หลังจากที่ ร็อคกี้ สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ ได้ออกมาเปิดใจเล่าถึงชีวิตที่เคยคิดจะลาโลก เพราะถูกเพื่อนสนิทที่คบมานานเกือบ 30 ปี โกงจนหมดตัว ซึ่งหลังจากที่ออกรายการ แฟน ๆ ต่างส่งกำลังใจให้จำนวนมาก
ล่าสุดได้มีโอกาสเจอ ร็อคกี้ มาร่วมงาน Ageing Thailand: International Day of Older Persons 2024 วัยเก๋า...ไม่เก่าเลย ที่ชั้น 7 ทรูไอคอนฮอลล์ 2 ไอคอนสยาม เจ้าตัวก็อัปเดตชีวิตล่าสุด เผยว่า ตอนนี้เพื่อนสนิทที่โกงเงินไป 30 ล้าน ได้หนีไปอยู่อเมริกา กำลังรออนุมัติส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน มีผู้เสียหายเกือบ 30 คน รวมมูลค่า 80 กว่าล้าน
- ได้กลับมารับเล่นรับเชิญละครในรอบหลายปี จริง ๆ ตอนนี้มีละครเปิดแค่ไม่กี่เรื่อง แต่ตัวผมโชคดีที่ผู้จัดยังคิดถึงเราบ้างเหมือนกัน ผมเองก็ได้มีโอกาสได้ไปเล่นรับเชิญในเรื่องต่าง ๆ ขอบคุณจริง ๆ ที่ผู้ผลิตและผู้จัดยังไม่ลืมกัน คิดถึงกันอยู่
- ได้โอกาสจาก พี่แอน ทองประสม ได้เล่นเรื่อง หนึ่งในร้อย
- สู้ชีวิตเหมือนกัน เพราะภาระหนี้ยังเยอะอยู่ ต้องขอบพระคุณทุกท่านที่ไม่ลืมกัน จะพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้ก็ทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
- ส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นมี 2 ส่วน หลัก ๆ คือจากการทำงาน และโดนโกง เราเป็นคนระวังตัวมาก เวลาทำงานต้องมีเงินฉุกเฉิน
- แต่ปัญหาคือเราอาจจะเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ส่วนที่สำรองไว้ก็ดันไปช่วยเหลือคนอื่นที่เขาลำบาก พอวันหนึ่งที่มันเกิดปัญหาสองฝั่งขึ้นมา เลยจัดการมันไม่ได้ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
- ทุกวันนี้ชีวิตก็เหมือนใช้หนี้แทนคนอื่น
- ในส่วนธุรกิจขาดทุนไปเกือบ 10 ล้าน ตอนนั้นทำงานเกี่ยวกับโปรดักชัน เบื้องหลัง ทำหนัง ทำละคร มันก็เลยมีหนี้ตรงส่วนนั้น
- ส่วนที่ให้คนยืมก็หลายล้านเหมือนกัน พูดแล้วมันจี๊ดใจ แต่มันผ่านมาแล้วตอนนี้ก็คือทำยังไงก็ได้ให้ทุกอย่างมันกลับมาเป็นปกติให้ได้ พยายามจัดการเงินให้มันเข้าระบบให้หมด แล้วก็โฟกัสเป้าหมายชัดเจน ว่าทำงานแล้วก็ต้องส่งจ่าย
...

- รวม ๆ ตอนนี้ก็เหลือหนี้ไม่ถึงหลัก 10 ล้านแล้ว แต่ก็ยังเป็นหลักล้านอยู่ แต่ที่บอกว่าเหนื่อย คือมันเป็นโมเดลที่ต้องใช้คนทำ เพื่อที่จะจัดการหนี้บริษัท เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้าย ๆ พี่วิลลี่ แมคอินทอช พี่เสนาหอย ซึ่งผมก็มีแรงบันดาลใจจากพี่เขาเหมือนกัน ว่าพี่เขายังทำได้เลย
- ตอนนั้นเราอาจจะเฟลหนัก ๆ เพราะเราโดนทั้งจากธุรกิจ แล้วก็จากเพื่อนที่เรารักและไว้ใจมาก ๆ ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกว่ามันเป๋ไปหมดเลย ใครที่มีปัญหาแบบนี้ให้นึกถึงผมไว้ ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่มีปัญหาหนัก ๆ ผมเคยรู้สึกแบบนี้ แล้วก็ดูจากพี่ ๆ เขา แล้วก็มาให้กำลังใจตัวเอง ต้องมีสติ ใจเย็น ๆ และแก้ปัญหาไป คนข้างหลังยังคอยเราอยู่
- ตอนนี้เราทำอะไรลูกหนี้ไม่ได้ เพราะเขาอยู่ต่างประเทศ เขาไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
- จริง ๆ หนี้ทั้งหมดมันไม่ใช่ของเราคนเดียว เพราะมันมีหลายส่วน แต่มูลค่าหนี้ทั้งหมดมันประมาณ 80 กว่าล้าน ซึ่งคนอื่น ๆ เขาก็ดำเนินการกันไปพอสมควรอยู่ แต่มันมีเรื่องกฎหมายต่างประเทศ MOU ส่งผู้ร้ายข้ามแดนอีก ซึ่งอันนี้มันเกินความสามารถของเรา ก็ได้แต่ปล่อยให้ทางการเขาจัดการ
- แต่ส่วนตัวผมยังไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะผมเห็นมีคนจัดการอยู่ประมาณ 20-30 เจ้า แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กลับมาได้ แล้วต้องการผมอีกยินดี เพราะตอนนี้พูดตรง ๆ ผมไม่มีเวลา 24 ชั่วโมง แต่ผมใช้ 38 ชั่วโมงในการทำงานหาเงิน ดูแลที่บ้าน และจัดการเรื่องหนี้สิน
- ยอมรับว่าตอนแรกหวังจะได้เงินคืนจากเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้ไม่หวังแล้ว เพราะถ้ามัวแต่หวังอยู่ เราจะไม่ยอมเดินไปข้างหน้าเพื่อหาเงิน
- ตอนนี้ยังติดต่อเพื่อนคนนั้นไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาอยู่อเมริกา ก็น่าจะ 2 ปีแล้ว เพื่อน ๆ ผมที่เป็นตำรวจ เขาก็บอกว่าดำเนินการไปสุดแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นปัญหากฎหมายระหว่างประเทศ ก็รอว่าเมื่อไหร่ต่างประเทศเขาจะเซ็นอนุมัติกลับมาสักที
- ความรู้สึกที่เปลี่ยนจากเจ้าหนี้เป็นลูกหนี้ ตอนแรกมีคำว่าทำไมเยอะเลย แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นทำยังไงแทน ถ้ามัวแต่ถามว่าทำไม ๆ เราจะไม่ทำอะไรเลย แต่พอเขาคิดใหม่ เราจะหาวิธีทันทีว่าจะทำยังไงให้ชีวิตมันมูฟออนและไปต่อได้