ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาไม่น้อย เมื่อคู่รักลุงกับลิง ใหม่ ดาวิกา และ เต๋อ ฉันทวิชช์ ได้ร่วมมือกันทำธุรกิจด้วยกันครั้งแรก ด้วยการเปิดค่ายปั้นเด็กใหม่เพื่อเล่นซีรีส์แนวแซฟฟิค เรื่อง ClaireBell ผลงานภายใต้สังกัด Mind Media Production ซึ่งเป็นค่ายของทั้งคู่
ล่าสุด ใหม่ และ เต๋อ พร้อมด้วยนักแสดงในสังกัดของตัวเอง ได้มาร่วมงานเปิดตัวนิยายเรื่องแรก แนวแซฟฟิค (นิยายที่มีตัวละครหญิงรักหญิง) ‘ClaireBell’ ที่งานสัปดาห์หนังสือ ฮอลล์ 7 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำซีรีส์แซฟฟิคและเปิดค่ายเป็นของตัวเอง บอกว่า
- ใหม่และเต๋อ เริ่มต้นจากการที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมาสักพักแล้ว และรู้ว่ามีประสบการณ์ เลยอยากถ่ายทอดให้กับเด็กรุ่นใหม่ ก็เลยเป็นไอเดียที่อยากจะปั้นเด็กใหม่
- อยากทำซีรีส์ เพราะตัวเต๋อเองก็เก่งเรื่องการเขียนบท เขียนบทพันล้านก็ผ่านมาแล้ว เลยมาทำซีรีส์ร่วมกัน และอยากจะลองหานักแสดงเองมาเล่นเรื่องนี้ เราก็อยากจะดูแลเขาไปยาวๆ
...
- เหตุผลที่เลือกทำแนวแซฟฟิค (ซีรีส์หญิง-หญิง) เพราะใหม่อยากเล่นเอง แต่ยังไม่มีใครติดต่อมา ก็เลยทำซีรีส์เอง และปั้นเด็กใหม่ขึ้นมาเองเพื่อมาเล่นเรื่องนี้
- ส่วนตัวเนื้อเรื่อง เป็นเรื่องราวในเรือนจำหญิง และเกิดเป็นความรักขึ้นมา ซึ่งใหม่เป็นคนส่งบทมา และเต๋อก็เป็นคนรีเสิร์ชข้อมูล แล้วเขียนต่อยอด เป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือ
- อยากลองเสี่ยงทำซีรีส์แนวนี้ดู เพราะเราจะได้มูฟไปข้างหน้า ไม่อยากทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ เรียกว่าสนองนี๊ดตัวเองในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหาแคสต์ไม่ได้จะเล่นเองเลย
- ใหม่บอกว่า เหตุผลที่ไม่ลองเล่นเอง ก็เพราะเหมือนมีญาติผู้ใหญ่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เลยไม่เล่น (ชี้ไปที่เต๋อ) และเต๋อบอกว่า พอน้องใหม่เล่นปุ๊บจะมีหน้าผมโผล่ขึ้นมาในจินตนาการเรื่อยๆ มันก็เหมือนจิ้นไม่ได้เต็มที่
- ตอนนี้ก็มีสปอนเซอร์เข้ามาบ้างแล้ว แต่สปอนเซอร์หลักยังเป็นเราสองคน
- สำหรับธุรกิจนี้ยังไม่เรียกว่าเป็นธุรกิจครอบครัว โดยใหม่ให้เหตุผลว่า เพราะพี่เต๋อยังไม่ขอแต่งงาน เรียกครอบครัวไม่ได้ แต่เรียกธุรกิจแฟนได้
- ส่วนข่าวดีเรื่องการแต่งงาน เต๋อบอกว่า ใจน่ะอยากอยู่แล้ว ตอนนี้มันมีอะไรให้ทำเยอะจริงๆ โปรเจกต์นี้เราก็ต้องทำด้วยกัน อยากจะโฟกัสกับมันให้ดีที่สุดก่อน ถ้ามันประสบความสำเร็จหลังจากนี้ก็ไม่แน่
- งานนี้ทำเอาใหม่ถึงกับบอกว่า "รีบๆ หน่อย อายุก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ งานมันเยอะ"
- เต๋อบอกว่า "ถ้ามันเหมาะสม จริงๆ ได้เริ่มต้นจากการเป็นครอบครัวก็น่าจะดี แต่อย่างที่บอกมีอะไรให้ทำเยอะจริงๆ มันโฟกัสเยอะมาก ถ้าเอาเรื่องนี้เข้ามา มันจะกลายเป็นว่าแล้วเราจะลำดับความสำคัญอะไรไว้เบอร์ 1"
- ส่วนในเรื่องงานส่วนตัวในวงการบันเทิงนั้น เต๋อบอกว่า ไม่มีทางเฟดอยู่แล้ว ไม่มีทาง เขาเรียกว่าเหมือนเป็นการเตรียมตัวที่เราจะขยับขยายในอนาคตว่าเราจะทำอะไรได้เพิ่ม เพื่อรันวงการไปอีก เพราะพวกเราอาจจะกลายเป็นบุคลากรหรือกูรูของวงการ เราก็ใช้ความรู้ที่เราเรียนมาจากพี่ๆ หลายๆ ท่านมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ สร้างรอยยิ้ม สร้างหนัง และสร้างรายได้
...
- สำหรับงานเบื้องหลัง เต๋อบอกว่า "จริงๆ ก็อยู่เบื้องหลังมานานพอสมควร เดี๋ยวมีภาพยนตร์ที่กำลังเข้าฉาย และผมก็มีถ่ายภาพยนตร์เรื่องต่อไปอีก ส่วนใหม่งานก็จะเยอะอยู่เหมือนกันครับ ซึ่งจริงๆ ผมนับถือเขามากเลยนะครับ เพราะในพาร์ทนี้เป็นช่วงที่เขาต้องดูแลเยอะมากกับเด็กๆ เพราะว่าของผมพาร์ทโปรดักชั่น ซึ่งยังไม่ถึงจุดที่ต้องทำโปรดักชั่น ของผมเขียนบทเสร็จก็คล้ายว่าโอเคแล้ว ชิลล์ แต่เขาต้องดูแลเยอะ"
- ส่วนเวลาที่จะไปเดทกันนั้น ใหม่บอกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว เวลาที่จะไปเดทมันก็ไม่ได้เดท เวลาทำงานก็แอบขโมยโมเมนต์โรแมนติก แต่งตัวสวยมาคุยงานกัน
- ใหม่ยอมรับตอนนี้ใส่ใจพี่เต๋อมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าเราคบกันแล้วเราต้องดูดี และพี่เต๋อต้องดูหล่อขึ้น และดูเด็กลง แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้ดูให้แล้วนะคะ เพราะเก่งแล้ว แต่ช่วงปีแรกจนถึงปีที่แล้วก็ยังดูให้แบบจริงๆ แต่หลังๆ มาก็ไม่ได้ดูให้แล้วค่ะ น่าจะสักเดือนหนึ่งแล้ว
- เต๋อเผยว่า แรกๆ เขินนะ แต่หลังๆ รู้สึกดีมาก เพราะเราก็จะรู้มากขึ้นว่าการไปไหนยังไงเราควรจะแต่งตัวแบบไหน เรื่องแฟชั่นหรือสไตลิสต์เขาเป็นเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว
...
- เวลาไปงานคู่กัน ไม่ต้องแต่งตัวแมตช์ก็ได้ แต่ต้องออกมาแล้วทั้งคู่ต้องดูดีในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเสื้อคู่ แต่ก็ต้องไม่ให้พี่เต๋อรู้สึกอึดอัดด้วย”
- ซึ่งเต๋อเองก็แฮปปี้มาก เพราะใหม่เหมือนค่อยๆ พัฒนาสไตล์เราโดยที่เราไม่รู้สึกอึดอัด มีแค่บางวันชุดเรามันหายไปเท่านั้นเอง ไม่รู้ไปไหน ก็จะเหลือแต่สิ่งที่เหมาะกับเรา
...