ย้ายถิ่นไปลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดนครนายก สำหรับอดีตพระเอกหนุ่ม น้ำ รพีภัทร ที่ตอนนี้ได้ทำฟาร์มไก่ชน และยังเลี้ยงควายประกวดอีกด้วย
ล่าสุดรายการ ตีท้ายครัว ได้บุกไปถึงฟาร์มไก่ชนของ น้ำ รพีภัทร ที่จังหวัดนครนายก ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ น้ำเผยจุดเริ่มต้นที่มาทำฟาร์มไก่ชน บอกว่า
- เริ่มเลี้ยงไก่ชนตั้งแต่ 10 ขวบ ที่นครนายก ตอนนั้นแอบเอาไก่ของตาไปชนทุกเสาร์-อาทิตย์ พอกลับมาบ้าน ไก่สภาพดูไม่ได้เลย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้คิดว่า ถ้าจะเล่นจริงจัง คงต้องมีไก่เป็นของตัวเอง เลยเริ่มเก็บเงิน มีแค่ 200 บาทก็ลุยแล้ว ทำไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมีคอกไก่ของตัวเอง จากวันนั้นถึงตอนนี้เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่เลี้ยงไก่ชน
- แต่พอเข้าวงการบันเทิง ต้องไปเรียนการแสดง ไม่มีเวลา ก็เลยต้องแจกไก่ให้คนอื่นไปหมด พอถึงช่วงที่เคว้งๆ อกหัก บวกกับยังไม่มีครอบครัว ก็มานั่งคิดว่ามีอะไรให้ทำบ้าง เลยกลับมาเลี้ยงไก่อีกครั้ง นับจนถึงวันนี้ ก็ 15 ปีแล้ว
...
- น้ำเปรียบไก่เซียนมาก แค่อุ้มก็รู้แล้วว่าไก่ตัวนี้สู้ไหวไหม แถมเย็บแผลเป็น โดปยาเป็น ครบเครื่องเรื่องไก่ชน
- นอกจากไก่ชน ก็ยังเลี้ยงควายด้วย มีทั้งควายแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ และควายประกวด ตอนแรกซื้อมาตัวละ 5 แสน - 1 ล้าน แต่เดี๋ยวนี้ราคาขึ้นไปถึง 5-8 ล้านแล้ว ถ้าเป็นพ่อพันธุ์ก็เคยซื้อมาตัวละ 2 ล้าน ขายไปได้ 18 ล้านก็มี
- รพีภัทรฟาร์มแข่งไก่ชนมาเยอะ ชนะมาหลายสนาม มีโรงเลี้ยง มีคอกฝึกไก่จริงจัง เดิมพันสูงสุดที่เคยทำคือ 70 ล้าน ข้างละ 35 ล้าน (แต่ไม่ได้ลงคนเดียว เป็นการเดิมพันแบบคณะ) ตอนแรกเล่นแค่หลักพัน สุดท้ายก็ไปถึงหลักล้าน
- นอกจากขายควาย ก็มีขายน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ให้เกษตรกรที่อยากพัฒนาสายพันธุ์เหมือนกัน แต่ก็มีเรื่องที่เจ็บปวดเหมือนกันคือ ครั้งหนึ่ง ควายแม่พันธุ์มันแท้งลูก ออกมาเป็นลูกแฝด คลอดออกมา แต่สุดท้ายไม่รอด เสียใจมาก ถึงกับเมาตกบ้านจากชั้น 2 ตกลงมาพื้นเป็นรอยคนเลย
- น้ำเผยว่า ช่วงที่สร้างบ้านที่นครนายก ก็ไม่ได้รับงานละครแล้ว เริ่มโฟกัสกับครอบครัว และเริ่มแข่งไก่ชนจริงจัง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตกับไก่ ควาย แพะ และสิ่งครอบครัว สร้างอาณาจักรของตัวเอง
- โดยบ้านหลังนี้เป็นการออกแบบขึ้นเอง เอารูปมาคุยกับช่าง นึกถึงบ้านสไตล์ต่างจังหวัด โล่งๆ บรรยากาศดีโดยเฉพาะช่วงเช้ากับช่วงเย็น
- ด้าน มินตรา ภรรยาของ น้ำ ได้เผยถึงสิ่งที่ทำให้เลือกที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้ บอกว่า เกิดจากการที่น้ำเองเป็นคนถามว่า “ถ้าพี่ไปอยู่ต่างจังหวัดหนูจะมาอยู่ด้วยมั้ย” เราก็ตอบว่า “ได้ พี่อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น” ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไปไหน ไปด้วยทุกที่เลย
- เวลาน้ำสังสรรค์ก็มีบางทีที่มินตราจะมีว่าบ้าง แต่เหมือนเราชินแล้ว ก็ปล่อยเลยตามเลย หมายถึงว่าเราไปด้วย ไปด้วยทุกที่ตลอด
...
- ตัวน้ำเองค่อนข้างที่จะดื่มเยอะ มีวิธีการดูแลสุขภาพให้บาลานซ์ คือการออกกำลังกาย เตะบอล มีบ้างที่ลูกชายอย่าง โอเชียน จะช่วยพยุงพ่อขึ้นบ้านหลังกลับจากดื่ม
- มินตรา ได้เผยครั้งแรกที่เจอกับ น้ำ รพีภัทร จากการประกวดดัชชี่บริษัทเดียวกัน เจอกันที่ออฟฟิศ
- มาตอนนี้ น้ำ ไม่คิดจะมีลูกเพิ่มแล้ว เพราะภรรยาทำหมันแล้ว
- จากคำที่ว่า “หมดยุค เป็นดาราที่ตกแล้ว กลับมาอยู่บ้าน” สำหรับน้ำ เราอาจจะเป็นยุค manual ถ้าถามถึงเทคโนโลยี น้อยมากที่ทำเป็น ตกยุคอาจจะไม่ทันสมัยในการใช้สื่อ เดี๋ยวนี้ทุกคนสามารถที่จะเป็นดาราได้หมด มีหน้าสื่อของตัวเอง แต่เมื่อก่อนเราเป็นยุคที่ต้องรองานละคร นักแสดงจะให้คนเห็นเยอะก็ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้เค้ามีสื่อของเค้าเอง อาจจะเป็นคนละยุคสมัย
- ที่น้ำบอกว่า จะเปิด Buffalo Hotel แล้วก็รับฝากเลี้ยงควาย ตั้งแต่มีพ่อพันธุ์เข้ามา ตัวมหาทรัพย์เข้ามา คอกก็จะเหลือ 2 คอก สำหรับคนที่มีแม่ควายที่จะมาผสมพันธุ์ก่อนที่จะตกไข่ สามารถนำมาฝากได้ 3 วัน
- การที่น้ำย้อนกลับมาใช้ชีวิตแบบนี้ น้ำเองมองว่ามันเป็นสุขที่พอดีสำหรับน้ำมากเลย เพราะว่าเราได้อยู่กับกิจกรรมที่เรารัก ได้อยู่กับลูกเรา ไม่ต้องไปไหน อากาศก็ดี สำหรับน้ำมันเลยพอดี
...
- ชีวิตเดิมกับเพื่อนฝูงก็ยังคงเป็นอยู่ หลายๆ คนที่คุย เหมือนเค้าต้องการ เหมือนถวินหาว่าอยากจะเป็นอย่างงี้ถ้าเป็นคนต่างจังหวัดนะ เดี๋ยวนี้เหมือนเวลาที่คนใช้ชีวิตกับเมือง เมื่อหมดพลังแล้ว พอมาอยู่กับธรรมชาติ ก็เหมือนได้ชาร์จพลัง
- ตัวน้ำเองเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้คนมาสนใจอย่างเรื่องไก่ หรือเรื่องควาย แต่จริงๆ แล้วเราต้องเริ่มจากรักก่อน ตัวน้ำก็เริ่มจากรักไก่ รักควาย เราก็เรียนรู้กับเค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยึดเค้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปด้วยเลย ต้องศึกษาไปด้วย ถ้าเราไม่รู้จักกันก็คงไปกันยากถ้าไม่เริ่มจากความรักก่อนแต่ถ้าครอบครัวไม่เข้าใจเราก็เรื่องใหญ่เหมือนกัน เราก็ได้ภรรยาที่เค้าเข้าใจในสิ่งที่ชอบ
- จริงๆ เกษตรกรรมมีทั้งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ มันก็แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน แต่ตัวน้ำเองชอบเลี้ยงสัตว์ก็เลยมาทิศทางนี้ ก็ลองดูว่าตัวเองชอบอะไร พื้นที่ของตัวเองเหมาะกับอะไร แล้วก็ดูตลาดว่าต้องการอะไร แต่ถ้าเลี้ยงเพื่อใจรักก็อีกรูปแบบนึง แต่สำหรับน้ำเอง สามารถที่จะรักด้วยแล้วก็สามารถที่จะสร้างเป็นอาชีพไปด้วย มันก็ต้องดูทิศทางความต้องการด้วย
...
- ส่วนใหญ่ตอนนี้เกษตรกรรม เค้าสร้างแบรนด์ตัวเอง ถึงจะสามารถที่จะชูผลิตภัณฑ์การเกษตรของเราให้มีชื่อเสียงได้ สามารถที่จะดูควบคุมต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำได้ ถึงจะสามารถทำเป็นอาชีพได้