หลังจากที่ เมย์ วาสนา นักธุรกิจสาวได้ออกมาประกาศตามหาทรัพย์สิน 62 ล้านที่ถูกดาราสาวยืมของไปแต่ไม่คืน ล่าสุด เมย์ ได้มานั่งเปิดใจในรายการ โหนกระแส พร้อมกับย้อนเล่าถึงวันแรกรู้จัก ดิว อริสรา วันแรก ไปจนถึงการยืมเงิน ยืมของ อีกทั้ง ดิว ยังได้อ้างถึง ซุง ศตาวิน ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่ไปยืมเงินมา แต่ถูก ซุง ทวงเงินคืน จนต้องมายืมเงิน เมย์ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์ดราม่าทรัพย์สิน 62 ล้าน

- เมย์ ยืนยันให้ดิวไปจริงๆ

- เมย์ เผยทำธุรกิจ ทำโรงงานรับผลิตอาหารเสริม และยังมีบริษัทรับทำเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์อีกด้วย

- เมย์ เผยรู้จัก ดิว จากน้องที่เป็นลูกค้ากัน และดิวอยากผลิตสินค้า เลยได้รู้จักกัน 2 ปีที่ผ่านมา รู้จักดิวในฐานะลูกค้า เพื่อมีวัตถุประสงค์สั่งผลิตสินค้าที่โรงงาน ตอนแรกดิวมาติดต่อคนเดียว ตอนหลังเพิ่งรู้ว่า ดิวมีพาร์ทเนอร์ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนแรกทราบแค่ว่าดิวติดต่อทำคนเดียว ไม่ได้ลงทุนด้วยกัน แต่ดิวเป็นลูกค้า จ้างผลิตสินค้าให้ ดิวมัดจำผลิตสินค้า 22 ล้าน โอนมา 2 ครั้ง 10 ล้านกับ 11 ล้านกว่าๆ แต่คนที่โอนมาคือบริษัทดิว ที่ทำร่วมกับเพื่อน ภายหลังเมย์เพิ่งมาทราบว่า คนที่โอนเงินมาจริงๆ คือพาร์ทเนอร์ของดิวเขาลงทุนเอง 100% และดิวไม่ได้ร่วมลงทุน

...

- จุดเริ่มต้นของการยืมของคือวันที่ 6 ส.ค. 2567 เกิดจากการโทรไลน์ ดิวโทรมาเพื่อบอกว่า เขาเดือดร้อนจากการเป็นหนี้ ซุง ศตาวิน 20 ล้าน แล้วบอกว่าถ้าไม่ได้เงินคืนน้อง เดือดร้อนจะโดนแฉ เพราะซุงไม่ยอมเลย

- เมย์เลยถามว่า ทำไมไม่เอาจากสามี แต่ดิวเขาเลยจะขอเอาเงินมัดจำคืนก่อนได้ไหม ขอยืมแค่ 20 วัน แต่ในทางปฏิบัติมันไม่ได้ เพราะบริษัทดิวยังติดหนี้บริษัทเมย์อยู่อีกครึ่งหนึ่ง เอาสินค้าไป แต่เงินยังจ่ายไม่ครบ

- จากนั้นเขาเริ่มยืมเงิน เขาก็เลยถามว่า พี่เมย์มีอย่างอื่นมั้ย เมย์เลยถามว่า แล้วกระเป๋า รถยนต์ ทำไมไม่เอาจากสามี ดิวบอกว่า เรื่องนี้เซบรู้ไม่ได้ เดี๋ยวมีปัญหากับสามี และเขาท้องอยู่ เขาเครียดมาก เขาเป็นโควิด เขากลัวจะแท้ง

- เลยคิดว่า เอาของเลยดีกว่า ที่จะไปช่วยแก้ปัญหาได้

- ถามว่าทำไมถึงไว้ใจ เมย์ บอกว่า พี่ เขาคือดิว อริสรา มีเพ้นเฮาส์เป็นพันๆ ล้าน การใช้ชีวิต เขาบอกว่าช็อตเงิน 20 วัน เดี๋ยวเขาก็ให้คืน ถ้าแย่ๆ เดี๋ยวสามีเขาก็หามาคืนให้สิ บอกตรงๆ ดิว อริสรา ที่ทุกคนรู้จักเขามานานมาก มันไม่มีความรู้สึกว่าจะไม่ได้คืน จากใจเลยค่ะ ซึ่งต้นทุนทางสังคมเขาสูงมาก เปิดใจไอจีแล้วเห็นเขาใช้ชีวิตแบบนี้

- สมการที่เขาจะไม่คืน เราไม่ได้คิด และมั่นใจว่าเขาไม่กล้าเสี่ยงชื่อเสียง และเราไม่อนุญาตให้เอาไปจำนำและขายตั้งแต่ต้น

- ถามว่า เขามายืมเงิน แต่เราไม่มี เขาก็ถามว่าแล้วเรามีของมั้ย เขาจะไปเอาไปทำไม เมย์ บอกว่า เขาบอกกับเมย์จะเอาของ แต่ไม่ได้เอาไปให้ซุงนะคะ เอาไปให้พี่คนหนึ่งที่น่าเชื่อถือมากๆ ที่เป็นคนที่ทำให้เขารู้จักกับซุง และดิวก็เชื่อถือพี่คนนี้มากๆ และเป็นคนที่น่าเชื่อถือในสังคมมากๆ เขาบอกว่า ของพี่เมย์จะถูกเก็บไว้อย่างดีถ้าเอาไปให้คนนี้ แต่ถ้าเอาไปให้ซุงจะโดนยึดของนะ ก็เหมือนว่า เงิน 20 ล้านซุงไม่ต้องห่วงนะ เพราะว่าเรามีของไปวางค้ำประกันถ้าเอาของไปให้พี่คนนี้ซึ่งซุงนับถือ

- หลังจากนั้นก็ให้ของน้องไปชิ้นแรกคือ กระเป๋า 2 ใบกับสร้อยบูลการี 15 ล้าน และสร้อย Lotus ที่มีชิ้นเดียวในโลกที่เพิ่งไปประมูลมา ก็ให้ดาราคนนี้ไปเหมือนกัน สุดท้ายเป็นนาฬิกา Richard Mille มูลค่า 13.8 ล้าน อันนี้ก็ให้เขาไปเหมือนกัน เพราะดิวบอกว่า ทางซุงไม่ยอม มูลค่ามันไม่พอ เราก็เลยเพิ่มมูลค่าของไปให้ ตอนแรกจะเอานาฬิกาปาเต๊ะ มูลค่า 3 ล้านไปให้ แต่เขาบอกมันไม่พอ

- เหตุผลที่ยอมช่วยก็คือคนเราจะช่วยมันก็ต้องช่วยให้เขาพ้น เราก็เคยอยู่ในจุดที่ลำบาก เคยไปโรงรับจำนำ เราก็คิดว่าน้องเขาลำบาก เราก็ต้องช่วยให้เขาพ้น เลยต้องมีการเพิ่มของให้เขา

- ที่ได้ตัดสินใจเอาของให้ดิวยืมไป เพื่อเอาไปไว้ให้แก้ปัญหา เป็นหลักประกันกับบุคคลที่ 3 ที่น่าเชื่อถือได้ โดยมีข้อกำหนดว่า ห้ามจำนำ ห้ามขายตั้งแต่แรก และสร้อยเราเด่นมาก เลยบอกน้องว่า ห้ามเอาไปจำนำเด็ดขาดนะ พี่รักของพี่

- ความรู้สึกที่ให้ คือ ประโยคที่เขาบอกว่า กราบขอบคุณแม่มากๆ จะไม่ลืมบุญคุณทุกอย่าง รอดทุกอย่างมาได้ จะไม่ลืมแม่ไปตลอดชีวิต

...