เป็นอีกหนึ่งคนที่มีชื่ออยู่ในหน้าสื่อบ่อยครั้ง สำหรับ ครูไพบูลย์ แสงเดือน ที่ไม่ว่าจะทำอะไร ก็เป็นที่สนใจของชาวโซเชียลอยู่บ่อยๆ จนในบางครั้งมักจะเจอดราม่า หรือโดนบูลลี่ พร้อมกับล้วงหัวใจ ว่าตอนนี้โสดหรือมีแฟนแล้วกันแน่ ซึ่ง ครูไพบูลย์ ได้เปิดใจเรื่องนี้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน 31 เผยว่า
"มีคนถามผมตลอดนะว่าเคยอ่านคอมเมนต์ไหม ผมอ่านนะ บางทีก็อยากรู้คนที่ด่าเราคือใคร ผมก็เข้าไปดูเลย ผมก็ขี้เสือ_เหมือนกัน เธอเป็นใครหรอ คุณภาพชีวิตเธอเป็นยังไง บางคนเพิ่งเลิกกับผัวมา บางคนเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว ไม่ฉันไม่โต้ตอบ ฉันให้เธอด่าเลย แล้วทุกวันนี้ มันมีบางคนที่ผมเอากลับมาเป็น fc ผมเยอะ"
เมื่อถามว่า น้อยใจมั้ย ทำอะไรก็ดูผิดไปหมด คนไม่ชอบเรา ครูไพบูลย์ บอกว่า
"มีครับ เคยท้อมากๆ ดาวน์มาก จนผมไม่ทำอะไรนานหลายเดือนเลย ช่วงที่เลิกรากันใหม่ๆ ทำอะไรไม่ได้ งานมันไม่ดี ไม่ได้มีเงินมากถึงขนาดนั้น ช่วงที่ผมออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส คือช่วงนั้นไม่มีงานเลย ก็ดื่ม เที่ยว ไม่มีรายได้เลย แต่สุดท้ายก็ดึงตัวเองกลับมา โชคดีที่มีเพื่อนที่ทำธุรกิจออนไลน์"
...
นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้ฝากบอกคนที่บูลลี่ว่า "คืออยากจะบอกว่าขอบคุณ ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่ดูพัฒนาการของผม ผมจะทำให้คุณเห็น เมื่อก่อนกับสิ่งที่เป็นอนาคต ฉันจะพัฒนาตัวฉันเอง คุณไม่ต้องพัฒนาก็ได้ รอดูอยู่ที่เดิม แล้วฉันจะขอบคุณที่รอดูฉัน"
ส่วนสภาพหัวใจในตอนนี้ ครูไพบูลย์ บอกว่า ยังโสดอยู่ แต่ก็มีคนเข้ามาคุยเรื่อยๆ ซึ่งก็แทบจะไม่คุยกับใคร เพราะช่วงนี้ทำงานหนักมาก แต่งตัววันนึงก็ปาไป 2-3 ชั่วโมงแล้ว แล้วมันยากตรงใส่ชุด ใส่ยังไงให้เข้ากับเราได้ สรีระเรายังไม่ตอบรับโจทย์ของความเป็นผู้หญิง
ยอมรับว่ามีผู้หญิงหลายคนอยากเข้ามาคุย แต่ด้วยข่าวก่อนหน้านี้ ทำให้เขาไม่อยากเข้ามา เพราะคนคิดว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง
เพราะเราเคยมีแฟน อายุก็ไม่ได้ห่างกันเยอะนะ แต่ดูเหมือนว่าเขาชอบเด็กหรือเปล่า เขามีปัญหากันมันจบหรือยัง ผู้หญิงคนใหม่ที่จะเข้ามา เขาเลยมองว่าฉันควรจะเข้าไปดีไหม ก็มีมองๆ มา แล้วมีหลายคนอยากคุยด้วย แต่เราก็ให้โอกาสทุกคน รวมถึงให้โอกาสตัวเองด้วย
ยอมรับว่าเหงา แต่มันเหมือนมาแป๊บเดียวแล้วก็ไป บางวันแทบลืมไปเลยว่า เราโสด เราเหงา เพราะในชีวิตกิจกรรมเราเยอะมาก ถ่ายงาน ตื่นเช้ามาถ้ามีกำลังก็ไปเข้ายิม แล้วทำงาน อยู่กับเพื่อน เพราะเพื่อนไม่ค่อยชอบนอน นั่งคุยกันยันสว่าง ตื่นขึ้นมาก็ชวนทำงาน
นอกจากนี้ ครูไพบูลย์ ได้เล่าถึงธุรกิจที่เคยทำมา พร้อมยอมรับว่า ตอนนี้เจ๊งและเลิกทำหมดแล้ว เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้ ทำให้เสียเงินไปหลายล้าน โดยเล่าว่า
- ธุรกิจลูกชิ้นมีหมูเราพักไว้ก่อน ต้นทุนมันสูง แล้วการขนส่งมีปัญหา เพราะมันเป็นของสด ต้องแช่ฟิต ใส่โฟม ใส่น้ำแข็ง เยอะแยะมากมาย เลยพักไว้ก่อน มาทำอะไรที่มันง่าย
- ธุรกิจร้านอาหารกึ่งผับที่เคยลงทุนทำที่ประเทศลาว ก็สูญเงินไปกว่า 5 ล้าน เรามีเพื่อน มีพี่ เป็นคนในพื้นที่ตรงนั้น ตอนแรกทำ 3-4 คน เพราะมันเป็นร้านไม่ใหญ่ แต่จะเป็นสองชั้น สไตล์คนลาวเขาชอบ
- ช่วงแรกก็เหมือนได้ ช่วง 3-4 เดือนมันได้ แต่พอหลังๆ มา เห็นค่าใช้จ่ายมากขึ้น แล้วค่าใช้จ่ายที่ผมลงทุนไปผมเอากลับมาไม่ได้แล้ว ของที่ซื้อไว้ก็เอากลับมาไม่ได้
- ทำไปได้ประมาณปีหนึ่ง เพิ่งเลิกทำเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ตอนแรกปล่อยให้คนมาเซ้ง ก็ไม่มีใครเอา เพราะยอดมันสูง เราลงทุนไป 4-5 ล้าน ใครเขาจะมาเซ้งราคานี้
- ยอมรับว่าเครียดมาก เราไม่มีความรู้ด้วย แต่ด้วยความที่เราอยากทำ มีความฝันว่าฉันอยากทำผับนะ แต่พอทำไปจริงๆ มันไม่ใช่ มันซับซ้อน รายละเอียดมันเยอะเลยยอม
...
- ส่วนร้านอาหารที่บ้านต่างจังหวัด ก็ปิดปรับปรุงเหมือนกัน แต่เป็นการปิดปรับปรุงแบบถาวร
- เผยไม่มีรายได้มาหนึ่งปี ธุรกิจที่ลาวก็เจ๊ง ค่ายเพลงก็ไม่มีคนดัง เลิกกับแฟน ไม่มีรายได้ ดาวน์มาก แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม ต้องดิ้นรนทุกอย่าง บางทีไปกู้เครดิตไม่ผ่านบ้าง เพราะเราไม่เคยกู้ ไม่เคยเป็นหนี้ เราไม่มีเครดิตในแบงก์ต่างๆ เราซื้อสดตลอด ตอนที่เราหาเงินได้ พอเราจะกู้เราทำไม่ได้ มันเครียดมาก เลยมาเจอเพื่อนนี่แหละเมื่อปีที่แล้ว เขาพาเราทำออนไลน์
...