แม่สีดา พัวพิมล แม่ของ อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล พระเอกและนักแสดงชื่อดัง ได้จากไปอย่างกะทันหันจากอาการระบบหายใจและไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ภายในห้องพักของแมนชั่น ย่านลาดพร้าว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ในวัย 70 ปี สร้างความเสียใจให้กับคนรอบข้างอย่างมาก
ในวันนี้ 24 มี.ค. 2568 ทางครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจร่างของ แม่สีดา โดยช่วงเช้า โอ๊ต ลูกสาวของแม่สีดา ครอบครัว พร้อมด้วย ต่าย สายธาร ได้จัดพิธีทำบุญ นิมนต์พระสงฆ์สวดมาติกา ประกอบพิธีบังสุกุล และถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์ 10 รูป
ต่อมาในเวลา 12.00 น. ได้เคลื่อนร่างของแม่สีดา วนรอบเมรุ 3 ครั้ง ก่อนจะนำขึ้นเมรุ โดยมี พระสงฆ์เดินนำ 3 รูปโยงสายสิญจน์ ตามด้วย หลานชาย ถือกระถางธูป, ต่าย สายธาร ถือโล่รางวัลของแม่สีดา และ โอ๊ต ลูกสาว ถือภาพหน้าศพแม่สีดา ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในเวลา 13.00 น.
ซึ่งในขณะที่นำโลงแม่สีดาขึ้นวางบนเมรุ ต่าย สายธาร ซึ่งเป็นคนถือโล่รางวัลของแม่สีดา ได้วางลงก่อนเพื่อจะถวายสังฆทาน ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงโล่ตกลงบนพื้น ซึ่งทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย ด้าน โอ๊ต ลูกสาว ได้หันไปพูดกับต่าย สายธาร ว่า "แม่คงอยากได้รางวัลนี้ไปด้วย" เพราะรางวัลนี้เป็นรางวัลที่แม่ภูมิใจมาก เป็นรางวัลนักแสดงสมทบหญิงแห่งปี Thailand Box Office Awards 2024 จากบท แม่แสง ในภาพยนตร์ วิมานหนาม ซึ่งเป็นรางวัลแรกในชีวิตวงการบันเทิง 46 ปี ของแม่สีดา ซึ่งท่านเคยสั่งเสียไว้ให้เอาใส่ในโลงให้แม่แทนดอกไม้
...
สำหรับพิธีฌาปนกิจส่งแม่สีดาเป็นครั้งสุดท้าย ได้มีคนที่รัก คนที่เคยร่วมงาน และคนที่เคารพแม่มาร่วมงานจำนวนมาก
ซึ่งหลังจากที่เสร็จพิธีแล้ว ต่าย สายธาร ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง บอกว่า วันนี้มาร่วมส่งแม่สีดาไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดี เห็นพี่ๆ ในวงการบันเทิงมาเยอะมากๆ ตั้งแต่พี่ๆ ที่ต่ายยังเข้าวงการบันเทิงมาใหม่ๆ แค่พี่ๆ สื่อมากันเยอะ ก็อุ่นใจมากแล้ว สิ่งที่อยากจะบอกแม่สีดา รักแม่ ไม่อยากให้แม่ต้องห่วงอะไร
พรุ่งนี้จะมีการเก็บอัฐิกันในช่วงเช้า เสร็จแล้วจะเดินทางไปสัตหีบ แต่ขอเป็นงานภายในแบบส่วนตัวเพื่อที่ลูกๆ จะได้ทำหน้าที่ส่งแม่แบบเต็มที่ ซึ่งทางลูกๆ และญาติได้ตัดสินใจจะเอาอัฐิของแม่ไปลอยอังคาร
นอกจากนี้ โอ๊ต ลูกสาวของแม่สีดา ได้ฝากขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนและแฟนคลับของแม่สีดา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน หรือแม้แต่ทีมงาน รวมไปถึงเจ้าของตึกที่แม่สีดาได้อาศัยอยู่ และพี่คนที่ช่วยพังประตู กับพี่คนที่ช่วยส่งข้าวส่งน้ำ เพื่อนๆ และกัลยาณมิตรของแม่ที่มาร่วมงานในวันนี้และไม่ได้มาร่วมงาน ต่ายขอเป็นตัวแทนของโอ๊ตกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
...
ต่ายยังบอกอีกว่า คิดว่าตอนนี้แม่น่าจะได้เจอกับลูกชายแล้ว เพราะตนเองเพิ่งไปเปิดเจอรายการที่แม่เคยไปให้สัมภาษณ์ว่า อ๊อฟรอแม่นะ เดี๋ยวแม่ก็จะกลับไป ก็คงจะเจอกันแล้ว เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถามว่าเสียใจมั้ย คือคนเราการสูญเสียมันเป็นเรื่องที่เสียใจอยู่แล้ว แต่วันหนึ่งเราก็ต้องตามไป เพราะฉะนั้นเราก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีสติ
เมื่อถามว่า ความตั้งใจของแม่ที่อยากเอาโล่รางวัลใส่ไปด้วย ได้ทำตามที่แม่ปรารถนามั้ย ต่ายบอกว่า เท่าที่ทราบจะเอาโล่ไปลอยอังคารพรุ่งนี้ด้วย เพราะว่าถ้าเราเอาใส่เข้าไปมันจะหลอมละลายเพราะมันเป็นพลาสติก เดี๋ยวเอาไปลอยอังคารพรุ่งนี้ดีกว่า
คือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจใดๆ ก็แล้วแต่ เราจะให้เกียรติกับทางครอบครัว เราจะไม่ก้าวล่วง เพราะเป็นวินาทีของครอบครัว เวลาน้องเขามีอะไรจะมาปรึกษา เพราะตัวโอ๊ตเองเขาก็ไม่ใช่คนในสื่อ ต้องขอขอบคุณประชาชนหลายๆ คนที่ส่งกำลังใจมาให้น้อง
วันนี้ไม่คิดว่า วัดนี้ที่เราเคยมา เรามางานของอ๊อฟ และวันนี้เราก็มาส่งแม่ อ๊อฟมารับแม่ ไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นความตั้งใจของโอ๊ตด้วยที่อยากให้แม่ได้เจอกับพี่ชาย
...
ถามว่าได้ฝันถึงแม่บ้างมั้ย ต่ายบอกว่า ที่ผ่านมาไม่ได้นอนเลย จะฝันยังไง คือจริงๆ แล้วอยากให้แม่สีดาไปแบบไม่ต้องห่วง ถ้าเราฝันอาจจะเป็นจิตเราคิดไปเองรึเปล่า ไปแบบไม่ต้องห่วงนะแม่ หลับให้สบาย ไปแบบสวยๆ ไปเป็นนางฟ้า ไปพร้อมกับรางวัลนักแสดงคุณภาพ คิดว่าคนเราเวลาไปเอาอะไรไปไม่ได้หรอก นอกจากความดีที่ทำไว้ จะเห็นว่าคนรักแม่เยอะมากๆ
และต่ายยังได้กล่าวถึงแม่สีดาเป็นครั้งสุดท้ายว่า อยากขอบคุณที่เมตตา เอ็นดูหนูเหมือนลูกคนหนึ่ง หนูขอให้แม่อโหสิกรรมเวลาที่หนูทำอะไรก้าวล่วงไป หรือดุแม่บ้าง ก็เพราะหนูเป็นห่วง จากนี้ไปขอให้แม่ไปสู่สัมปรายภพที่ดี ส่วนโอ๊ต หนูก็รักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ไม่ต้องห่วงอะไรใดๆ ทั้งสิ้นเลย อยู่ทางนี้ก็จะคิดถึงคนทางนั้น แม่ไม่ได้ไปไหน แม่แค่ย้ายมาอยู่ในความทรงจำของเราทุกคนแค่นั้นเอง
...
