ยังเป็นประเด็นร้อนแรงต่อเนื่อง สำหรับนางร้ายสาววิกหมอชิต คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ที่ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของ ฮอต ไฮโซกำมะลอที่หลอกให้รัก พร้อมทั้งแฉถึงพฤติกรรมของฝ่ายชายผ่านทางรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์

โดยหลังจากที่ คะน้า ริญญารัตน์ เปิดใจอีกครั้งในรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 คะน้าก็มาเปิดใจกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ณ อาคารมาลีนนท์ ถ.พระราม 4 

งานนี้นักข่าวถามว่าของที่เขาให้เป็นของปลอมทั้งทองและเพชร รู้สึกยังไง คะน้าบอกว่าไม่ตกใจ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าทองปลอมเพราะมันลอก พอเรารู้ว่าเป็นทองปลอม คิดอยู่แล้วว่าเพชรก็น่าจะปลอมเหมือนกัน ถามว่าทั้งตัวเขามีอะไรจริงบ้างไหม คะน้าตอบว่า “น่าจะหน้าเขาค่ะอย่างเดียว ที่เหลือไม่รู้เลยค่ะว่าอะไรจริงบ้าง หน้าที่การงาน ชีวิต คำพูดเขา ไม่มีอะไรจริงเลยสักอย่าง”

เมื่อนักข่าวถามว่าหลังคะน้ามาออกรายการก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก รู้สึกยังไงที่ได้ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคน คะน้าตอบว่า รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เราออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคน ถึงแม้จะมีกระแสไม่ดีตีกลับมา แต่เรารู้สึกว่าได้ช่วยสังคม ขจัดภัยสังคม ทั้งทุกคนที่ได้รับความเสียหาย ไล่มาตั้งแต่เบื้องบน นายกฯ ผู้ใหญ่ จนถึงเหยื่อทุกคนที่จะได้กล้าออกมาเอาผิดคนคนนี้ ไม่ให้ไปหลอกใครได้อีก ก็รู้สึกว่าได้ช่วยอีกหลายคน

...

ถามว่าได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนของคุณหมอผู้เสียหายไหมถึงเรื่องที่เขาโดนหลอกจะให้แต่งงานหลายครั้งแต่ไม่ยอมแต่ง คะน้าบอกว่า อย่างที่บอกไปในรายการว่าจะแต่ง 3 รอบ แต่คุณหมอก็เป็นหนึ่งในเหยื่อด้วย 

เรามีโอกาสได้คุยกับคุณหมอด้วย คุณหมอก็เล่าเหมือนกันว่าตกเป็นเหยื่อ โดนหลอกไป 10 ล้าน อันนี้ทางคุณหมอแจ้งแต่ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเขาก็ยังอยู่ด้วยกัน เราก็แปลกใจว่าโดนหลอกขนาดนี้ ทำไมยังอยู่ด้วยกัน ถ้าเขาเป็นผู้เสียหายจริงๆ อยากให้พี่กันช่วยก็ติดต่อมาได้

ถามว่าเขาเล่าอะไรมาบ้าง คะน้าบอกว่า เขาเล่าว่าเขาโดนหลอก เหมือนว่าเขามีคดีความ ทางฮอตอาสาทำคดีให้ ก็หลอกเงินเอาไปจ้างทนาย แต่สรุปคดีไม่เดินเลย คือไม่ได้ไปจ้างทนายจริง ไม่มีการดำเนินคดีจริง เขาก็เสียหายเพราะคดีไม่ดำเนิน คือหลอกในเรื่องเชิงว่าจะทำคดีให้และหลอกเงินไป จริงๆ คุณหมอค่อนข้างดีกับฮอตมากเพราะว่าตอนที่พ่อฮอตป่วย เขาก็ดูแลทุกอย่างหมดเลย แต่พ่อฮอตเป็นพระ ไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าคิดว่าเขาต้องการอะไรถึงกล้ากุเรื่อง คะน้าบอกว่า ส่วนตัวคิดว่าเขาต้องการเงินจากเรา เพราะมันมีเรื่องที่เขากุว่าเราเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ซึ่งเราไม่ได้เกี่ยวข้อง ยังงงว่าเราไปเกี่ยวข้องได้ยังไง แต่เขาอ้างว่าแฟนเก่าเราเกี่ยวข้อง ทำให้เรากลัวว่าจะกระทบธุรกิจ ซึ่งจริงๆ เขามีการให้เอาสเตจเมนต์ต่างๆ ทั้งส่วนตัวและบริษัทไปชี้แจงกับ ปปง.

แต่โชคดีที่ 1 วันก่อนที่จะต้องไป ปปง. เรารู้ความจริงก่อน เลยคิดว่าถ้าเราไป ปปง. ตามแผนของเขา เราน่าจะโดนเรียกทรัพย์อีก เพราะในสิ่งที่เขาพูด เช่น เรื่องการแต่งงาน เมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี เขาบอกว่ามีสมรสพระราชทาน แต่ว่าถึงวันจริงมันไปไม่ได้ ก็เลยคิดว่ามองดีๆ เขาต้องการเรียกทรัพย์ จริงๆ ก็มีผู้เสียหายที่เสียทรัพย์เยอะ มีคนที่ไม่ออกมาพูดอีกเพราะโดนขู่ไว้เยอะ 

หลักๆ เขาก็จะเข้าหาคนที่พอดูมีเงินหน่อย มีหน้าตาทางสังคม เพื่อหาวิธีหลอกเงิน ซึ่งค่าแชมเปญที่จ่ายไป 9.8 หมื่นบาท เขาโอนคืนมาแล้ว แต่ว่าก็มีส่วนอื่นๆ อีกเป็นแสนที่เราซื้อให้เขา แต่เราไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเราถือว่าซื้อให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด ซื้อให้เพราะอยากซื้อ ก็เป็นแสนที่เราเสียให้เขา จากที่เขาขอเราให้ซื้อโน่นนี่ให้หน่อย ก็ฟาดเคราะห์ไป 

เมื่อถามว่าที่จะเอาเรื่องถึงที่สุด จริงๆ สงสารเขาไหม คะน้าบอกว่า ตอนแรกก่อนจะออกมาพูด ใจนึงก็สงสารเขา ถ้าเราออกมาพูด เขาเจอข้อหาหนักแน่ แต่พอเห็นพฤติกรรมของเขาจากหลายๆ คนที่มาเล่าก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้น่าสงสารเลย เขาทำตัวเอง ดังนั้นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถามว่ากลัวเขาจะทำร้ายตัวเองไหม คะน้าตอบว่า อันนั้นเขาทำร้ายตัวเองก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้าเขาอยากจะทำก็เชิญตามสบาย แต่ขออย่างเดียวว่าอย่าวุ่นวายกับเหยื่อกับเรา อย่าทำร้ายข่มขู่เหยื่อรวมถึงหนูด้วย

...

ถามว่าเขาทำให้เราเข็ดกับความรักไหม คะน้าตอบว่า ก็ไม่ถึงกับเข็ด แต่ทำให้เราเรียนรู้ว่าเราต้องค่อยๆ ดู อย่าไปรีบกับเรื่องพวกนี้มาก ขอพักใจก่อน ตอนนี้ไม่โฟกัสเรื่องรักเลย ขอฮีลใจตัวเองก่อน ถ้าพร้อมก็กลับมาเปิดใจอีกครั้ง

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม