การจากไปอย่างกะทันหันของ เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร ในวัย 72 ปี จากอาการหัวใจกำเริบแล้วช็อกหมดสติ ซึ่งทางแพทย์ได้ปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตแล้ว แต่ไม่สำเร็จ และในที่สุด เอ๋ ไพโรจน์ ก็จากไปอย่างสงบ ทางครอบครัวได้จัดพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
ล่าสุด เบส ปณิชา ลูกสาวของ เอ๋ ไพโรจน์ ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องของคุณพ่อ เอ๋ ไพโรจน์ เผยว่า
- ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันมาก เพราะปกติพ่อจะแข็งแรงอยู่แล้ว คุณพ่อเคยทำบายพาสหัวใจตอนปี 2547 และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเจ็บป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลเลย ไม่ได้มีอาการอะไรเลย แล้วก็ไปเรียนเรื่องการดูแลสุขภาพ อาหารการกิน การนอนยังไงให้เหมาะสม ก็ทำมาโดยตลอด ไม่มีอาการเจ็บป่วย
- แต่เพิ่งจะเริ่มเจ็บป่วยเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้วที่รู้สึกว่าเวลาพ่อเขาพูดแล้วจะมีอาการลิ้นแข็งนิดนึง ซึ่งแกก็ไปหาหมอ และหมอให้ยาขยายหลอดเลือดมา ระหว่างที่ทานยาขยายหลอดเลือด อาการก็กลับมาเป็นปกติ เลยคิดว่าการทานยา มันควบคุมอาการได้ เราไม่ได้คิดไปอย่างอื่น แต่ตอนแรกคิดว่าจะเป็นสโตรกไหม ซึ่งเขาอยู่ดีๆ ก็วูบไป
...
- สุขภาพที่ผ่านมาของคุณพ่อแข็งแรง ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้หักโหม แล้วเวลาเจอเพื่อนทุกคนก็จะให้กำลังใจเพื่อน และบอกวิธีการกินการใช้ชีวิต ซึ่งคุณพ่อก็ให้คำแนะนำคนอื่นได้อย่างดี
- ก่อนจะจากไป คุณพ่อมีอาการปกติ เขาออกกำลังกายทุกวัน ซึ่งในวันก่อนที่จะเสียชีวิต คุณพ่อก็ขับรถได้ตามปกติ เพราะถ้าหากเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ ก็จะไม่ขับรถหรือออกไปไหน
- ในวันก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิต เขาได้นัดทานข้าวกับเพื่อนหลายกลุ่ม และในช่วงตอนดึกคุณพ่อได้วูบไป ทางโรงแรมเลยนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งคิดว่าตอนนำส่งโรงพยาบาล น่าจะไม่ทันแล้ว เพราะตอนที่วูบ คุณพ่ออยู่คนเดียว
- เผยคุณพ่อเอ๋ยังมีงานภาพยนตร์ที่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือในส่วนของซีจี ภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่อ ย่าม่าน คุณพ่อมีความตั้งใจกับสิ่งนี้ งานภาพยนตร์เป็นงานที่เขารักอยู่แล้ว เหมือนเขาเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เป็นหนุ่ม เขารู้สึกว่าอยากจะทำอะไรเพื่อตอบแทน เลยอยากจะทำหนังเพื่อสังคม โดยที่เขาไม่ได้คำนึงถึงเทรนด์ตอนนี้เป็นยังไง ซึ่งเขาไม่ได้สนใจ เขาสนใจแค่ว่าสิ่งที่เขาจะทำมันคือสิ่งที่ปัจจุบันไม่ค่อยมี คือการพูดถึงเรื่องของการท่องเที่ยว เขาอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ซึ่งจังหวัดที่เขาไปถ่ายทำก็คือ จ.น่าน ซึ่งหนังเรื่องนี้คุณพ่อเขียนบทเอง กำกับเอง
- ซึ่งหนังเรื่อง ย่าม่าน เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่คุณพ่อทิ้งไว้ และเราต้องไปสานต่อให้เสร็จ พร้อมกับบอกว่า คุณพ่อไม่ต้องห่วง จะพยายามทำให้สำเร็จตามที่คุณพ่อตั้งใจไว้
- เผยที่ผ่านมาคุณพ่อไม่ได้สอนด้วยคำพูด แต่เขาจะสอนด้วยชีวิตจริงมากกว่า สิ่งที่เขาทำเราจะเห็นว่าได้อะไรบ้าง ตั้งแต่เด็กเราจะเห็นคุณพ่อไปถ่ายหนัง ถ่ายละคร เราเห็นถึงความตั้งใจ ความพยายาม ความสู้ไม่ถอยของเขา แม้ว่าใครจะว่าไม่ดี แต่ว่าเขาก็ชัดเจนในเป้าหมายของเขา
- เบส บอกว่า รู้สึกภูมิใจในตัวคุณพ่อเอ๋มากๆ เวลามีคนเข้ามาคอมเมนต์ก็จะตอบทุกคน แม้จะไม่ได้ตอบด้วยคำพูด แต่จะตอบด้วยสติ๊กเกอร์ กดหัวใจให้ และเราก็ไม่เคยเจอคำตอบที่ไม่ดี เวลาเราไปกับพ่อบ่อยๆ เราจะเห็นปฏิสัมพันธ์คนรอบข้างกับพ่อที่มีให้กันเป็นอย่างดี
- สำหรับกำหนดการจัดงาน ทางครอบครัวจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทั้งหมด 5 วัน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 9 เวลา 17.00 น. ส่วนในเรื่องของลอยอังคารน่าจะเป็นวันที่ 11 แต่ในเรื่องของสถานที่ยังไม่ชัวร์ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นสมุทรปราการ เพราะว่าส่วนหนึ่งคุณพ่อพักอาศัยอยู่ที่สมุทรปราการ
...
- อยากจะบอกกับแฟนๆ ว่า ขอบคุณทุกอย่าง เพราะว่าพอมาถึงวันนี้ได้เพราะแฟนๆ ทุกคน ตั้งแต่เริ่มต้นที่อยู่เส้นทางนี้ ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม จนมาถึงอายุ 72 มันไม่ได้ง่าย ก็เลยคิดว่าก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตคุณพ่อและสิ่งที่ทุกคนให้มาทำให้ชีวิตตัวเองได้เรียนรู้สิ่งที่ตัวเองเห็นมาตลอดว่า พ่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนและสังคม มันคือการเรียนรู้ผ่านชีวิตของคุณพ่อ ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในเรื่องของความรู้สึก และเราคิดว่าสิ่งที่ทุกคนให้มันไม่ใช่แค่ความสุขระหว่างคุณพ่อกับผู้ชม แต่มันคือความสุขของตัวเราด้วย
คลิกเพื่ออ่าน "ข่าวบันเทิง" เพิ่มเติม
