เข้าพิธีวิวาห์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ หมิง จิรกิติยา หรือ หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์ นางสาวไทยปี 2546 ที่ควงแฟนหนุ่มนอกวงการ อรรถ วิสุทธิ์ รังษิณาภรณ์ เข้าพิธีแบบไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ จากนั้นในช่วงบ่าย ทั้งคู่ได้ตั้งโต๊ะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

หมิง ได้เล่าถึงการเจอกันครั้งแรกกับสามี บอกว่า ภรรยาของ ดู๋ สัญญา สนิทกับเราทั้งคู่ และเห็นเราโสดกันทั้งคู่ เลยแนะนำให้รู้จักกัน ด้านฝ่ายชายเผยว่า วันที่ได้เห็นตัวจริงครั้งแรก หมิง สวยมาก และรู้สึกชอบวันนั้นเลย ด้วยความที่ชอบทำบุญเหมือนกัน เลยได้มีโอกาสได้เจอกัน 

หมิงเผยว่า ฝ่ายชายเป็นคนที่เข้ามาโดยไม่ได้คาดฝัน และบางเรื่องเราอาจจะเข้ากันไม่ได้บ้าง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นใครตื่น 7 โมงเช้าได้ตลอดตั้งแต่วันแรกที่คบกันจนวันนี้ เขาเป็นคนขยันมาก นอนเที่ยงคืน ตื่น 7 โมงเช้าทุกวัน เป็นคนตั้งใจทำทุกอย่าง รวมถึงตั้งใจจีบเราและตั้งใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเรา เลยคิดว่าถ้าเราได้ลองคบคนนี้ จะต้องทำให้ความสัมพันธ์มันดี เขาคงไม่ได้เป็นคนพูดไปเรื่อย เราก็เลยตัดสินใจคบเขา

...

สิ่งที่คิดว่าเราเหมือนกัน คือ เรารักครอบครัวมากๆ เหมือนกัน เลยคิดว่าสิ่งนี้เป็นพื้นฐานการสร้างครอบครัวเราเหมือนกัน ถ้าเรารักครอบครัวกันทั้งคู่ก็จะไม่เกิดคำถาม เพราะเราเข้าใจกัน

คบกันมาประมาณ 1 ปี แล้ว เพราะเจอกันช่วงวันเกิดของ หมิง และพี่อรรถก็มาขอแต่งงานในช่วงวันเกิดพอดี ตั้งแต่คบกันฝ่ายชายก็ทำแพลนเลยว่า มาจีบปุ๊บผ่านไป 2 เดือนก็ขอเป็นแฟน คือทุกอย่างเขาทำชัดเจนมาก แบบเป็นสเต็ปทุกอย่าง ในวันที่เขามาขอแต่งงาน เราก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะขอจริง เพิ่งเข้าใจวันนี้ว่าความรักไม่ต้องการเวลา อะไรที่มันใช่ ทุกอย่างมันจะลงล็อกไปหมด

ตอนที่คบกันแรกๆ ไม่คิดว่าคนที่อยู่ห่างไกลจะคบกันได้ แต่พี่อรรถเขาพูดมาคำหนึ่งว่า คนแต่งงานกันเขายังปรับตัวเลย แล้วเราเพิ่งคบกัน ก็ค่อยๆ ปรับตัวกันสิ แล้วพอเราคบกันเขาจะพูดคำนึงคือคำว่า เราคือคนๆ เดียวกัน ซึ่งเป็นคำที่เราไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลย

ที่ผ่านมา หมิง ไม่เคยเจอคนที่จริงจังขนาดนี้ เขาเดินหน้าลูกเดียวเลย ไม่มีถอย เลยรู้สึกว่ากลัว กลัวจะเสียใจ แต่เขาก็พิสูจน์มาจนถึงวันนี้ ว่าสิ่งที่เขาทำให้เรามันจริงและเชื่อถือได้ในวันนี้ อุดร - กรุงเทพ ก็แค่ปากซอย นั่งเครื่องบินชั่วโมงเดียวถึง

ส่วนเรื่องทายาทแพลนไว้ว่าประมาณปลายปี ช่วงปลายปีนี้จะงานฉลองแต่งงาน เพราะเรือนหอยังไม่เสร็จ เสร็จจากงานวันนี้ก็จะเริ่มเข้าไปปรึกษาคุณหมอเรื่องทายาท และงานในวงการบันเทิงยังทำอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่เยอะมาก พอแต่งงานเราอยากจะให้เวลากับครอบครัว และแพลนจะย้ายไปอยู่อุดรกับสามี หากมีงานก็บินกลับมาทำงานที่กรุงเทพ

หมิงบอกว่า แม้ว่าอายุจะห่างกัน 5 ปี แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค ด้านเจ้าบ่าวเองก็พื้นเพเป็นคนอุดร ทำธุรกิจทั้งที่อุดรและกรุงเทพ เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าเกษตรที่ท่าเรือ

ส่วนคำมั่นสัญญาที่ให้กัน ที่ผ่านมาไม่เคยให้กันเลย เพราะเราจะวิดีโอคอลกัน 24 ชม. ตลอด เห็นกันอยู่แล้วว่า 1 ปีที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตยังไง แบบไหน เพื่อที่เราจะได้ไม่สงสัยหรือพะวงในตัวฝ่ายชาย ซึ่งคำว่าตลอดคือตลอดเวลา 24 ชม. จริงๆ แม้กระทั่งเวลานอน ทำให้เราเห็นว่า เขาไม่ได้อึดอัดที่จะทำให้ แม้ว่าสายจะหลุดแต่เขาก็โทรกลับมาเอง นี่เลยเป็นคำมั่นสัญญาที่ให้กัน เป็นการกระทำที่ทำให้เห็นว่า เขาตั้งใจทำให้เราเห็นว่านี่คือสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้เราจริงๆ 

...

เรื่องสินสอด หมิง บอกว่า สำหรับเรามองว่ามันคือการให้เกียรติกันและกันมากกว่า เราไม่ได้มองตรงนั้นไปมากกว่าความรู้สึกที่เขามีให้กับเรา เพราะเราบอกเขาเสมอว่า ต่อให้พี่เป็นคนดีหรือรวยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นคนเจ้าชู้เราก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเงิน

ส่วนแหวนหมั้นหมิงเลือกเอง ประมาณ 5.5 กะรัต เป็นสิ่งแทนใจและเป็นทรัพย์สิน เครื่องการันตีความรักระหว่างเรา งานเมื่อเช้าเรามีทำพิธีที่วัด พร้อมกับจดทะเบียนสมรสกันแล้วเรียบร้อย

...

...