หายหน้าไปจากวงการบันเทิงนานพอสมควร สำหรับอดีตนักแสดงชื่อดังอย่าง แหม่ม เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ ที่ล่าสุดคัมแบ็กวงการบันเทิงอีกครั้งกับการร่วมเล่นหนัง “ปอบดิ๊บดิบ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม” ที่วันนี้ได้ฤกษ์ดีบวงสรวงหนังเรื่องดังกล่าวที่บริเวณลานพระพิฆเนศ หน้าศูนย์การค้า ยูเนี่ยน มอลล์ หลังจากเสร็จพิธี แหม่ม เนาวรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า
ไม่ได้รับงานมานานแค่ไหนแล้ว?
แหม่มอยากรับงานนะคะ แต่ว่าบางทีเราก็ไม่ได้ถูกเลือก (หัวเราะ) จริงๆ ก็มีความสนุกเวลาทีได้อยู่กองนะ ชอบอยู่ใกล้เด็กๆ เพราะเด็กๆ เขาก็น่ารัก สอนให้เล่นมือถือ เราก็มีความสุข น้องๆ น่ารักทุกคน แล้วน้องๆ บางคนพอเห็นรูปเราเขาก็ตื่นเต้นว่าพี่โกนผมเหรอคะ เราเองก็เล่นละครดังมาเยอะ หนังก็เยอะ
ตอนที่เป็น อีโล้นซ่าส์ ต้องโกนผม มีผลดีกับเรายังไงบ้าง?
พอดีตอนนั้นเราก็วัยรุ่น แต่วัยรุ่นสมัยนั้นก็ต้องผมยาว ผมสวย ผู้ชายก็จะเรียบร้อย แต่เรื่องนี้เป็นหนังฮ่องกง แล้วมีบทต้องโกนหัว เขาเลือกผู้หญิงจาก 200 คนนะ ไม่รู้ว่าทำไมมันโชคดีมาที่เรา
...
คนก็จะบอกว่าทำไมกล้าจังเลย เธอเป็นคนดีหรือไม่ดี ทำไมโกน และภาพโปสเตอร์ต้องทำแบบนั้น แต่ไม่ได้เปลือยนะ มันจะมีผ้าแถบ แล้วก็มีคนอยู่ข้างหน้า ข้างหลังอีกประมาณ 20 คน ก็มีคนคอยดึงผ้าแถบให้เรา เราก็ต้องดันหน้าอกขึ้นมา
พร้อมกับเอางาช้างไปไว้บนหัว ก็กลายเป็นภาพนั้นออกมาและขายดีมาก เรามีความโชคดีที่ไปไหนก็จะมีคนขายภาพของเรา แล้วก็เดินมาขอบคุณเรา บอกว่าขอบคุณมากๆ เลยที่ให้ผมได้มีเงินเรียนด้วยการขายโปสเตอร์ เราก็ดีใจ
ต้องขอบคุณ คุณพิเชษฐ์ ปอบดิ๊บดิบ ที่ให้เรามาเล่น เขายังเห็นคุณค่าเรา แล้วก็ต้องขอบคุณคุณบีเวอร์ด้วย ขอบคุณทุกคนที่ให้เนาวรัตน์กลับมาตรงนี้
ภาพจำอีโล้นซ่าส์ มันส่งผลยังไงกับเราบ้าง?
คือตอนนั้นเราก็ใช้ชื่อและนามสกุลจริง และยังเรียนหนังสือไม่จบ อายุเพิ่ง 16 พ่อแม่เราก็บอกอย่างเดียวว่าต้องไปเรียนหนังสือ พี่น้องก็บอกว่าเอาชื่อจริงกับนามสกุลจริงออกได้มั้ย เพราะเขาเขิน เขาอาย เพราะเหมือนเต้นกินรำกิน
ตอนนั้นเราก็ไปไม่เป็น เพราะเราใช้ไปแล้ว (หัวเราะ) แล้วสมัยนั้นเราก็ถ่ายโฆษณาแทบทุกอย่าง แล้วโป๊หมด เล่นกับใครก็โป๊ เล่นเป็นผู้หญิงหากิน ครอบครัวไม่ให้เข้าบ้านเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยออกไปอยู่บ้าน พี่หนิง เมตตา รุ่งรัตน์ ครอบครัวไม่พูดด้วยเลย เขาบอกถ้าเธอจะเลือกงานนี้ก็ต้องออกไป
แต่ตอนนั้นชื่อ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ มันก็เกิดแล้วนะ เราก็เลยเลือกที่จะไปบอกกับทุกคนว่าถ้าต้องเล่นหนังแล้วโป๊ แล้วต้องสูบบุหรี่ด้วย ซึ่งเรายังเด็กก็สูบไม่เป็น เราต้องไปหัดสูบบุหรี่ แต่เขาบอกเราสูบเหมือนคางคก (หัวเราะ) เพราะสมัยก่อนยังไม่มีครูการแสดง มีแต่แอ็กติ้งโค้ช
แล้วต้องแต่งหน้าเอง ทำทุกอย่างเอง เราก็ได้ครูจากนางเอกรุ่นเดอะๆ นี่แหละ เราก็ได้ครูคือ อาโย (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) เป็นคนสอน สมัยก่อนต้องเรียนจากพี่ๆ นักแสดงรุ่นนี้นะ
ต้องพิสูจน์ตัวเองจากครอบครัวนานมั้ย ว่าเป็นอาชีพสุจริต มีรายได้?
คำว่าสุจริต กับคำว่านามสกุลเนี่ย มันไม่ได้ (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่ได้พยายามเปลี่ยนหรืออะไร เพราะมันใช้ไปแล้ว แต่เราพยายามเปลี่ยนตัวเอง หักดิบด้วยการไม่เล่นหนัง เพราะบทโป๊มันเยอะ ก็กลับไปเรียนหนังสือ แต่เอาจริงๆ เราใส่เสื้อปกติก็ดูโป๊แล้ว เปิดเสื้อนิดนึงก็ดูโป๊แล้ว บางคนใส่เว้าไปหมดยังดูไม่โป๊เลย มันอยู่ที่สรีระนะ
...
ที่บอกว่าอีโล้นซ่าส์มีผลเสีย คือยังไง?
ไม่ได้หลับได้นอนเลย โชว์ตัว 365 วันทุกจังหวัด เชื่อมั้ยนั่งจากชลบุรีถึงกรุงเทพฯ ยังนับไม่หมดเลยแบงก์ 20 ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยนี้เหรอ ถ้าเทียบกับบัตรเข้าโรงหนังก็น่าจะเป็นร้อยนะ ลองคิดดูว่าเล่นเมื่อ 45 ปีที่แล้วค่าเงินจะเท่าไร
เลือกที่จะเล่นแบบนี้ตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า?
ไม่ๆ แหม่มถ่ายเรื่องไอ้ติงต๊องก่อน เป็นนางเอกผมซอยๆ แต่จริงๆ นางเอกเรื่องอีโล้นซ่าส์จะไม่ได้เป็นแหม่มหรอก พระเอกก็คือ คุณเศรษฐา ศิระฉายา แต่ตัวอีโล้นมีหลายคนที่ดังๆ เราก็ไปห้อยพี่ๆ เขา คุณกรุง ศรีวิไล ก็มาเล่นเป็นแมงดา รุ่นนั้นดาราเยอะ เรามาได้สอดแทรกเล่นก็ถือว่าโชคดี ที่เกิดได้ก็เพราะพี่ๆ ไม่ได้เกิดเพราะตัวเองนะ เพราะคนอยากดูประกบดาราเยอะๆ มากกว่า
ทำไมถึงคิดว่าเป็นผลเสีย ทั้งที่ทุกอย่างมีฟีดแบ็กดี?
พ่อพี่เอาโซ่ล่าม ออกจากบ้านไม่ได้
ตอนนั้นโดนอะไรบ้าง?
การที่ลูกไม่ได้ออกจากบ้านอะ พ่อบอกว่าอย่าออกเลย คุณคิดยังไง ไม่ได้ออกแล้ว หรือออกจากบ้านบ่าย 3 คุณต้องเข้า อันตรายนะ พี่นี่โดนแบบนั้น พ่อยึดกุญแจรถ พี่เป็นคนแปลกทำอะไรไม่เป็นก็ต้องทำให้ได้ พ่อไม่สอนขับรถเพราะเดี๋ยวขับเป็น พี่ก็ไปจ้างแท็กซี่ พี่มีตังค์ก็ไปแอบเรียนขับรถ ทุกวันนี้ก็ยังขับแบบแท็กซี่อยู่เลย (หัวเราะ)
...
แล้วตอนที่ตัดสินใจรับเล่น พ่อแม่ไม่รู้?
ไม่รู้ ตอนพี่ไปประกวดพ่อแม่ยังไม่รู้เลย จำได้ประกวดครั้งแรกด้วยกันกับ พี่ต่าย เพ็ญพักตร์ มองหน้ากันไม่รู้ว่าอายุถึงทั้งคู่หรือเปล่า เขาก็ขอบัตรประชาชน ต่างคนต่างเผ่น ไม่มีบัตรประชาชน กลับบ้านสิคะ
หยุดโป๊ หยุดแสดงภาพยนตร์ เพื่อจะล้างภาพกลับเข้าตระกูล?
เขาก็ดูถูกว่าคุณเล่นได้แต่บทโป๊ พี่มีความรู้สึกว่าตอนนั้นถ้าเราล้างภาพ นึกได้อย่างเดียว พี่เหน่ง เมตตา บอกไปหัดร้องเล่นหรือไปเล่นละคร ท่านรพีพรเห็นพี่แล้วบอกคนนี้ต้องเล่นนางสาวทองสร้อย โดนช่องว่าอีกเล่นหนังโป๊มาแล้วจะมาเล่นนางสาวทองสร้อยเป็นไปได้ยังไง มีประมาณ 5 นางเอก มีตั้งหลายคน รพีพรบอกถ้าคนนี้ไม่ได้เล่นก็ไม่ให้
ล้างภาพอีโล้นซ่าส์ได้อย่างที่คิดมั้ย?
ล้างเลย ล้างคนละเรื่องเลย นางสาวทองสร้อยเป็นผู้หญิงเรียบร้อย เด็กนักเรียนนอกมาทำธีสิส เรายังเรียนไม่จบเลยตอนนั้น ก็ต้องไปนั่งหาอีกว่าธีสิสคืออะไร มันไม่ง่ายนะกับการเป็นนักแสดง
ที่บอกว่าบทมาไม่ถึงเราสักที มันไปสะดุดที่ตรงไหน?
ไปสะดุดบทโป๊กับบทจูบ ไม่รู้ทำไมต้องให้จูบให้โป๊ เพราะว่าอาจจะเป็นสรีระไหม (งานในวงการบันเทิงมาไม่ถึงเรา?) คนชอบคิดว่าพี่ไม่รับเล่น อย่างพี่เชษฐ์เนี่ยพี่สนิทกันโดยเพื่อนพาไป สนิทกันมา 20 กว่าปีแล้ว มีละครเล่นก็ถือว่าดี เล่นของพี่เวอร์ เล่นหลายเรื่องนะ เล่นของคุณตั๊กด้วยนะ รู้สึกว่าได้รางวัลที่เมืองจีนมั้ง พี่ก็เล่นนะ
...
คิดว่าเพราะบทโป๊ บทอีโล้นซ่าส์ มีส่วนทำให้เราไม่มีงานไหม?
แน่นอน ภาพลักษณ์คือถ้าโป๊แล้วก็เล่นได้แต่โป๊ เขาไม่รู้ว่านักแสดงมันอยู่ในสายเลือด เหมือน DNA เหมือนนักข่าวคุณตื่นมาก็คิดคอนเทนต์แล้วว่าจะทำอะไร ความรู้สึกชอบการแสดงมาตั้งแต่จำความได้ พี่ดูรูป พี่เปี๊ยก อรัญญา ตั้งแต่พี่อายุ 7-8 ขวบ แล้วก็พูด ‘จะเป็นดาราๆ’ นี่คือเรา
ดีใจไหมที่กลับมาคนก็ยังชมว่าเหมือนเดิม?
พี่จะบอกว่าความรู้สึกของการเป็นนักแสดงอะ ทนได้ไหมกับการเดินออกจากบ้านแล้วมีคนพูด 'เมื่อก่อน เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ เมื่อก่อนส้วยสวย แล้วเดี๋ยวนี้..' อันนี้พี่ไม่ได้อยากได้ พี่อยากได้ 'หูย..เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ ใช่เหรอ' พี่เคยได้ยินคนพูด 'วันนี้ เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ มาด้วย ป่านนี้คงแก่' ผู้ชายพูด พี่ได้ยินก็หันไปมอง เขาก็ 'ขอโทษครับ พี่เหรอครับ'
ถ้าย้อนกลับไปได้ ยังคิดจะรับบทอีโล้นซ่าส์กับโป๊ไหม?
พูดยากนะ ถามว่าความรู้สึกวันนั้นกับวันนี้ ในวันนั้นความรู้สึกเราทำดีไม่ดีเราไม่รู้ เพราะเราเป็นเด็ก แต่สิ่งที่เป็น เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ แล้วภาพจำมันก็คืออันนี้ มันเป็นโอกาส พ่อพี่สอนประจำว่า ‘คนเราถ้าไม่รู้จักใช้โอกาส นั่นคือคนโง่’ แล้วเวลาพี่เถียงกับพ่อ ก็บอก ‘อ้าว..พ่อบอกเองไงว่าไม่รู้จักใช้โอกาสคือคนโง่ อันนี้ก็โอกาส’ พ่อก็บอก ‘ไม่ได้สอนให้เป็นแบบนี้’ เขาก็เสียงสูงเนอะ เราก็ไม่รู้ ทำแล้ว แต่บุคลิกพี่ตัวจริงกับโล้นซ่าคนละเรื่องนะ จะไปคิดว่าคนนี้ต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ คุยกับเขาก่อน ดูแบล็กกราวนด์เขาก่อน