หลังจากรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 สัมภาษณ์ บอส เอวหวาน แดนเซอร์ของลูกทุ่งสาวแซ่บ ลำไย ไหทองคำ ที่มีประเด็นเรื่องเคยคุยกับลำไย ก่อนที่ โม แฟนสาวของบอสในตอนนั้น จะจับได้ ซึ่งบอสก็ยอมรับว่าโกหกลำไยว่าเลิกกับโมไปแล้ว สุดท้ายมีการจ่ายเงิน 2 ล้านบาทให้โม และได้ทำสัญญากันไว้

จากนั้นทางรายการโฟนอิน ประจักษ์ชัย ไหทองคำ นายห้างค่ายไหทองคำ เร็คคอร์ด ถึงเรื่องการทำสัญญาระหว่างค่ายไหทองคำ (ผู้ให้สัญญา) และโม อดีตแฟนของบอส (ผู้รับสัญญา) ถึงเรื่องเงิน 2 ล้าน และหากผิดสัญญา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา และยินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท
อีกทั้งมีการเปิดเผยภาพบันทึกข้อตกลงยุติปัญหาและข้อพิพาทต่างๆ ที่โมเซ็นยินยอมกับค่ายไหทองคำ ลงชื่อคุณแอน ผู้ให้สัญญา ลงชื่อบอสซึ่งเป็นพยาน และลงชื่อ โม ผู้รับสัญญา และลงชื่อพี่ชายของโมเป็นพยาน โดยปิดรายละเอียดส่วนตัว และหลังจากนั้นประจักษ์ชัยโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “#สรุปไหทองคำฟ้อง20ล้าน..” จนเกิดกระแสร้อนในโซเชียล
...

แต่งานนี้ก็เกิดกระแสวิจารณ์ว่าข้อความในสัญญาพิมพ์ผิดหลายจุด โดยเฉพาะในส่วนข้อความที่ต้องบอกว่า "ยินยอมให้ “ผู้ให้สัญญา” ดำเนินการทางกฎหมาย" กลายเป็น "ยินยอมให้ “ผู้รับสัญญา” ดำเนินการทางกฎหมาย" จนหลายคนสงสัยว่าการพิมพ์สัญญาผิดจะทำให้สัญญากลายเป็นโมฆะหรือไม่

ซึ่งในกรณีนี้ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ไลฟ์สดชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางเพจ ทนายคลายทุกข์ โดยบอกว่า “ที่มีนักข่าวถามผมว่าเขาพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกจากผู้ให้สัญญาเป็นผู้รับสัญญา อย่างนี้จะไม่สามารถบังคับได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวครับ ดูเนื้อหาโดยรวมว่ามันเกิดอะไรขึ้นว่าใครไปเป็นชู้สาวยังไง ใครจ่ายเงิน ใครได้รับเงิน ใครมีคลิป ใครต้องลบคลิป เขาดูจากภาพรวมของสัญญา
ดังนั้นการพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกระหว่าง “ผู้ให้สัญญา” กับ “ผู้รับสัญญา” จึงไม่สามารถทำให้สัญญาเป็นโมฆะ ก็สามารถบังคับได้ ฟ้องร้องได้ ดังนั้นใครที่เปิดเผยเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวและไปลงชื่อเซ็นชื่อไว้ ก็ต้องโดนนายห้างประจักษ์ชัยฟ้องแน่นอน 20 ล้านครับ ได้ไป 2 ล้านจะคุ้มมั้ยเนี่ย โดนฟ้อง 20 ล้าน”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม