- เซ้นต์ - ภูม 2 หนุ่มหล่อ ที่รู้จักกันมานาน แต่เพิ่งโคจรมาร่วมงานกันครั้งแรกในซีรีส์ "หวานใจผู้ใหญ่จอม"
- ภูม ณัฐภาสน์ เผยเหตุผล ทำไมชื่อ ภูม ถึงไม่มีสระอิเหมือนคนทั่วไป
- การกลับมาเล่นซีรีส์วายในรอบ 5 ปีของ เซ้นต์ ศุภพงษ์
เป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกของทั้ง 2 หนุ่ม เซ้นต์ ศุภพงษ์ กับ ภูม ณัฐภาสน์ ในซีรีส์เรื่อง หวานใจผู้ใหญ่จอม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ต้องบอกเลยว่า เคมีของพี่น้องคู่นี้ดีสุดๆ
ล่าสุด เซ้นต์กับภูม ได้เคลียร์เวลามานั่งพูดคุยกับเรา บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ในรายการ The Blackground Around Fandom กับเรื่องราวการทำงานด้วยกัน ความน่ารัก และความรู้ใจกันแม้กระทั่งเรื่องการนอน!!
แต่ก่อนจะไปพูดคุยกัน เป็นธรรมเนียมของรายการ The Blackground Around Fandom เราจะขอดูภาพหน้าจอมือถือของศิลปิน-ดาราคนดัง ว่าพวกเขานั้นใช้รูปหน้าจอมือถือเป็นรูปอะไร และทำไมถึงต้องใช้รูปนี้ ซึ่งทั้งคู่ก็รีบเปิดภาพหน้าจอให้ดูทันที พร้อมอธิบายแบบชัดๆ ถึงเหตุผลที่เลือกรูปนี้มาใช้
...
เซ้นต์ หนุ่มสายมู
ภูม น้องชายผู้มีวินัย
เซ้นต์ : "นี่ครับ รูปที่ใช้อยู่ ผมเป็นเด็กที่โตมาจากศาลเจ้าจีนครับ ก็เลยชอบที่จะใช้แบบมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในรูปนี้ก็จะมีพระอวโลกิเตศวร พระกษิติครรภ์ พระวัดชัยชูษี พระสมันตภัทรพุทธเจ้าของทางจีน ก็คือ 3 พระองค์ใช่มั้ยครับ พระสังกัจจายน์เอง องค์กวนอู คร่าวๆ ครับ เพื่อความมงคลนะครับ เพราะว่าการเป็นผู้ใหญ่บ้านนั้นต้องใช้ดวงมากๆ เพราะว่าดวงของเราในการดูแลลูกบ้านไม่รู้จะเจออะไรบ้าง ตกน้ำลุยไฟนะครับ แถมต้องมาดูแลเด็กอีก ต้องอากงกวนอูแล้วแหละ อ่ะยังไงน้องภูมิ"
ภูม : "ของผมเป็นภาพคำว่า Discipline แปลว่าวินัยนะครับ ส่วนข้อความคือแบบว่าการฝึกฝนสิ่งที่เราทำยากๆ ซ้ำๆ มันคือการที่เราเอาชนะใจตัวเอง ก็เลยรู้สึกว่าตั้งไว้เป็นข้อเตือนใจ เป็นคำที่เราเห็น คือผมชอบคำนี้มากเลย คำที่เกี่ยวกับวินัย เพราะว่าวินัยมันเป็นฐานเบสิคเริ่มต้นสู่ความสำเร็จอันเล็กหรือว่ายิ่งใหญ่ ชอบ ตื่นเช้ามาแล้วเรารู้สึกว่า เอ้อ เราต้องมีวินัยนะ ในการทำสิ่งต่างๆ ครับ"
หวานใจผู้ใหญ่จอม
ผู้ใหญ่บ้านสุดหล่อกับลูกบ้านหมาเด็ก
ภูม : "เด็กหนุ่มเมืองกรุงสุดฮอตถูกส่งมาอยู่ที่โพธิ์ชัย คุณพ่อคุณแม่ส่งเรามาเพราะว่าเราไปทำวีรกรรมบางอย่าง พ่อกับแม่เลยอยากให้เราเปลี่ยนตัวเองเป็นอีกคนหนึ่งเลยส่งเรามาที่นี่มาอยู่กับผู้ใหญ่ ซึ่งตอนแรกภาพในหัวเราคิดว่าผู้ใหญ่เขาจะแบบโหด มีหนวดขาว เราจะอยู่ได้มั้ย เราไม่อยากมา พอมาปุ๊บ ไอดอลเกาหลีเลยครับ พอเจอเรารู้สึกว่าเราจะใช้ชีวิตยังไง เราอยู่ติดหรูติดแกรมมา แล้วมาอยู่ไลฟ์สไตล์ชีวิตแบบบ้านๆ ก็จะเห็นวิธีการปรับตัวของโยธินเอง แล้วก็เราจะเข้ากับผู้ใหญ่ได้มั้ย เพราะตอนแรกเรามา เราตั้งธงไว้แล้วว่า เราไม่ชอบหน้าคุณ"
เซ้นต์ : "ตอนแรกเขาจินตนาการไว้ ซึ่งจริงๆ ที่คุณพ่อเขาส่งมาหาผู้ใหญ่เอง เพราะว่าผู้ใหญ่จะช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัยหลังจากที่ลูกชายไปก่อเรื่องมา เราก็ต้องปกป้องเขาเพราะไม่รู้ว่าเขาจะปลอดภัยรึเปล่า ในเรื่องจะมีเรื่องราวมากมาย รวมไปถึงเรื่องของผู้ใหญ่บ้านที่ต้องดูแลลูกบ้าน จากปัญหาต่างๆ ของลูกบ้านเอง รวมถึงปัญหาในสังคมชุมชนตรงนั้น และการแก้ไขปัญหา การต่อสู้ในหมู่บ้านนั้น สนุกๆ ครับ ครบรสครับ บู๊ก็มี ดราม่าก็มี คอมเมดี้ก็มี คือจริงๆ หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ถ้าได้ดูตัวทีเซอร์เอง มันจะมีความรู้สึกว่าโอเวอร์แอคติ้ง"
...
ภูม ดีใจได้มีโอกาส
รับบทนำครั้งแรก
ภูม : "ตื่นเต้นครับ รู้สึกว่ามันเหมือนว่าเราเคยแต่เป็นตัวบทรองใช่มั้ย แล้วพอพลิกบทบาทขึ้นมา รู้สึกว่าก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง เราต้องเตรียมตัวยังไง อะไรบ้าง ความรับผิดชอบต้องมากขึ้นขนาดไหน เรารู้สึกว่าต้องปรับชีวิตเยอะมาก แล้วมาเล่นคู่กับพี่เซ้นต์ด้วยที่มีประสบการณ์เยอะ
...
ยอมรับว่าตอนแรกมีความเกร็ง ประหม่า แต่ว่าผมอยากลอง ซึ่งมันแตกต่าง เพราะการเป็นตัวหลัก ซีนอารมณ์ที่เราต้องเล่นตลอดทั้งเรื่อง รู้สึกว่าต้องทำการบ้านเยอะมากด้วย แม้ว่าบางซีนจะไม่มีบทพูด แต่มีบทแสดงอารมณ์เราก็ต้องทำให้ได้"
เซ้นต์ รับบท ผู้ใหญ่บ้านเนื้อหอม
จอมวางแผน
เซ้นต์ : "ส่วนผู้ใหญ่จอม จะมีความร้ายไม่รู้ตัว คำพูดคำจาเหมือนคนที่วางแผนมาก่อนแต่ความจริงไม่ได้คิดอะไรเลย ถามว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านเนื้อหอมมั้ย เรียกว่าเนื้อหอมมั้ย ไม่ได้หอมมากครับ จริงๆ ก็มีคนมาชอบบ้างในเรื่อง อื้อ ไม่จริงอ่ะ มีติดตามคุณมาด้วยน้า ใครครับ เดี๋ยวรอไปดูในเรื่อง ผมไม่อยากจะพูดชื่อเขาหรอก ก็มีคนมาชื่นชอบบ้างแหละในตัวหมู่บ้านเราเอง แต่เราก็เลือกสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ที่เขาชอบเอง แต่ผมเป็นผู้ใหญ่บ้านใจดีนะ แต่ด้วยความที่เขาคุมคนเยอะ แล้วก็ดูเด็กๆ เหมือนมีความเป็นผู้นำเด็กๆ จริงๆ ในเรื่องอ่ะ เวลาอยู่กับเด็กๆ จะมีความเป็นหัวโจก นิ่งเฉยๆ นิ่งกว่าเด็กๆ เพราะด้วยความวัย อายุ"
กลับมาเล่นซีรีส์วาย
ในรอบ 5 ปีของ เซ้นต์
...
เซ้นต์ : "จริงๆ ผมอ่ะ ไม่ได้นิยามเป็นการกลับมาขนาดนั้น เพราะว่าถ้าทุกคนเห็นจริงๆ ผมอาจจะแค่ไม่ได้รับบทนำ ไม่ได้เป็นนักแสดงนำในตัวซีรีส์วาย แต่ว่าถ้าปีที่ผ่านมาผมอยู่ข้างๆ ซีรีส์วายตลอดเลยนะ ทั้งเบื้องหน้าเอง เบื้องหลังเอง เราก็มีรับเชิญจากซีรีส์วายตลอด แต่ผมว่ามันเป็นจังหวะและโอกาสมากกว่า คือจริงๆ อยากเล่นมาก โดยส่วนตัวเราชอบ เราโตกับซีรีส์วายมา เรารักซีรีส์วาย เราอยากเล่นซีรีส์วาย เราถึงเป็นเบื้องหลังซีรีส์วาย
มันเลยเป็นจังหวะและโอกาส มันพอดิบพอดี เพราะช่วงๆ หนึ่งผมรับละครเยอะมาก อย่างก่อนจะเล่นเรื่องนี้ก็รับละครทีละ 5 เรื่อง มีหนังด้วยมีอะไรด้วย รวม 6-7 เรื่องพร้อมกัน (ร้อนเงินรึเปล่า?) ไม่ได้ร้อนเงินเลยครับ แต่ว่าหาเงินมาต่อยอดเพื่ออุดมการณ์ (หัวเราะ)
เราชอบแหล่ะ อยากเก็บประสบการณ์ในการทำงาน รู้สึกว่าอายุมันก็มากขึ้นทุกวันครับ เพราะเราอยู่วงการตั้งแต่อายุ 18-19 มาตอนนี้ผม 27 แล้ว ผมก็อยู่มาสักพักหนึ่ง เราก็แอบรู้สึกแบบอยากที่จะเก็บประสบการณ์ ทำอะไรได้ก็พยายามทำ พยายามเติบโตได้ก็พยายามเติบโต ให้อะไรคนได้ก็อยากให้"
การร่วมงานกันครั้งแรก
ของ เซ้นต์-ภูม
เซ้นต์ : "จริงๆ ถ้าเป็นเบื้องหลังเราเจอกันมานานมากแล้ว แต่ถ้าเป็นในเรื่องของการเล่นซีรีส์เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน ผมรู้จักน้องภูมตั้งแต่ ม.5 ม.6 แล้ว จนตอนนี้ภูมจะจบแล้ว ปี 3 แล้วครับทุกคน เอ้อ จะเรียนจบแล้ว"
ภูม : "ในพาร์ทของการทำงาน ผมรู้สึกดี แฮปปี้ครับ รู้สึกความคิดเราเปลี่ยน เราโตขึ้น เราได้ทำงานกับคนที่โต ได้ทำอะไรเป็นระบบเยอะมาก ได้ทำงานเปิดโลก เวลาว่างก็คุยธรรมะกัน อย่างตอนนั้นนั่งเครื่องบินไปทำงานด้วยกัน คุยกันเรื่องธรรมะตั้งแต่ขึ้นเครื่องยันลงเครื่อง นอกจากเรื่องธรรมะแล้วก็เป็นเรื่องธุรกิจที่ผมชอบถามพี่เซ้นต์ เราก็ได้เรียนรู้ตรงนั้นมา เราเอามาอะแดปได้ เพราะความคิดเขาอะเมซซิ่ง เพราะความคิดเขาโตกว่า เรียนรู้โลกกว่ามากกว่าเรา ผมชอบนะ ชอบทำงานกับคนที่เก่งกว่า พอเราทำงานกับคนเก่งตัวเราก็จะแอคทีฟ"
เซ้นต์ : "น้องภูมน่ารักครับ เรารู้สึกว่าเอ็นดูน้องมาตั้งนานแล้ว เราเห็นเขามา การเติบโตของเขา การใช้ชีวิตของเขาเอง ภูมเป็นคนขยันคนหนึ่งเลย การที่เขาบอกว่า วินัยของเขาเป็นสิ่งสำคัญ ผมเห็นวินัยในตัวเขาหลายอย่างสูงมาก ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีในตัวเขา เราได้ร่วมงานแล้วรู้สึกว่าดีเหมือนกันที่ได้มาแชร์อะไรร่วมกัน แต่ก็มีบางโมเมนต์ที่เราได้อะไรจากเขามาเหมือนกัน ในวัยที่เราเห็นน้องในตรงนี้ ได้ทำสิ่งนี้
แต่ข้อหนึ่งคือน้องเขาน่ารักครับ เรารู้สึกว่าน้องน่ารัก เราเป็นพี่น้องที่อายุต่างกันแค่ไม่กี่ปีแต่รู้สึกสนิทกัน มีอะไรก็แชร์กัน ก็คุยกันบอกกัน คือพวกผมอ่ะถ้านั่งๆ อยู่เจอมุขตลกก็แชร์กัน คุยกันตลอด ดีใจที่ได้ร่วมงานกับน้อง ก็หวังว่าน้องจะเก่งแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็หลายๆ คนก็จะรักน้องแบบที่ผมรักครับ"
ภูม : "พี่เขาเห็นผมน่ารัก แต่ผมไม่ได้น่ารักกับใครอย่างนี้ทุกคน"
สนิทกันมาก
จนแทบรู้ใจกันทุกเรื่อง
ภูม : "ต้องบอกว่าสนิทกันระดับหนึ่งเลยนะครับ เราไปทริป เราไปนอนที่ไหน เรารู้เลยว่าคุณต้องนอนเตียงไหนหรือคุณนอนฝั่งไหน เรารู้ฝั่งกัน เวลาถ่ายรูปเรารู้ใจกัน พี่เซ้นต์บอก ภูมยืนฝั่งนี้ดิ"
เซ้นต์ : "ใช่ เราจะรู้เลยว่าเขาจะหล่อมุมไหน ต้องถ่ายยังไง แม้แต่มุมกล้องในการถ่ายซีรีส์ ผมจะพยายามดันให้อยู่ในทางที่เขาหล่อ เพราะรู้สึกว่าน้องจะมั่นใจมุมไหน พยายามช่วยกัน หรือเวลานอน น้องภูมจะไม่ชอบให้แอร์จ่อหัว เราก็เอ้ยเดี๋ยวพี่นอนมุมนี้ให้"
ภูม : "ใช่ เขาจะรู้หมดเลยครับ ไม่ต้องบอกเลยว่าจะนอนตรงไหน"
เซ้นต์ : "จริงๆ เหมือนดูแลซึ่งกันและกัน เวลามีอะไรเราก็ช่วยกันดูแลกัน อันนี้สนิทในระดับหนึ่ง เราชอบกินอะไรเหมือนกัน เราชอบไปกินของอร่อยด้วยกัน อย่างเวลาไปทำงาน ทีมงานกลับแล้วเราก็ชอบหายไปทำบุญด้วยกัน ไปอยู่วัด ล่าสุดก็ไปโบกรถข้างทางด้วยกัน อันนี้เรื่องจริง ขอทีมงานลงข้างทาง เพราะในใจคิดว่าโบกรถกลับเองได้ แต่จริงๆ โบกไม่ได้เลย ก็เลยเปิด GPS แล้วไปเจอขนส่ง เราก็คิดว่าเป็นขนส่งแบบมีรถบัส แต่พอเดินไปถึงเป็นขนส่งต่อทะเบียน กลับบ้านไม่ได้ แล้วผมต้องรับผิดชอบดูแลน้อง ก็เลยโบกรถสิบล้อเข้ามาส่งในเมือง ซึ่งผมก็คิดหนักมากว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นมิจฉาชีพรึเปล่า ก็เลยโบกรถสิบล้อนี่แหล่ะ พอขึ้นไปก็นั่งตักกันเพราะมันมีที่นั่งเดียว
เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะครับ อย่างรอบแรกๆ ก็ชวนน้องไปไหว้พระและไปหาร้านอาหารอร่อยๆ กินด้วยกัน ก็เลยเสิร์ช สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือผมเรียกรถมา แล้วผมไม่รู้ทาง ซึ่งชื่อร้านถูกต้องแต่รถไปส่งผมอีกที่ แล้วหมุดที่มันมาก็มาผิดจริง ก็เลยต้องเดินข้ามแม่น้ำปิง แต่วิวข้างทางสวยมาก รู้สึกว่าในสิ่งที่มันผิดพลาด แต่จะมีความงามซ่อนอยู่ เราผ่านอะไรกันแบบนี้มาเยอะ
แต่ถ้าบางทีน้องเขางอแง เขาจะมาลูบแขนเราละ เพราะเขาเป็นคนติดสกินชิพ มาเอนซบเวลาเขาเหนื่อย ผมก็จะเป็นคนช่วยบิ้วๆ บูสๆ เอเนอร์จีเขา"
คนเอ็กซ์โทรเวิร์ด
กับอินโทรเวิร์ดมาอยู่ด้วยกัน
เซ้นต์ : "จริงๆ มันแมชชิ่งดี จริงๆ หลายคนเคยพูดว่า เอ็กซ์โทรเวิร์ดต้องอยู่กับเอ็กซ์โทรเวิร์ด อินโทรเวิร์ดก็อยู่กับอินโทรเวิร์ด แต่บางทีการที่อินโทรเวิร์ดกับเอ็กซ์โทรเวิร์ดมาอยู่ด้วยกัน มันจะกลายเป็นว่าอินโทรเวิร์ดเขาจะไม่พูดในสิ่งที่คิดแบบ 100% นะ แต่เรารู้ว่าเขาคิดอะไรเราเลยพูดแทนเขา บอกแทนเขา"
ตั้งแต่ทำงานกับเซ้นต์
ไม่เคยมีวันไหนที่อารมณ์ไม่ดี
ภูม : "เอาจริงๆ ตั้งแต่ผมร่วมงานกับพี่เซ้นต์มา ไม่เคยเห็นวันไหนที่เขาอารมณ์ไม่ดีเลย อันนี้พูดตรงๆ ถึงแบบเจอเรื่องที่มันน่าโกรธแค่ไหน เขาก็จะแบบชิลคุยกับเราปกติ เขาจะไม่เอาอารมณ์ลบมาใส่คนรอบข้าง แทบไม่เคยเห็นพี่เซ้นต์โกรธเลยจริงๆ เป็นคนมีเหตุผลเยอะนะครับ อย่างว่าแหละเขามีคนเข้าหาเยอะ จิตใจเขาร่มเย็นมาก ไม่ค่อยโกรธ เขาไม่ค่อยดุเลยครับ"
ภูม : "ถามว่า หน้ากล้องกับหลังกล้องของพี่เซ้นต์เหมือนกันมั้ย คือก่อนเข้ารายการไม่ได้ยินเสียงพี่เซ้นต์คุยเหรอครับ (หัวเราะ)"
เซ้นต์ : "คือทุกคนจะนิยามผมว่า ผมคุยกับทุกคนได้ทุกเรื่อง ถ้ามันมีเรื่องไหนเข้าหูผมสักเรื่อง ผมจะหันไปคุยด้วยแล้ว"
ภูม : "ไม่มีเดดแอร์ถ้าอยู่กับพี่เซ้นต์ ถึงเขาเป็นคนพูดเร็ว แต่ผมเก็บทุกเม็ดนะครับ ถึงผมจะกินข้าวอยู่ หูผมฟังตลอดว่าคุยเรื่องอะไรกัน ถ้าผมไม่ได้ใส่หูฟังหรือฟังเพลงอะไรอยู่ หูโล่งๆ คือได้ยินทุกคำเลยครับ"
เซ้นต์ : "เขาเป็นคนชอบแอบฟังนะ ทำอะไร เก็บรายละเอียดทุกเม็ด บางทีใส่หูฟัง แต่เขาไม่ได้เปิดเพลงนะ หูโล่งอยู่นะ พูดอะไรรู้หมดนะ"
พี่เซ้นต์ เหมือนเป็นกูเกิล
ถามอะไรตอบได้หมด
ภูม : "พี่เซ้นต์จะไม่หยุดพูดเลย คือเรื่องจะรันในหัว ไม่ว่าเรื่องไหนจะจบไปแล้ว ก็จะแกะเชื่อมโยง พี่เซ้นต์น่าจะแกะเชื่อมโยงเต็มร้อย โหยพี่เต็ม 150 ก็เลยเชื่อมโยงทุกเรื่องไว้ โหย 3-4 ชั่วโมงคุณจะได้ฟังทุกเรื่อง คุณอยากรู้เรื่องอะไร พี่เซ้นต์เหมือนเป็นกูเกิลตอบได้หมดครับ แล้วมันมีสาระนะครับ
เซ้นต์ : "ฉากที่ถ่ายในไร่อ้อย จะมีไร่อ้อยที่ยังไม่ถาง คิดว่าผมเดินตรงไหนครับ ผมก็เดินแหวกในไร่อ้อยเลย ใบอ้อยก็บาดๆ แต่ผมก็ยังเดินแหวกต่อ จนผู้กำกับเขาตะโกนว่า พี่เซ้นต์เขาจะกลับมามั้ย ซึ่งตอนถ่ายจริงๆ สนุกมาก แผลเต็มแขนเลยครับ"
ภูม : "แล้วมีอีกฉากความบ้าบิ่นของพี่เซ้นต์ มันมีฉากถ้ำที่พี่เซ้นต์ต้องเข้าไป แล้วในถ้ำมันมืดมาก ถ้าคนใจไม่ถึงหรือใจไม่กล้า อย่างผมเดินไปได้แค่ครึ่งทางไม่กล้าเข้าไปลึก มันมืดมาก แต่พี่เซ้นต์เขาเดินเข้าไปได้ โหย ไม่กลัวเลยเหรอ คือมันมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลยนะครับ พอเดินไปจนไฟโทรศัพท์มันลับสายตาแล้ว ผมก็ต้องเดินตามและตะโกนถามว่า พี่เซ้นต์ครับ พี่เซ้นต์ พี่อยู่ไหน เอาจริงๆ ครับ ถ้าให้ไปคนเดียว ผมไม่ไปแน่ๆ ผมยังไม่กล้าเดินเข้าไปเลย"
เซ้นต์ : "ในถ้ำมันลึกมากเลยครับ เราก็อยากรู้มันมีอะไรที่น่าตื่นเต้น เราก็เข้าไปดู"
คำว่า ภูม ณัฐภาสน์
ชื่อนี้ไม่มีสระอิ
ภูม : "เป็นคำถามที่คนถามเยอะมาก คือภูมที่ไม่มีสระอิแปลว่าบ้านครับ คุณแม่ตั้งไว้ อยู่กับเรา อู่กับบ้าน แล้วแบบว่าไม่ว่าไปที่ไหน ถึงไม่ได้อยู่บ้านจริงๆ ที่เป็นสถานที่ แต่ว่าแม่ได้อยู่กับเรา เขาอยากให้มีฟีลลิ่ง อยู่กับเราแล้วเป็นเซฟโซน มีความสุข ปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ก็เลยเป็นที่มาของภูมไม่มีสระอิครับ"
อ้อนแฟนคลับให้ติดตาม
"หวานใจผู้ใหญ่จอม"
เซ้นต์ : "ก็อยากจะฝากทุกคนติดตาม หวานใจผู้ใหญ่จอม ด้วยนะครับ อยากให้ติดตามด้วยนะครับ อย่างน้องโยธินเอง ที่เขามาอยู่ที่ อ.โพธิ์ชัย เขาจะปรับตัวยังไง เพราะว่าบางคนปรับตัวไม่ได้จริงๆ อาบน้ำตุ่มมันยากมาก บางคนจากที่กินอาหารดีๆ ตามร้าน ต้องมาจกข้าวเหนียวส้มตำกับผม อยากให้ทุกคนมาลุ้นกันว่าเขาจะปรับตัวได้มั้ย เปลี่ยนไปยังไง หรือว่าอยู่ไม่ได้จนไม่อยากจะกลับหรือเปล่า หรือว่าผู้ใหญ่จอมจะดูแลเขาได้มั้ย มีเรื่องราวต่อสู้การที่ปกป้องชาวบ้าน ทำได้ไหม และเขาจะรักกันได้ยังไง มาลุ้นกันกับผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านของเขา ฝากติดตามด้วยกับ หวานใจผู้ใหญ่จอม"
ภูม : "ฝากโยธินและพี่ผู้ใหญ่ด้วยนะครับ ออนแอร์ทุกวันศุกร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง Workpoint หมายเลข 23 และดูย้อนหลังแบบ UNCUT ได้ทาง Youtube : IDOLFACTORY OFFICIAL"
เซ้นต์ : "แล้วก็ฝากแฟนคลับนะครับ ติดตามเรา 2 คนนะครับ เซ้นต์เองครับ"
ภูม : "ภูมนะครับ ภูมที่ไม่มีสระอินะครับ ฝากติดตามผลงานของพวกเรา 2 คนด้วยนะครับ"
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”