เป็นเรื่องที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ หลังจากที่ กานต์ วิภากร ภรรยาของ เสก โลโซ ได้ออกมาชี้แจงหลังจากที่ บิ๊ก ทองภูมิ นักแสดงรุ่นน้องที่ได้เข้าไปทำงานด้วยกัน แต่ล่าสุด ทางด้านบิ๊กได้แจ้งว่าขอยุติบทบาทการทำงานร่วมกับ Luster Entertainment ซึ่งมีกานต์ภรรยาของเสกเป็นผู้บริหารค่าย โดยกานต์ได้โพสต์ร่ายยาว ซึ่งเราสรุปสั้นๆ มาให้ได้อ่านดังต่อไปนี้
- จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 มกราคมจนถึงปัจจุบัน ในสิ่งที่อีกฝ่ายเคยบอกว่า หวังดี จะดูแลกานต์และครอบครัวด้วยความจริงใจ อีกฝ่ายบอกว่า ครอบครัวกานต์ไม่ได้เป็นเหมือนที่ทุกคนเห็นในโซเชียล เป็นเพียงแค่การปกป้องตัวเองและครอบครัวเท่านั้น
- ตามที่อีกฝ่ายเคยได้แถลงข่าว บอกว่าจริงๆ กานต์เป็นแค่เด็กน้อยไม่มีอะไรเลย ควรหยุดทำงาน เพราะมันน่ากลัว มีความ Toxic รู้สึกเป็นห่วง และกานต์ยังร้องไห้กับอีกฝ่ายบ่อยๆ
- กานต์โพสต์ข้อความเหล่านี้ อยากให้คนแชร์ไปเยอะๆ เพื่อขอความยุติธรรมคืนให้ตนบ้าง
- ในประเด็นที่อีกฝ่ายเทงานกองถ่าย ไม่ได้มีแค่กองเดียว ยังมีอีก 3-4 กอง แต่ไม่แน่ใจเพราะมันไม่เป็นข่าว
...
- กานต์ไม่เคยสืบค้นประวัติของอีกฝ่าย จึงไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง รบกวนคนที่รู้ให้อินบ๊อกซ์มาบอกตนด้วย
- ยืนยันว่ายังเป็นห่วงเสมอ ไม่อยากทำร้ายอีกฝ่ายจากใจอย่างที่พูดไป ความบริสุทธิ์ใจ ความปรารถนาดี จากใจจริง ความรักและสิ่งดีๆ ที่มอบให้ ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
- ที่ยังเป็นห่วง เพราะอีกฝ่ายก็ได้ให้สิ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุดกับตน นั่นคือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในเวลา 3 เดือนที่อยู่ด้วยกันมา นั่นคือบุญคุณที่อีกฝ่ายมีต่อตน
- ไม่ได้อยากทำร้ายแต่อีกฝ่ายทำร้ายตนและครอบครัว จึงจำเป็นต้องตอบโต้ และปกป้องตัวเองและครอบครัวเช่นกัน
- ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าใครกันแน่เป็นคนถูกกระทำ ที่ไม่พูดแล้วถูกด่าตลอด แต่ไม่ชี้แจงให้ชัดเจนเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหมดอนาคต
- ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยเป็นคนก่อ ไม่เคยเป็นคนเริ่ม พร้อมกับขอโทษ เสก หากตนต้องไป
- กานต์บอกว่า ทุกครั้งที่ตนอาการกำเริบ แล้วอีกฝ่ายต้องมารองรับอารมณ์ของตน เมื่อตนรู้ตัวก็สำนึกผิด เดินไปไหว้แล้วกราบขอโทษอีกฝ่ายทุกครั้ง ตนไม่มีอะไรซับซ้อน
- ยอมรับที่เสียใจ เพราะอีกฝ่ายบอกจะเข้ามาดูแล สามารถทำให้หายได้แน่นอน แต่สิ่งที่ต้องการไม่ใช่ดูแล แต่ได้เป็นเทพบุตรของ FC ทั่วประเทศ
- ทุกครั้งที่อาการกำเริบ อีกฝ่ายจะรีบเข้ามาให้กำลังใจ นวดหัวนวดขมับและตนก็หาย
- ทุกครั้งที่ตนเหวี่ยงวีน อาละวาด แต่อีกฝ่ายก็ไม่โกรธ และยังเข้าใจ พูดคุยให้แง่คิดดีๆ ทนได้มาตลอด แต่ล่าสุดกลับทนไม่ได้แล้วจนถึงต้องมาใส่ร้ายกัน ทำไมไม่คิดว่าต้นเรื่องเกิดจากการกระทำที่อำมหิตของตัวเอง
- การที่เอาผู้ป่วยคนนี้ที่ป่วยสาหัสไปทำคอนเทนต์ ซึ่งตนก็ยินดี และยังบอกว่าตนก็ไม่ต่างอะไรกับ แบงค์ เลสเตอร์
- กานต์โพสต์ต่อว่า ความผิด ครั้งนั้นของเขามันรุนแรง ความเสียใจ ความผิดหวัง ความโกรธ โหมกระหน่ำ ฆ่ากันยังรู้สึกดีกว่า ยิ่งรู้ว่าเราไม่สบาย อำมหิตผิดมนุษย์ #สันดานของกูขึ้นอยู่กับความเหี้ยของมึง
- เมื่อความจริงเปิดเผย มีแต่น้ำตาแห่งความผิดหวัง สับสน “ทำร้ายกานต์ได้ไง” “อย่าทำร้ายกานต์” โดนแทงข้างหลังจนพรุนหมดแล้ว
- กานต์โพสต์ต่ออีกว่า เธอรู้ดีแต่ มันต้องไม่ใช่เธอ ขอนะอย่าเป็นเธอ อย่าเป็นพ่อลิงนะ เพราะเราตายแน่นอน ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน พ่อลิงเพิ่งพูด เพิ่งสัญญาว่า "พ่อลิงอยู่นี่ไม่ต้องกลัวนะ พ่อลิงจะไม่ไปไหน พ่อลิงรักลูกลิง พ่อลิงจะอยู่นี่ ถ้าพ่อลิงไม่รักลูกลิงแล้วพ่อลิงจะอยู่ทำไม"
- อีกฝ่ายสัญญาและพูดเองทั้งหมด พร้อมกอดตนเอาไว้ ประมาณ 1 ช.ม.
- และครั้งนี้ที่อาการกานต์กำเริบและเป็นหนักเพราะการหักหลัง ลูกลิงไม่คิดว่าพ่อลิงจะทำได้ลงคอ ไม่เคยมีความจริงให้ มันก็เลยพัง
- กานต์จะเรียกร้องค่าเสียหายคนละ 50 ล้านบาท มีการฟ้องร้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลเท็จขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 2 คดี ได้แก่ คดีเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 และคดีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568
...
- ฟ้องเรียกค่าเสียหายในนามของศิลปิน บริษัทลัสเตอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งแบ่งเป็น งานคอนเสิร์ตที่แจ้งศิลปินทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้เกือบ 60 งาน ทางศิลปินรับทราบล่วงหน้า และมีการลงบันทึกคิวของตัวเองลงเล่มเรียบร้อยหมด และเป็นงานที่ทำสัญญาไปหมดแล้ว เจ้าภาพได้จ่ายเงินแล้ว
- ในกรณีที่คุณพูดว่าไม่ได้เซ็นสัญญาและเป็นการจ้างแบบเป็นรายครั้งไป ขออธิบายให้ทุกคนเป็นพยานและรับทราบโดยทั่วกันว่า ตอนนี้ได้แจ้งงานล่วงหน้าให้กับศิลปิน บิ๊ก ทองภูมิ ทั้งหมดประมาณเกือบ 60 งาน ศิลปินรับทราบและลงนามบันทึกคิวของตัวเองลงเล่มรับรู้แล้วเป็นลายมือของอีกฝ่ายทั้งหมด
- ที่อีกฝ่ายพูดว่า เป็นการทำงานร่วมบริษัทจ่ายงานให้เป็นรายครั้งและจบไป แต่ยังไม่จบเพราะฉะนั้นศิลปินต้องมาเคลียร์ปัญหาที่ทิ้งไว้ให้ทางค่ายให้เรียบร้อยแต่โดยดี ตามที่พิมพ์แถลงการณ์ของอีกฝ่าย
- ณ ตอนนี้ศิลปินไม่ไปแสดงคอนเสิร์ตตามคิวที่แจ้งไปแล้วทั้งหมด 5 งาน ซึ่งเกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อบริษัท แต่ละงานสำคัญและงานใหญ่เช่น festival ต่างๆ
- โทษของการไม่ไปแสดงตามที่ทางบริษัทจ่ายงานให้ คือ ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10 เท่าของค่าจ้างต่อ 1 งาน และต้องจ่ายค่าปรับตามที่เจ้าภาพกำหนด
...
- เทงานของบริษัทเกือบ 60 งาน ซึ่ง งานส่วนใหญ่ทั้งหมด จะขายเป็นแพ็คกับวงที่อยู่ในสังกัด ซึ่งราคาจ้างงานต่อ 1 งาน จะเริ่มต้นที่ 355,000 บาทถึง 550,000 บาท
- ในส่วนของเรื่องความไม่ปลอดภัยที่มีคนไปตัดกุญแจ การตัดกุญแจครั้งนั้น อีกฝ่ายได้ทำคลิปออกมาบอกทุกคนแล้ว ไม่เห็นจะมีความกลัว ยังหัวเราะสนุกสนาน ถือเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะทำให้กานต์ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายอีกฝ่าย ทำให้คนคนเกลียดชังตน
- กานต์บอกว่าตนนั้นก็เป็นบุคคลสาธารณะที่ทุกคนรู้จัก ตัวกานต์มีมูลค่าพอสมควร ค่าเสียหายที่พึงเรียกได้ก็ย่อมสูงตาม มูลค่าของตัวกานต์
- กานต์คาดว่าจะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน และเป็นคดีอาญา หรืออาจเข้าข่าย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ วันนี้กานต์จะปรึกษาทนาย
- กานต์ย้ำว่า ศิลปินต้องปฏิบัติตามระเบียบ รักษาตนให้แข็งแรง อยู่ในสภาพที่พร้อมเล่นดนตรี และขับร้อง ถ้าขาดคุณสมบัติ บริษัทมีสิทธิ ยกเลิกสัญญาทันทีโดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน และสิทธิเรียกค่าเสียหายรวมถึงค่าปรับต่างๆ ที่ทำให้ เกิดผลเสียหายต่อบริษัท อื่นๆ อันพึงมีจากศิลปินได้อีก
- กานต์ยังโพสต์ข้อความต่อว่า "พ่อลิงคะ ทำไมเวลาพ่อลิงถ่ายรูป ทำไมตาของพ่อลิงดูใจดีจัง ลูกลิงชอบพ่อลิงใจดี พ่อลิงถ่ายรูปให้หน่อย อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ พ่อลิงร้ายมากเลย ปักหมุดรูปนี้อันแรกเฉยเลย มาเล่น TikTok ลูกลิงตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แถมเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นรูปคู่กันอีกต่างหาก"
- "มันผ่านไปแล้วลูกลิงเอ้ย หัดโตได้แล้วเลิกเป็นลูกลิงน้อยได้แล้ว พ่อลิงเค้าไม่หนีบไปไหนด้วยแล้ว หัดยอมรับความจริงได้แล้ว เลิกรอคอยให้พ่อลิงมาปกป้องดูแล เข้มแข็งได้แล้วไอ้ลูกลิงบ้า พ่อลิงเค้าเหนื่อยมากแล้ว เลิกวุ่นวายกับเค้าสักที แล้วลูกลิงก็ก้มหน้าน้ำตาไหลเดินกลับเข้าป่าไปแต่เพียงลำพัง"
...