เป็นอีกหนึ่งคนที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความพยายามที่จะทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 มานั่งเสวนาในงาน WOMEN INSPRIED 2024 ภายใต้คอนเซปต์ WOMEN OF WONDERS เพราะ “เธอ” มันเริ่ด
ส่งต่อเรื่องราวของ “ผู้หญิงยุคใหม่” ที่ประสบความสำเร็จในรูปแบบที่แตกต่าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างคุณค่าในตัวเอง ที่เป็นความร่วมมือของ MIRROR และ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
งานนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ “ผู้หญิงยุคใหม่” ที่มาถ่ายทอดนิยามความเริ่ดและความสุขในแบบของตัวเอง พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจ รวมถึง EMPOWER ให้ทุกคนสามารถยืนยันที่จะชอบชีวิตตัวเองและสิ่งที่กำลังทำ ท่ามกลางความยากของชีวิตและแรงกดดันที่ทุกคนล้วนต้องเผชิญ
เมื่อถูกถามว่า ความเริ่ดของตัวเองอยู่ที่ไหน โอปอล สุชาตา ได้เล่าให้ฟังว่า ถ้าเป็นความเริ่ด เรามองว่ามันคือเส้นทางที่ทำให้เราได้มาถึงตรงนี้มากกว่า เพราะประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งแรกตอนอายุ 18 ซึ่งเด็กมากๆ ไม่รู้เลยว่าการประกวดเป็นยังไง หรือว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง มันหนักมากสำหรับเด็กที่ไม่เคยประกวด แต่มองว่าความเริ่ดคือการที่อยากทำอะไรแล้วเราก็คิดและกล้าที่จะทำเลย
...
ซึ่งโอปอลเต็มใจและอยากทำตรงนี้มาก อยากเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เชื่อว่ามีน้องๆ ตามดูเราอยู่ และอยากให้เขาเห็นตรงนี้ ให้เขารู้ว่าสามารถทำได้เหมือนที่เราทำ ในเส้นทางการประกวดก็ผ่านอะไรมาเยอะอยู่ การรอดชีวิตมาได้ก็คงเป็นความเริ่ดที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้
กล้าที่จะทำเพื่อความฝัน
เราจะอยู่บนความเริ่ดอย่างไรโดยไม่ติดอยู่ในกรอบ หรือความคาดหวังของคนอื่น คือเราโตมาด้วยการพูดความฝันของตัวเองให้คนรอบข้างฟังตั้งแต่เด็ก และก็จะได้คำตอบกลับมาจะทำเลยเหรอ เด็กมากนะ ไม่รอให้เรียนจบก่อนเหรอ ในการที่เราเป็นนางงาม เราก็ต้องได้ฟังความคิดเห็นของคนทุกวัน แต่โอปอลรู้สึกว่า สุดท้ายคือการกล้าที่จะทำในสิ่งที่เราอยากทำ แล้วมีความสุขกับมันจริงๆ ถามว่าทำไมโอปอลถึงผ่านมาได้ เพราะคำว่ากล้าคำเดียวจริงๆ ที่ทำให้เรามีวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นการประกวด หรือการผ่าตัดก้อนเนื้อที่หน้าอก มันคือใช้คำว่ากล้าอย่างเดียว จนเราผ่านมาได้ เราจะรู้ได้เองว่ากรอบ ความคาดหวังทุกสิ่งทุกอย่างมันอาจจะช่วยผลักดันเราได้ แต่มันอาจจะไม่เป็นกรอบให้กับชีวิตเราให้เราถอยออกมา ตอนผ่าตัดกลัวมาก ว่าถ้าเกิดผ่าแล้วตายล่ะ เราไม่ได้ทำ พอรอดแล้วก็จะทำทุกอย่างที่เราอยากทำในชีวิต ถ้าไม่คิดกล้าที่จะทำ โอปอลไม่มีวันนี้
เราทำในสิ่งที่เราต้องการได้ แต่เราก็ต้องดูก่อนว่าสิ่งนั้นที่เราจะทำกรอบนั้นมันคือจริยธรรมหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกหรือเปล่า ถ้ามันถูกต้อง เราทำได้ ถูกหลัก แต่ผิดแค่ความคิดของใครบางคน ทำไปเลย เพราะสุดท้ายจุดที่จะทำให้เราไปยืนในจุดนั้นได้ ก็คือความกล้า ความเชื่อมั่นใจตัวเอง ไม่ใช่เสียงหรือกรอบของคนรอบข้าง
ตอนประกวดครั้งแรกไม่ได้ ทำไมไม่เลิก เพราะมันคือแพสชัน คือสิ่งที่เราอยากจะทำ แล้วปี 2022 พอได้ทำก็มีความสุข รู้สึกว่าชอบตัวเองตอนที่อยู่ในช่วงเวลานี้ และสิ่งที่สำคัญคือ ความซื่อตรงและยึดมั่นกับความฝัน คือเหตุผลที่ทำให้เรากลับมาประกวดอีกครั้ง เพราะเราไม่เคยละทิ้งความฝันที่อยากจะเป็นนางงามจักรวาล ก็เลยจะกลับมาใหม่ ตอนลงจากเวที 2022 ก็อยากจะประกวดต่อแล้ว แพสชันมันแรงมาก แต่พอได้ทำงานตอนดำรงตำแหน่ง ก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากโอกาสนี้
เอาความคาดหวังมาเป็นพลัง
ช่วงตอนที่ประกวดทุกอย่างต้องพร้อม หน้าผมชุดต้องสวย ซึ่งเราต้องตื่นก่อนเวลาเริ่มทำกิจกรรม เวลานอนน้อย ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย แต่เราก็ต้องใช้ชีวิตอยู่บนมาตรฐานของวงการนางงาม หรือคนที่ติดตามเฝ้ามองเราอยู่ ซึ่งใจและสมองสำคัญมาก จะทำยังไงให้มันเป็นพลังบวกได้ เจอคำถามบ่อยมากว่ากดดันไหมกับการกลับมาครั้งที่ 2 การที่คนคาดหวังในตัวเรา คือเขาหวังในตัวเราได้ เราอาจจะกดดัน เหนื่อยเพื่อทำให้ออกมาดี แต่ดีกว่าเขาหวังในตัวเราไม่ได้เลย แสดงว่าเขามองเห็น เลยอยากให้เขาหวังกับเราได้ เต็มที่เลย เพราะเรารู้สึกว่ามันคือพลังที่จะทำตรงนี้ต่อไป
สิ่งที่ยากที่สุดในการประกวดคือการเอาชนะใจตัวเอง โอปอลเคยอ่านเจอโควตของแม่ชีท่านหนึ่ง ที่บอกว่าถ้าเราคิดไปก่อนจะทำให้เกิดความกลัว ความไม่กล้า ความทุกข์ มันเป็นสิ่งที่โอปอลจะเอาชนะในการประกวด เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง ขึ้นเวทีจะล้มไหม จะสะดุดหรือเปล่า เป็นจิตปรุงแต่งก็จะทำให้เราไม่มีความมั่นใจ เพราะเรากังวลไปก่อนแล้ว ก็เลยพยายามที่จะเอาชนะตรงนี้ ก็พยายามให้เราจิตแข็งและสงบที่สุด การสู้กับจิตตัวเองยากมาก
...
แรงซัพพอร์ตจากพ่อแม่
สำหรับแรงซัพพอร์ตได้จากคุณพ่อคุณแม่เยอะมาก จะสนิทกับแม่ ตอนที่ผ่าตัดก้อนเนื้อที่หน้าอก มันใหญ่มาก ตอนที่ต้องรอผลตรวจ 2 สัปดาห์ โอปอลกลัวมาก เพราะมีความฝันเยอะมาก อยากเป็นนางงาม อยากเป็นนักการทูต อยากเป็นเต็มไปหมด เรากลัวว่าจะไม่ได้ทำ แต่ได้รับกำลังใจจากครอบครัวทำให้เราผ่านมาได้ แม้แต่ช่วงประกวด บางทีก็มีช่วงที่จิตใจเรารับไม่ไหว ก็ยังมีคนรอบข้างคอยย้ำเตือนว่าเราทำได้ เชื่อในตัวโอปอลนะ
ทุกคนมีช่วงเวลาของตัวเอง โอปอลก็เคย อย่างตอนประกวดครั้งแรกก็พลาดมาก่อน หรือบางทีรู้สึกว่าเราเจอคนเก่งกว่า จนทำให้เรารู้สึกไม่เก่ง เราอาจจะอยู่ผิดที่ เป็นดอกกุหลาบแต่ไปโตในที่ของดอกทานตะวัน มันสำคัญมากที่จะต้องรู้คุณค่าของตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งง่าย ต้องใช้ความกล้า กล้าคิด กล้าทำ และคนรอบข้างสำคัญมาก ทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่าง และสะท้อนตัวเราด้วย ความงามของคนอื่นที่เราเห็น ก็คือความงามที่เราเห็นในตัวเราเองเหมือนกัน เราต้องให้กำลังใจกันและกัน
...
...
