ชมพู่ อารยา พูดถึง ป้าเจี๊ยบ เป็นเหมือนคนในครอบครัว ดูแล น้องเกล ได้ดีมาก

นานๆ ทีจะได้เห็น ชมพู่ อารยา ไปออกรายการทีวี ล่าสุด แม่ชมได้มานั่งในรายการ แฉ ของ มดดำ คชาภา พร้อมกับเล่าช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว อุ้มลูกสาว น้องเกล วิ่งลงมาจากชั้น 46 และนอกจากนี้ แม่ชมยังได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตทั้งเรื่องของการดูแล ป้าเจี๊ยบ ที่เธอบอกว่าอยากให้เขาสบายใจเลยดูแลไปถึงครอบครัวของเขาลูกสาวเขา เพราะป้าเจี๊ยบดูแลลูกเราเต็มที่มากๆ เขาให้เราทั้งใจจริงๆ เคยบอกให้ป้าเจี๊ยบพักบ้างแต่เขาไม่พักเลย งานคือชีวิตของเขาจริงๆ รวมถึงเรื่องของลูกๆ พี่สายฟ้า พี่พายุ และน้องเกล อีกด้วย

- ตอนที่เกิดแผ่นดินไหว อยู่กันคนละชั้นกับน้องเกล แม่ชมอยู่ชั้น 47 น้องเกลอยู่ชั้น 46 จริงๆ เพิ่งอาบน้ำด้วยกันแล้วป้าเจี๊ยบเอาน้องเกลลงไปแต่งตัวข้างล่าง แม่ชมกำลังแต่งหน้า นั่งเม้าท์กับน้าพลอย เพราะจะออกไปถ่ายงานกัน

- ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวได้ยินเสียงตึกดังแกร๊กๆ น้าพลอยบอกว่าไม่สบาย ส่วนแม่ชมเอามือแตะผนังแล้วท่อง นะโมตัสสะ ซึ่งตอนนั้นคิดว่ามันน่าจะแผ่นดินไหว แค่แป๊บเดียว แต่มันโยกแรง จากนั้นก็วิ่งลงมาชั้น 46

- ตอนแรกพี่อู๋ คนสนิทที่ช่วยถ่ายคอนเทนต์ เขาอยู่กับน้องเกล กับป้าเจี๊ยบ พอแผ่นดินไหว ป้าเจี๊ยบก็บอกให้พี่อู๋อุ้มเกลเลย ทรัพย์สินหาใหม่ได้ แต่ให้เอาน้องไปก่อน

- แม่ชมบอกว่า ตอนนั้นจำอะไรไม่ได้เลย ในหัวภาพมันไวมาก และใจเราลงไปถึงข้างล่างแล้ว พอตัดภาพมาอีกทีคือมาถึงชั้น 44 เห็นพี่อู๋อุ้มเกลและแบกของพะรุงพะรังด้วย ก็เลยรับเอาน้องเกลมาอุ้มและใส่เกียร์หมาวิ่งลงยับเลย

- ส่วนสามี คุณน็อต ตอนนั้นเขากำลังอาบน้ำอยู่ ก็แต่งตัวและวิ่งลงตามมาทีหลัง เขาเปิดประตูออกมาก็ไม่เหลือใครแล้ว และวิ่งไล่เช็คทั้งหมดว่าไม่เหลือใครจริงๆ คุณน็อตก็วิ่งลงมาตามแม่ชมทันช่วงชั้น 10 กว่าๆ

- ส่วนพี่สายฟ้ากับพี่พายุ ตอนนั้นอยู่โรงเรียน ซึ่งที่โรงเรียนดูแลดีมาก ตอนที่เขากลับมาก็ไม่มีอาการแพนิคอะไรเลย

- แม่ชมพูดถึงตัวเองตอนเด็กๆ ว่า ไม่เชิงเป็นเด็กขี้อายแต่ขี้เกียจพูด เวลาเจอคนเยอะๆ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเวลาต้องเจอคนเยอะๆ พลังทุกอย่างจะหมดไปกับลูก เราก็ต้องเซฟพลังตัวเองไว้ กลายเป็นว่าพอเรามีลูก เรื่องอื่นเราก็ไม่อยากสนใจ

- รู้สึกใจหาย ตอนนี้ลูกชายทั้ง 2 คนโตเป็นหนุ่มเร็วมาก และยิ่งกับน้องเกลก็จะยิ่งรู้สึกเหมือนกัน

- แม่ชมบอกว่า พายุจะมีพ่อน็อตเป็นไอดอล อยากจะเป็นเหมือนพ่อทุกอย่าง ทั้งเล่นกีฬา อยากเท่ แต่งตัวเท่ จากที่เมื่อก่อนเป็นเด็กอ้วน เต้นปูหนีบอีปิ๊ มาตอนนี้ติดหล่อแล้ว อายุ 7 ขวบ ก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ แต่รู้ตัวเองชัดขึ้น อย่างเช่นจะแต่งตัวโทนสีขาวดำ เทาๆ

- อย่างที่บ้านจะมีเวลาให้ดูยูทูบ คนหนึ่งจะดูอะไรที่เป็นเด็กมากๆ ส่วนอีกคนจะดูอะไรที่เป็นวิชาการหน่อยๆ ดูโตๆ เป็นหนุ่มหน่อย อย่างพี่สายฟ้าเขาจะยังชอบขอดูการ์ตูน ขอซื้อตุ๊กตาตัวเล็กๆ มีขน เอามาวางเรียงที่เตียงนอนเขา

- แม่ชมบอกว่า ป้าเจี๊ยบเขาจะเป็นคนซีเรียสเรื่องมารยาท เรื่องการไหว้ อย่างเวลาไปทำงานก็จะบอกลูกค้าก่อนเลยว่า ไม่ต้องไปคาดหวังเด็กนะว่าจะทำได้ตามที่บรีฟ แต่ป้าเจี๊ยบเขาจะแบบว่าทำให้ได้มากที่สุด เพราะเขาเชื่อในตัวเด็กว่าจะทำได้ เราก็เชื่อเหมือนกัน แต่อยู่ที่ว่าเด็กจะทำหรือไม่ทำ

- แม่ชมบอกว่า จังหวะที่น้องเกลงอแงก็มีเหมือนกัน เด็กก็คือเด็ก มีทั้งหิวทั้งง่วง แต่ก็จะขออนุญาตอย่าถ่ายน้อง

- อย่างเวลาที่น้องเกลเจอพี่ๆ แฟนคลับ ก็จะยกมือไหว้ แม่ชมบอกว่า อันนี้ป้าเจี๊ยบเป็นคนสอนล้วนๆ เลย แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเสิร์ฟตลอดเวลา เพราะเด็กก็คือเด็ก

- สำหรับป้าเจี๊ยบ เคยเป็นคนนวดอยู่ในกองถ่าย ซึ่งตอนนั้นป้ามีลูกค้าในกองถ่ายเยอะ ก็เลยถามว่า จะเอายังไงต่อกับชีวิต เขาก็เก็บไปคิด และจังหวะนั้นแม่ชมกำลังแต่งงาน เลยได้มาอยู่ด้วยกัน

- แม่ชมเล่าว่า ป้าเจี๊ยบมาเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวอยากจะไปลองเรียนและไปใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งก็เล็งไว้หลายรัฐ เลยบอกว่า คุณน็อตทำธุรกิจอยู่ที่เมลเบิร์น เพราะว่าคุณน็อตเรียนหนังสือที่เมลเบิร์นตั้งแต่เด็ก เลยบอกว่าไปอยู่ที่นี่มั้ย จะได้เป็นหูเป็นตาแล้วก็เรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย และมาสมัครงานที่โรงงานคุณน็อต เราก็ช่วยดูตั้งแต่เรื่องที่พักอาศัย เรื่องงาน เรื่องค่าเทอม เหมือนเป็นหนึ่งในครอบครัว เพราะรู้ว่าป้าเจี๊ยบให้เรามาทั้งชีวิต ช่วยดูแลลูกเราเต็มที่มาก เรื่องส่วนตัวชีวิตข้างหลังป้าเจี๊ยบไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว เดี๋ยวเราดูแลเอง

- แม่ชมบอกว่า ป้าเจี๊ยบเป็นคนที่งานกับเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องเดียวกัน งานคือชีวิต เขาทำเต็มที่ เคยบอกให้พักเขาก็ไม่พัก

- แม่ชมบอกว่า เวลาจะพาน้องเกลไปทำงาน ไม่เคยบอกเขาว่า ให้ยิ้มนะคะ ยืนอยู่กับที่นะคะ แต่เขาจะเข้าใจว่าคนรักเขา เราไม่เคยป้อนคำว่า ดัง หรือมีคนติดตามเยอะ แต่จะบอกแค่ว่ามีคนรักเยอะ

- ทุกวันนี้เข้านอนพร้อมลูกตอน 2 ทุ่ม เวลานอนก็นอนเรียงกันเป็นตับ เพราะลูกชายจะต้องให้แม่นอนกอดทุกคืน

- สำหรับยายหนิง ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ แม่ชมบอกว่า เขาบอกว่ามันเป็นความสุขของเขา เป็นวิถีเขา แล้วพอมาอยู่กรุงเทพ เขาห่างไกลจากเรื่องแบบนี้ เลยอยากมีบั้นปลายที่อยากทำอะไรที่เป็นความสุข

- อย่างตอนที่ยายหนิงอยากซื้อที่ดิน ก็ทะเลาะกันเพราะเรารู้สึกว่าซื้อแพง และเราก็มองเรื่องการลงทุน ต่อยอดได้ในอนาคต แต่ยายหนิงบอกว่า เขาพอใจแบบนี้ ชอบแบบนี้ แต่เราก็เคารพเขา เราก็ต้องยอมเพราะเขาซื้อไปแล้ว โอนเรียบร้อย

- ส่วนที่ยายหนิงทำช่องยูทูบ ยายเขาก็มาบอกเองว่าอยากทำเพจ ก็เลยเซ็ตทีมให้ ทำดีๆ ไปเลย สวยๆ ตอนนี้ยายหนิงก็แฟนคลับทุกกลุ่มแล้ว มีลูกค้าเข้า มีรีวิวสินค้า

- ตอนนี้พวกเราอพยพกันไปอยู่ที่บ้านยายหนิง ซึ่งยายเขาก็มีความสุขมาก เราดูออกเลย

- ส่วนที่คอนโดเราตรวจเช็คแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์เราขึ้นไปดูเลย ซึ่งได้รับความเสียหายน้อยมาก แต่จะมีพวกเศษปูน พวกฝ้าที่อ่อนๆ หล่นลงมานิดหน่อย ส่วนตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหายเลย แต่จะเป็นเรื่องใจเรามากกว่า เชื่อว่าคนที่ผ่านเหตุการณ์นั้นมาจะมีความรู้สึกนิดนึง เลยคิดว่ารอให้ทุกอย่างมันเป๊ะๆ ก่อนค่อยกลับไปอยู่

- เด็กๆ เขาก็รีเควสอาหารให้คุณยาย ซึ่งคุณยายก็จะแฮปปี้ ทำอาหารให้หลาน

- ส่วนสามี คุณน็อต เขาดูแลตัวเองมากขึ้น สนใจในเรื่องสุขภาพ อยากจะดูแลตัวเอง ถ้าจะทำให้สม่ำเสมอเลยเปิดยิมเองเลย และเรามีลูกด้วยอยากอายุยืนนานๆ เราทำงานมาเก็บเงิน ก็อยากใช้เงินที่เราหามา แต่งตัวสวยๆ

- เมื่อถามว่า รู้สึกยังไงเป็นตัวแม่ของวงการบันเทิง ชมพู่บอกว่า จริงๆ ก็เป็นแม่ของสายฟ้า พายุ และแอบิเกล เท่านั้นแหละค่ะ แค่นั้นเลย