แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ พกคำตอบมาแบบไม่มีกั๊ก!! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักกับ นนกุล ชานน สันตินธรกุล ที่ย้อนกลับไป 3 ปีพร้อมแต่ง ซึ่งแว่วๆ มาว่าปีหน้าอาจจะมีข่าวดี? พร้อมเล่าโมเมนต์ในวันที่ปรับเข้าหากัน จนลบคำนิยามว่า "รักต่างวัย" ออกไป

และยังมาเล่าช็อตที่ลูกสาว น้องปีใหม่ พูดความในใจออกมา จนมีน้ำตาคลอ ซึ่งแม้แอฟเองเผยว่าแม้บางทีเขาอาจจะไม่ฟังที่พูด แต่เขาก็รู้สึก และเก็บไปใช้ในชีวิต จนเจ้าตัวออกปากว่าภูมิใจในตัวของลูกสาวคนนี้ ทั้งหมดนี้ในรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา ซินแสเป็นหนึ่ง และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกร

อัปเดตอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียว?

"คือเพิ่งไปผ่าตัดตามา คืออาการก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าเป็น คิดว่าแค่ตามีปัญหา ซึ่งที่บอกว่าไม่รู้ จนกว่าที่เราจะไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง และสาเหตุที่เราไปผ่า เพราะว่าตาข้างหนึ่งมันทำงานหนักกว่า เริ่มปวด เริ่มตาล้า จนถึงขั้นปวดไมเกรน ซึ่งเราจะคิดถึงแนวว่าต้องไปทำศัลยกรรมไหม ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปหาจักษุแพทย์ ซึ่งมันเป็นปัญหาเรื่องของสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องของความสวยความงาม สาเหตุเกิดจากได้หลายอย่าง ถ้าเราใช้เขาหนัก ทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้"

...

และตอนนี้ “น้องปีใหม่” อายุ 10 ขวบแล้ว ทั้งรบทั้งรัก?

"ถามว่าแอฟดุไหม มันก็แล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งก็ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องซ้อมดนตรี ทำการบ้าน เขาจะเป็นโรคแบบว่า กว่าจะไปทำ ต้องพูดหลายครั้ง ลีลาเยอะหน่อย ซึ่งไม้ตายที่บอกให้เขาหยุด ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มุกเดิมๆ มันไม่ค่อยได้ผล แล้วไม้ตายสุดก็คือถ้าเราหยุดบ่น เราเงียบ เขาก็จะเริ่มจ๋อย เข้ามาหาเอง เขามาขอโทษ (ยิ้ม) เมื่อตอนเด็กๆ อาจจะให้เข้ามุม แต่พอโตแล้ว ถ้าเขาไม่ทำตาม เราก็สั่งงดห้ามเขาใช้หน้าจอ"

เห็นว่ามีประสบการณ์คือ 1 วันเลี้ยงลูก เหมือนจะเป็นไบโพลาร์?

"เหตุการณ์มันคือหนึ่งวันพันกว่าเรื่อง พันอารมณ์ คือเด็กเขาอยู่กับปัจจุบัน อารมณ์ไหนก็คืออารมณ์นั้น เขาแสดงออกมาเลย แต่พอเขาหาย เขาก็หายเลย แต่เรากว่าจะเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ มันต้องใช้เวลา ซึ่งทำให้เราเรียนรู้ว่าการอยู่กับเด็ก เราต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปลงลึกมาก เดี๋ยวเขาก็หายเอง"

เห็นหลั่งน้ำตากับคำพูดของลูกในรายการของป๋าเต็ด?

"คือที่ไปออกรายการ เขาพูดออกมาจากใจเขาจริงๆ เพราะบางประโยค อย่างบางทีที่บอกว่าแม่ก็ไม่ได้ถูกตลอด มันก็ใช่อย่างที่เขาพูด แอฟก็เซอร์ไพรส์ เพราะปกติเราไม่ได้พูดอะไรกันแบบนี้ ทุกวันก็ตีกัน รบกัน รักกัน พอจบรายการ เราก็ยังแซวเขาเลยว่า คิดข้ามช็อตตอนที่แม่ไม่อยู่เลยเหรอ (ยิ้ม) แต่ทั้งหมดทั้งมวลในสิ่งที่เขาพูด ที่เราพูดไป เขาก็ฟังเรา เขาก็เชื่อในเรา แม้ในชีวิตประจำวัน แม้จะทำท่าไม่ค่อยฟัง แต่มันก็ทำให้เราดีใจ เพราะในที่สุดท้ายเราสอนมาทั้งหมด เขาก็ฟัง อยู่ๆ ให้แอฟไปถาม เขาก็คงไม่ตอบ"

แล้วหลังจากที่เขาพูด เรารู้สึกยังไง?

"มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ จบการที่ลูกตอบแบบนี้ ตอนที่จะไปสัมภาษณ์ เรารู้สึกตื่นเต้น การไปสัมภาษณ์รายการของป๋าเต็ด ใช้เวลา 2-3 ชม. และปีเข้ามาชั่วโมงสุดท้าย เราไม่รู้เลย ว่าเขาจะตอบอะไร เราแค่บอกเขาให้ตอบแบบธรรมชาติ อยากจะพูดอะไรก็พูด แต่ก็อยู่ในความเหมาะสม สุดท้ายมันก็มาเป็นอย่างนี้ แอฟก็ดีใจที่มันออกมาพอดี ตอบออกมาจากความจริงใจ และก็ต้องให้เครดิตน้าพุฒ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงมาทุกช่วงวัย การที่เขาอยู่ด้วยกัน การที่เขาเล่นกัน มันคือการสอน เขาชอบเล่น ชอบฟังน้าพุฒ"

ซึ่งอีกหนึ่งภาพก็คือน้องนนกุลและคุณปีเข้ากันได้ดีมาก?

"ก็…ค่ะ ไม่รู้จะตอบยังไง ย้อนกลับไปช่วงแรกๆ ปีเขาอาจจะยังเกรงใจ แต่ตอนหลังก็เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ตอนนี้ก็คือไม่ต่างจากแอฟ ทั้งรักทั้งรบกันตลอด (ยิ้ม) บางทีก็งอนกัน"

ซึ่งย้อนกลับไป อยากจะทราบว่าตอนไหนรู้สึกว่าลองเปิดใจคุยกับผู้ชายคนนี้?

"ตอนไหนไม่แน่ใจ แต่มันคงมากันเรื่อยๆ แทรกซึม ทำงานด้วยกัน ความสนิทมันคือภาคบังคับที่ต้องร่วมงานกัน ด้วยความที่เราเปิดใจคุย เขาเป็นคนตรงๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ลีลา หรือเราอาจจะเจอคนลีลาเยอะมาแล้ว (ยิ้ม) อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เพราะมีเรื่องอื่นในชีวิตเยอะแล้ว ทั้งเรื่องงาน เรื่องลูก เราอยากได้แค่พื้นที่ที่สบายใจ ปลอดภัย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นตัวของตัวเองได้เลย"

ช่องว่างระหว่างอายุ มันมีผลไหม?

"ณ ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องอายุ แต่ด้วยลักษณะนิสัย ว่าเราจะเรียนรู้กัน มันก็ต้องมีการปรับตัว เอาตรงๆ นะ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแก่ (ยิ้ม) อยากจะพูดตรงนี้ ว่าไม่จำเป็นจะต้องศึกษากับคนอายุเท่าไหร่ เพราะความรู้สึกข้างในตัวเอง หรือการดูแลตัวเอง การที่จะคบใครอายุเท่าไหร่ หรือการที่ว่าจะไม่มีใคร แอฟก็รู้สึกแบบนี้ เพื่อนแอฟก็เป็น แต่อย่างเมื่อก่อนคิดหรือว่าอายุ 30 จะเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่พอเรามา 40 พอเรามาถึงตรงนี้ ความรู้สึกมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม เพราะเราเองก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังทำงานเหมือนเดิม หน้าที่เรามันไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนสเตตัส"

...

รู้จักกันมา 3 ปี ตอนนี้เรียกแฟนได้ยัง?

"อยากเรียกอะไร ก็เรียกได้เลย (ยิ้ม) มันก็มาถึงรุ่นนี้แล้ว ไม่ต้องมาให้คำจำกัดความ จะเรียกแฟน จะเรียกคนคุย เรียกอะไรได้หมด (เป็นแฟนกันแล้วมีชื่อเรียกแทน หรือเสียงสองเสียงสามไหม?) ใครบอกว่าเป็นแล้ว (หัวเราะ) เพราะวันแรกเรียกยังไง วันนี้ก็เรียกเหมือนเดิม แอฟไม่ใช่เป็นคนกุ๊กกิ๊กเหมือนคู่พุฒจุ๋ย"

เวลาอยู่ด้วยกันจะต้องปรับไปทางไหน?

"คือนนเขาเป็นคนพูดน้อย น้อยกว่าแอฟ แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจ เขาไม่ได้มีศิลปะในการพูดมากเท่าไร บางทีอุ๊ย!! ตรงจังเลย บางทีก็อยากให้พูดอ้อมๆ บ้าง (ยิ้ม) ซึ่งแอฟก็เป็นคนปรับตัว และเขาก็เรียนรู้บางอย่าง มันอาจจะตรงไป"

เคยได้ยินสัมภาษณ์ว่า ถ้างอนกันอยู่ ห้ามพูดว่าโกรธอยู่หรือเปล่า?

"ไม่ได้ห้าม แต่เขาให้สัมภาษณ์ไปคือเขาจับจุด และเขาคิดเอง ถ้าเขาทักว่างอนเหรอ ก็จะตอบว่าไม่ คือก็รู้สึกว่า พอเราโตแล้ว เราก็ฟีดแบ็กตรงๆ หงุดหงิดก็คือหงุดหงิด แต่เขาจะเป็นแบบผู้ชายมากๆ ถ้าไม่รู้ตัวก็ไม่เป็นไร แต่ก็ควรหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร แต่คือแค่หงุดหงิดอย่าเพิ่งยุ่ง แต่สุดท้ายแล้วการพูดตรงๆ ของเขา มันก็มีข้อดี ดีกว่าการพูดอ้อมๆ เพราะเขาคิดวิเคราะห์แยกแยะมาแล้ว จะได้แก้ปัญหาได้"

...

มีคนอยากรู้ ว่าการมีแฟนเด็กและเป็นอมตะจริงไหม?

"พอดีเห็นจุ๋ยอมตะ แอฟก็อยากอมตะบ้าง (หัวเราะ)"

ปีหน้าแต่งไหม?

"ปีไหน สักปีหนึ่งนั่นแหละ (ยิ้ม) แล้วตามสคริปต์ที่ทีมงานถามเรื่องสามปี เพราะว่านนเคยไปพูด ว่าครบ 3 ปีแล้วแต่งเลย ซึ่ง 3 ปีมันคือการเรียนรู้กัน ซึ่งมันเป็นเดตไลน์ ว่าเราจะเรียนรู้กันถึงเมื่อไหร่ ไม่ใช่ว่า 3 ปีจะแต่ง ว่าจะ 3 ปีแล้วเราจะไปทางไหนกันดี เรามองเห็นจุดหมายปลายทางเหมือนกันไหม ซึ่งตอนนี้มันยังโอเคอยู่ ยังไปครบตามกำหนดที่เขาตั้งไว้ (ยิ้ม)"

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม