เป็นนักธุรกิจสาวคนเก่งแห่งยุคเลยก็ว่าได้ สำหรับ เมย์ ดร.วาสนา อินทะแสง หรือ มาดามเมนี่ นักธุรกิจสาวสวย CEO REVOMED ที่เคยโด่งดังในโลกออนไลน์กับการโพสต์ภาพคู่กับกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูหลายใบราวกับอยู่ในช็อปจนสร้างความฮือฮามาแล้ว
โดยในรายการ เคหสถานบานปลาย ที่ดำเนินรายการโดย เผือก พงศธร กับ ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ได้เคยพาไปทัวร์บ้านสุดหรูหรือคฤหาสน์ของเมย์มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ต้องบอกเลยว่าแต่ละซอกแต่ละมุม อลังการสุดๆ แม้กระทั่งชุดจานชามบนโต๊ะอาหาร ที่เมย์บอกว่า เซ็ตหนึ่งประมาณ 2 หมื่น มีทั้งหมด 20 เซ็ตประมาณ 4 แสนบาทเลยทีเดียว
สำหรับชีวิตของ เมย์ วาสนา นั้น ไม่ได้สวยหรูหรือรวยมาตั้งแต่เกิด เธอเป็นลูกชาวนาในครอบครัวยากจน และจบการศึกษาที่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากครอบครัวไม่สามารถส่งเธอเรียนต่อได้ หลังจากนั้น เธอตัดสินใจย้ายมาทำงานในกรุงเทพฯ
เริ่มต้นด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารตามสั่ง ก่อนจะมีโอกาสทำงานในร้านอาหารย่านหลังสวน ซึ่งทำให้เธอได้รับทิป 3,000 บาท และต่างหูทับทิมจากลูกค้าต่างชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เธอเริ่มคิดถึงการให้บริการด้วยความใส่ใจและทำให้ลูกค้าประทับใจ
...
เมื่อทำงานเก็บเงินจนมีโอกาสส่งตัวเองเรียนต่อ เมย์เริ่มต้นการทำงานในตำแหน่งเซลล์ขายประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นงานที่เธอไม่เคยมีความรู้มาก่อน แต่ทักษะการขายที่โดดเด่นทำให้เธอสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี
ต่อมาบริษัทยาได้เห็นศักยภาพและมอบหมายให้เมย์เป็นผู้บุกเบิกตลาดยาในภาคอีสาน และเธอก็ประสบความสำเร็จ ก่อนจะลาออกมาเปิดบริษัทที่ให้บริการด้านการผลิตสินค้าความงามและอาหารเสริมครบวงจร แม้ในช่วงแรกจะต้องเผชิญกับหนี้สิน 30 ล้านบาทจากการสร้างโรงงาน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการบริหารที่ดี ทำให้เธอสามารถสร้างโรงงานแห่งที่สองได้สำเร็จ
ส่วนของบ้านที่เมย์อยู่ในปัจจุบันนั้น หลังใหญ่โตสุดๆ จนหลายๆ คนต่างก็เรียกว่า คฤหาสน์ ซึ่ง เมย์ บอกว่า บ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านตัวอย่างมาก่อน ราคาที่ตั้งไว้ 165 ล้าน แต่ต่อราคาเหลือ 100 กว่าล้าน อยู่ในโครงการหมู่บ้านมีพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ เลยทีเดียว รอบบ้านมีทั้งสวนที่จัดในสไตล์ Spanish Courtyard ซึ่งสวนข้างบ้านราคาเกือบ 2 ล้าน ส่วนดอกไม้ปลอมที่ใช้พันเสาในสวนราคา 5 หมื่นบาท
และด้วยความที่เป็นบ้านตัวอย่าง อาจจะมีการสึกหรอมาบ้างเพราะต้องรับแขกที่มาดูบ้าน เลยทำให้เมย์ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นใหม่ พร้อมขัดให้เงาวับเหมือนในห้างสรรพสินค้า แค่เปลี่ยนพื้นทั้งหมดของตัวบ้านก็ราคาประมาณ 2 ล้านบาท
ในส่วนของโต๊ะกินข้าว ทางโครงการมีมาให้อยู่แล้ว แต่แค่เปลี่ยนท็อปของโต๊ะ และขอบโต๊ะเป็นอลูมิเนียม ซึ่งเซ็ตจานอาหารเมย์บอกว่า เซ็ตละ 2 หมื่น มีทั้งหมด 20 เซ็ตเป็น 4 แสน โต๊ะทานข้าว 1 แสน เก้าอี้ 5 แสน รวมทั้งหมดของส่วนโต๊ะทานอาหารทั้งหมด 1 ล้านกว่าบาท
เมย์ เผยว่าสิ่งที่เป็นแนวทางตกแต่งบ้านหลังนี้ทั้งหมดก็คือ มาจากความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ย มีซินแสประจำตัว และโรงงานแห่งแรกที่สร้างขึ้นก็มาจากหลักฮวงจุ้ยแบบ 100% ซึ่งเธอการันตีความเชื่อของตัวเองว่า ความสามารถมันต้องมี ความอดทนพยายามมุ่งมั่นมันก็ต้องมี แต่เรื่องเฮงมันก็สำคัญ สายมูนิดนึง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากยอดขายหลัก 10 เป็น 500 เลย
...
เมย์ บอกว่าห้องที่เป็นห้องทำให้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ก็คือ ห้องน้ำ ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่เซลล์ขายบ้านภูมิใจนำเสนอมาก เขาบอกว่าสุขภัณฑ์ทั้งหมดภายในห้องน้ำมีราคารวมกว่า 3 ล้าน มีทั้งซาวน่าในห้อง อ่างจากุซซี่ ซึ่งทั้งหมดตกแต่งด้วยแบรนด์ Armani จากที่มีมาทั้งหมดเพิ่งใช้ 1 ครั้งถ้วน
นอกจากนี้ เมย์ ยังพาไปดูห้องเก็บกระเป๋า ที่มีกระเป๋าใบแบรนด์เนมใบโปรด 4 ใบ ราคาเท่ากับบ้าน 4 หลัง 50 ล้าน ซึ่งกระเป๋าทั้ง 4 ใบเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่หาซื้อในช็อปไม่ได้ เมย์บอกว่า ของที่ซื้อเราไม่ได้ซื้อสุรุ่ยสุร่าย แต่ว่ากระเป๋า นาฬิกาที่เราซื้อ เราซื้อรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น แล้วมันเป็นสินทรัพย์ สามารถแปลงเป็นเงินได้ เพราะราคามันมีแต่ขึ้นกับขึ้น
...
และเมย์ยังได้หยิบสร้อยงู BVLGARI ตอนนั้นซื้อมาในราคา 4 ล้าน พอผ่านไป 1 ปี ราคาขึ้นเป็น 5 ล้านแล้ว
เมย์ ยังเผยอีกว่า เหตุผลที่มาซื้อบ้านหลังนี้ ความจริงซื้อบ้านอีกหลังของอีกโครงการไว้แล้วในราคา 50 ล้าน แต่ต้องรอตกแต่งอีก 2 ปี เลยมาเจอหลังนี้ ตัดสินใจซื้อเลยเพราะไม่อยากรอ ส่วนบ้านหลังนั้น พอตกแต่งเสร็จก็ได้ทำการขายไปแล้ว ได้กำไรด้วย
หลายคนที่ได้ดูคลิปดังกล่าวต่างเข้ามาชื่นชมในความเก่ง ความพยายามของเมย์กันจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่า คนนี้เก่งจริง กว่าจะได้มาสุดยอดมาก, เป็นผู้หญิงที่เก่งมากค่ะ ติดตามและชื่นชมมาตลอดเลยค่ะ, กว่าเค้าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย เก่งมากๆค่ะ ชื่นชมเลย เป็นต้น
...