอฟังดูน่าตกใจที่เป็นมะเร็งปอดในคนอายุน้อย ไม่สูบบุหรี่ แต่ผมคิดว่าโชคดีมากที่ได้มาตรวจและรักษา ถ้าทุกอย่างอยู่ในระยะ 1 จริงๆ โอกาสหายขาดสูงมาก การผ่าตัดในตอนที่ก้อนยังเล็ก เราเก็บเนื้อปอดได้เยอะ สามารถกลับไปมีชีวิตที่แทบจะปกติเกือบ 100%
ด้านเอ๋ พรทิพย์ บอกว่าหลังผ่าเสร็จแล้วเจ็บแผล ตอนแรกมันยังมีสายเดรนเลือด น้ำเหลือง เจ็บมากจนเดินไม่ได้ ร้าวซี่โครง เจ็บน้ำตาไหลจนต้องขอมอร์ฟีน ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน ตอนที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง ทุกอย่างมันเร็วมาก มันไม่ได้ตั้งตัว มันช็อก ฟังใครไม่รู้เรื่อง รู้สึกเหมือนบ้านถล่มเลย ถ้าเราเป็นขึ้นมาจะทำยังไง เราจะอยู่กับลูกได้แค่ไหน นานแค่ไหน แค่นึกถึงหน้าลูกก็ร้องไห้ ก็แย่แล้ว มันตั้งตัวไม่ทัน พอผ่ามา ตลอดเวลาคิดวนอย่างเดียวว่าถ้าไม่หายจะเป็นยังไง ลูกจะอยู่กับใคร พี่ป๋อจะเป็นยังไง
...

เอ๋บอกว่าอยากบอกเพื่อนทุกคนเพราะว่าเอ๋อยากให้ทุกคนไปตรวจ ไม่อยากให้มาเจอตอนที่มันเป็นมากกว่านี้แล้ว อยากให้เหตุการณ์ของเอ๋เป็นเครื่องบอกคนอื่นว่าต้องดูแลสุขภาพ ตรวจสุขภาพ ทำไมสุขภาพถึงต้องสำคัญ มันอาจจะเป็นสิ่งสิ้นเปลืองเงินทอง แต่มันคุ้มค่ามาก
ด้าน หนิง ปณิตา พูดว่า รอบนี้ที่เอ๋เจอ เพราะว่าก่อนหน้านี้พี่ป๋อป่วยเลยชวนไปตรวจ ซึ่งป๋อก็บอกว่าก่อนหน้านี้ตนเจ็บหลังล่าง เลยบอกเอ๋ว่าอยากไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว เพราะไม่ได้ตรวจมาปีครึ่งแล้ว แต่สรุปว่าตนไม่เป็นไร ก็เลยแอบคิดว่าอาจเป็นความบังเอิญดลใจให้เรามาตรวจ อาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

...
จากนั้น เอ๋ พรทิพย์ ขอบคุณทาง รพ. BNH ที่พามาปรึกษากับ รพ.กรุงเทพ ต่อ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาให้กำลังใจ ทำให้คนรู้ว่ามีคนรักเรา มีกำลังใจ อยากบอกทุกคนว่าถ้าป่วยให้บอกเพื่อนเลย เพื่อนจะได้ช่วยทำหน้าที่เพื่อนของเขาได้เต็มที่ เอ๋มีกำลังใจดี จิตใจเข้มแข็งมาก เอ๋ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ คนที่รู้ข่าวแล้วตกใจ ตอนนี้เอ๋แข็งแรงแล้ว โอเคแล้ว ขอบคุณทุกคนจริงๆ
ก่อนจะพูดถึงป๋อว่า อันนี้เอ๋เลือกสามีไม่ผิดเลย พี่ป๋อดูเศร้ากว่าเอ๋ พอเขารู้ เขากดโทรศัพท์หาข้อมูลว่าต้องทำยังไง คุณหมออยู่ที่ไหน มีประวัติอะไร ไม่ทำงานเลย แคนเซิลงานหมดเลยเพื่อมาอยู่กับเรา เขาบอกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ เป็นคนที่น่ารัก เมื่อก่อนเขาน่ารักอยู่แล้ว พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีมาก ทั้งปลอบใจเอ๋ ตัดสินใจแทนเอ๋ ทำทุกอย่างแทนเอ๋หมดเลย รู้สึกโชคดีมาก เราคิดว่าอาจไม่มีใครรักเรา แต่พอเราเป็นก็รู้สึกว่าคนรักเราจริงๆ อย่างน้อยสามีรักเราสุดหัวใจ

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม