เรื่องราวของ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ กับอดีตภรรยา แพรวพราว แสงทอง ก็ยังทำให้หลายคนอยากรู้และติดตามกันอยู่ หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ได้ยื่นเอกสารต่อศาลเรื่องเกี่ยวกับลูกว่าตอนนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

ซึ่งล่าสุดได้เจอผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ที่เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว SEWA ULTRA HYBRID SUNSCREEN เพื่อแสดงความยินดีกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เจ้าตัวก็เป็นหนึ่งในพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ดังกล่าว ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องการฟ้องร้องกับอดีตภรรยาให้ฟังว่า 

คดีต่างๆ เป็นยังไงบ้าง?
ตอนนี้อยู่ขั้นตอนการรอคิวขึ้นอยู่ครับ ศาลนัดแล้วแต่รอวัน น่าจะเป็นเดือนกรกฎา

ก่อนหน้านี้เขามีการโทรมาไกล่เกลี่ยไหม?
เหมือนโทรมาแค่แจ้งว่าได้รับหมายศาลแล้ว แต่ก็ไม่ได้เคลียร์อะไร ก็ค่อยไปเคลียร์กันที่ศาลเลย แต่เขาก็ถามว่าต้องการอะไรเหรอ เราก็บอกตามที่เราลิสต์ไปเลย เขาก็เลยบอกว่างั้นก็ไปคุยกันในศาล

เขาก็ไม่ได้มีท่าทีเหมือนยอมเรา?
เหมือนไม่มีอะไรที่เราได้ฟังเลย คือเขาปัดเข้าศาลหมดเลยครับ

ทุกวันนี้ได้เจอลูกปกติไหม?
ไปล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน ไปถึงแล้วลูกก็ไม่อยู่บ้าน ตอนนั้นเหมือนเรารู้ว่าลูกจะกลับวันนี้ เราก็เลยวางแผนจะไปหาลูก เป็นวันที่ 1 ไม่ก็ 2 นี่แหละ เรารู้ว่าลูกจะกลับวันนี้ก็เลยตั้งใจไปหา พอไปถึงเขาก็บอกว่าไม่ได้กลับแล้วนะ วันถัดไปเขาถึงจะกลับเราก็เลยไม่ได้เจอลูก

...

ก่อนไปมีการโทรนัดไหม?
แจ้งครับ ก็คือผมมีคิวงานแสดงอยู่ที่ยโสธรอยู่แล้ววันนั้น ผมก็แจ้งว่าจะไปหาลูกนะ จะกลับมาถึงกี่โมงเขาบอกว่ามาถึงตอนเย็น อันนี้คุยกันก่อนเดินทางหนึ่งวัน พอไปถึงปุ๊บ ตอนเช้าเขาก็ส่งข้อความมาว่า ไม่ได้กลับแล้วเดี๋ยวกลับพรุ่งนี้แล้วกัน เราก็ตกใจ แต่ก็โอเค เดี๋ยวว่างมาใหม่ก็ได้

ตอนนี้ลูกอยู่กับใครเป็นหลัก?
อยู่กับป้าซึ่งเป็นพี่สาวของอดีตภรรยา

เรารู้สึกว่าเป็นการกีดกันไหม?
รู้สึกค่อนข้าง…ทำใจเผื่อไว้อยู่แล้ว บางทีเขาอาจมีธุระด่วนหรือเปล่า แต่ความตั้งใจของเราคือ เรามีข้อความในการคุยกันว่าลูกจะกลับเวลานี้นะ วันนี้ แต่พอถึงเวลาก็ไม่เห็นมา แต่ผมก็ไม่รู้ว่ากีดกันหรือเปล่า แล้วแต่คุณจะพิจารณาเอาเอง ผมก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก แต่จริงๆ แล้วผมก็ตกใจอยู่ แต่โอเคก็ไม่เป็นไร วันเกิดผม 12 มิถุนายน ผมจะมารับลูกอยู่แล้ว

ปกติเจอลูกบ่อยขนาดไหน?
คือบางคนอาจจะบอกว่าทำไมวันที่ลูกอยู่ถึงไม่มา ทำไมวันที่ลูกไม่อยู่ถึงต้องดิ้นรนมา ให้มันเป็นเรื่องเป็นราว คือวันที่ลูกอยู่ผมก็ไม่ว่าง แต่วันที่ผมจะไปก็คือนัดกันแล้ว

นานๆ ทีจะได้เจอลูกครั้งนึง?
ใช่ ก็แอบมีความหวังว่าจะได้เจอลูกอยู่ (ได้เจอกันทีอยู่ด้วยกันนานไหม?) กลางวันทั้งวันเลยครับถ้าไปครั้งนึง แต่รอบนี้วันที่ 11 มิถุนายน ก็แจ้งแล้วว่าจะไปรับลูกอีกครั้ง หวังว่าจะไม่มีธุระด่วนอีก ก็เผื่อใจอยู่แต่เราก็แจ้งออกสื่อขนาดนี้แล้ว แต่แจ้งเขาแล้วนะ เขารับทราบแล้ว

ได้เจอลูกน้อยมากๆ กลัวเรื่องความผูกพัน ความใกล้ชิดไหม?
ก็กลัวอยู่ครับ คิดอยู่ว่าลูกจะไม่สนิทกับเราเหมือนเดิม แบบไม่คุ้นเคย ลูกชายคนเล็กก็เพิ่งหนึ่งปี ผมคิดว่าลูกชายคนเล็กต้องใช้เวลาในการเข้าหาเขานิดนึง เพราะเราห่างจากลูกมาเดือนสองเดือนแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เขากำลังจดจำพอดี แต่ยังไงคำว่าพ่อลูกมันก็เป็นสายเลือด ยังไงมันก็จูนกันง่ายอยู่ครับ

นอกจากการเจอหน้ากันแล้ว คุยกันทางโทรศัพท์บ่อยขนาดไหน?
ก็ยังโชคดีอยู่ที่นาริตะอายุ 4 ขวบแล้ว เขามีการโทรวิดีโอคอลเป็น มีการถ่ายรูปเป็น บางครั้งก็กดโทรมาหาเรา แต่ช่วงหลังไม่เห็นได้โทรมาแล้ว แต่ช่วงเดือนก่อนโทรตลอดเลยนะ แล้วครูที่โรงเรียนก็ส่งข้อความมาหาว่าลูกพูดถึงพ่อตลอดเลย

ตอนเราโทรไปหาเขา เขารับทุกครั้งไหม?
บางทีก็ไม่รับ บางทีเขาอาจจะไม่ว่างหรืออะไร ก็มีเยอะอยู่ รับก็มี

คิดว่าที่เขาไม่รับเป็นเพราะอะไร?
อาจจะยุ่งอยู่ หรืออาจจะไม่สะดวก หรืออาจจะมีเหตุจำเป็น

เวลาน้องโทรมาพูดอะไรกับเราบ้าง?
พ่อมารับหนูหน่อย เมื่อไหร่จะมารับหนู มารับหนูเลยนะ แต่เราก็จะอธิบายบอกเขาว่าเราทำงานอยู่

เราให้เหตุผลเขาว่าอะไร เขาจะเข้าใจผิดไหมว่าเราอาจจะเทเขา?
ใช่ เขาจะมีอยู่ว่าทำไมพ่อไม่มารับหนูเลย แต่เราคิดว่าเรามีเหตุผลที่จะบอกเขาได้อยู่แล้ว ก็อาจจะบอกเขาอีกทีนึงตอนเราเจอกันว่าที่พ่อไม่ได้มาเป็นเพราะอะไรนะ เพราะว่าเขาสี่ขวบ มีความทรงจำแล้ว

...

เรื่องที่ลูกถามเราว่าทำไมพ่อไม่นอนกับแม่เลย?
คือวันนั้นผมไลฟ์สดอยู่ แล้วผมคิดว่าเนี่ยกำลังเช่าบ้านกำลังหาบ้านอยู่ แล้วลูกอะนั่งอยู่ข้างๆ แต่ผมลืมคิดไป ลูกก็เลยบอก เอ้าไปหาบ้านทำไมในเมื่อพ่อก็มีบ้านอยู่ แม่ก็มีบ้านอยู่ กลับไปนอนที่บ้านเราสิ ลูกก็เลยถามแบบนั้น เพราะเขาได้ยิน ถึงร้องไห้เลย เพราะทำไมลูกถามอย่างงั้น เราก็ลืมตัวว่าเราพูดให้ลูกได้ยิน ที่ร้องก็คือรู้สึกจุกว่าบ้านเราก็มีอยู่แต่ทำไมต้องไปอยู่ที่อื่น เราก็รู้สึกว่าลูกถามแบบนี้เราสะเทือนใจ เพราะว่าบ้านน่ะสร้างเสร็จก่อนเดือนกรกฎาคม แล้วคือบ้านหลังนี้เราสร้างยังไม่ถึงปีเลย บ้านที่เราตั้งใจสร้างให้ครอบครัว มีสระว่ายน้ำ มีสวนมีอะไร มันเป็นบ้านของครอบครัวจริงๆ บ้านหลังนี้

แล้วการจะขึ้นศาลครั้งนี้เป็นการเจอกันหลังจากแยกทางกันใช่ไหม?
ใช่ครับ

เตรียมคำพูดยังไงบ้าง?
คือผมไม่ได้เตรียมอะไรมากเลย ผมเป็นธรรมชาติหมดเลย ไม่มีสคริปต์ เวลาจะเจอเขาก็คือพูดความจริงหมดเลย แต่มันไม่มีโอกาสได้ต่อรองกัน อาจจะไม่ลงตัวเราก็ต้องคุยกันข้างใน ในเรื่องของกฎหมาย

แล้วในวันเกิดของเราได้ชวนเขามาร่วมแฮปปี้เบิร์ธ----เดย์ไหม?
ไม่ชวนครับ

แล้วกับคำว่าช่างแ_่งที่เราโพสต์?
คำว่าช่างแ_่ง คือถ้าใครดู TikTok ผม ผมเคยไปอัดรายการจากพี่เป็กกี้ว่า แนะนำผมหน่อยในการใช้ชีวิตให้มีความสุข เขาบอกว่าใช้แบบ ช.ช้าง ช่างแ_่ง ก็เลยเอาของแกมาใช้ในชีวิตเรา บางอย่างเราก็ช่างมันเถอะ อาจจะเจอเรื่องไม่พอใจเรื่องไม่ดีก็ปล่อยผ่านบ้าง ก็เลยพูดไปอย่างนั้น (ใช้กับใคร?) กับคนที่ทำให้เราปวดหัว (เราก็มีอารมณ์?) มันก็มีอยู่ (ไม่ได้โยงถึงใคร?) ใครจะรับก็รับ เราอยากระบายบ้าง เอาแต่ปัญหาเข้ามาหาเรา

...

ถามถึงเรื่องของอดีตภรรยา ที่มีกระแสมากมายโจมตี เราได้เห็นข่าวบ้างไหม?
ส่วนมากอะไม่ค่อยได้อ่าน มีแต่คนมาเล่าให้ฟังอย่างนั้นอย่างนี้ คือผมไม่ได้กดติดตาม ผมเป็นเพื่อนในเฟซกันอยู่ ก็คือกดอันฟอลโลว์ไม่ได้ดูการเคลื่อนไหว คือรับฟังอยู่ว่าเขาเจอปัญหาอะไรต่างๆ เราก็เพียงแค่ส่งกำลังใจให้เขาสู้ๆ (ส่งยังไง?) ส่งผ่านจิตกระแส จะให้เราส่งข้อความไปมันก็คงไม่ใช่ ส่งกระแสจิต แบบเชื่อมจิต

แล้วส่วนตัวเรารู้สึกกับกระแสที่เขาโดนโจมตี?
ทุกสิ่งทุกอย่างอะไรก็ช่างมันอยู่ในตัวเรา คือถ้าเราแสดงอะไรให้มันดีมันก็ดี คือเราแสดงออกยังไงมันสะท้อนกลับมาหาตัวเราเองหมดเลยนะ อย่างเช่นวันนี้ที่ผมสัมภาษณ์ ผมสัมภาษณ์ดีมันก็ออกไปดีกลับมาหาเราดีเลย คือถ้าเราทำออกไปไม่ดีมันก็กลับมาหาเราไม่ดี เพราะฉะนั้นผมมองแล้ว มันเป็นเรื่องใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ก็ส่งกำลังใจให้ ทุกๆ คนมันมีสิทธิ์พลาดพลั้งกันได้ แต่ก็อย่าพลาดบ่อย ให้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังผิดพลาดอยู่ คือสังคมไทยอะเขาเป็นคนใจดี แต่สังคมไทยให้อภัยกับคนที่สำนึกผิด

...