เปรียบชีวิตตัวเองเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง สำหรับนักร้องสาวสั้นเสมอหู ใบเตย อาร์สยาม ซึ่งตอนนี้ได้กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังจากที่ออกมาจากเรือนจำ ซึ่ง ใบเตย เองก็ทำหน้าที่แม่ดูแล น้องเวทมนต์ ลูกสาว รวมถึงเป็นหัวหน้าครอบครัวด้วย
ล่าสุด ใบเตย พร้อมด้วย ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องชาย มานั่งในรายการ 3 แซ่บ ต้องบอกเลยว่า เทปนี้พาคนปล่อยโฮแทบจะทั้งรายการ กับเรื่องราวชีวิตสุดพลิกผันของ ใบเตย และลุกซ์
ใบเตย เผยว่า ตนเองผอมลง 10 กิโล น้ำหนักตอนที่ออกมาประมาณ 36 ตอนนี้ประมาณ 40-41 กิโล ขอบคุณที่งานยังแน่นมาก เป็นเรื่องที่ตัวเองยังประหลาดใจ ขอบคุณเจ้าภาพและทุกคน ที่ยังเชื่อมั่นในฝีมือ งานหน้าเวทีของเรา และขอบคุณแฟนคลับที่ยังคิดถึง
เผยยังเป็น ใบเตย อาร์สยาม เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนนามสกุลเลย ยังเป็นโลโก้ที่เราภูมิใจที่มีนามสกุลนี้มาตลอดทั้งชีวิต ในวันที่เข้าไปเจอ เฮียฮ้อ น้ำตาไหล เปรียบเป็นเหมือนพ่อ เพราะเราอยู่กับอาร์สยามมา 20 ปี มากกว่าอยู่กับครอบครัวมาทั้งชีวิต รู้สึกผูกพันมาก ยังมีสัญญาใจมาตลอด ก่อนจะหมดสัญญาปีที่แล้ว และมาเจอเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งก็มีเฮียฮ้อเข้ามาให้โอกาสเรา
...
ในวันที่กลับมา ก็บอกเฮียว่า ไม่อยากเป็นเหมือนเดิมแล้ว และไม่อยากมีชื่อเสียงอะไรอีกเลยในชีวิต แต่เฮียเป็นคนบอกให้กลับมาและมูฟออนไปข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ออกมา ทุกวันนี้ขับรถไปทำงานเองหมด เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่สมัยค่าตัว 5,000 บาททั้งไปสตูล ไปภูเก็ต ก็ขับรถไปเองเพราะในส่วนของกำไล EM ที่ใส่มันบินไม่ได้ และที่ไม่จ้างคนขับรถเพราะอยากให้ตัวเองลืมทุกอย่างที่ผ่านมา มองเหมือนการไปโรดทริป เลยแฮปปี้กับการขับรถเอง เหมือนพอเราออกมา ก็อยากอยู่กับตัวเอง มีสมาธิกับพวงมาลัยรถ พอไปถึง ร้องเพลงเสร็จก็ขับกลับ
จากนี้ไปก็รับงานทุกอย่างเกี่ยวกับคอนเสิร์ตหมดเลย เพราะบางเรื่องพูดไม่ได้ ก็เลยอยากถ่ายทอดออกมาทางบทเพลง อย่างละครก่อนหน้าก็ถ่ายเสร็จหมดแล้ว พอเรากลับมาก็ได้มาออนแอร์ รู้สึกดีใจที่ได้ทุกอย่างกลับมา และได้กลับมาทำในสิ่งที่รักเหมือนเดิม
ลุกซ์ น้องชาย ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยอยู่เคียงข้างและซัพพอร์ตตลอด เหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ เพราะในวันที่มีเราก็มีเหมือนกัน และในวันที่เสีย เราก็เสียเหมือนกัน เขาช่วยดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง ลุกซ์เป็นคนเดียวที่อยู่ข้างนอกที่สู้ทุกคน ที่เหลืออยู่ในครอบครัว
ในวันที่มีคนมาค่อนแคะ ก็ปล่อยผ่าน เพราะเราเจอเรื่องแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต ณ วันนี้ไม่เคยอ่านอะไรเลย เรารับผิดชอบในช่องทางตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองได้รับ
เอาจริงๆ เราไม่ได้เข้มแข็งเลย เราอ่อนแอมาก แต่ในเมื่อเรายังมีลมหายใจ เราต้องสู้ และเป็นสิ่งเราต้องรักษาชีวิตให้ได้ออกมา เพื่อจะอยู่กับเขาให้ได้นานที่สุด
ใบเตย เล่าว่า ในวันที่ออกมาจากเรือนจำรู้สึกดีใจมากๆ ได้เห็นลูกครั้งแรก เหมือนฝันมากๆ และในวันที่ไปส่งเรียนครั้งแรก ลูกไม่ร้องไห้เลย แต่เป็นเราที่ร้องไห้ รู้สึกเป็นก้าวแรกของเขา และก้าวต่อไปของเขามันคงจะดีมากๆ เขาจะต้องสดใสเหมือนเราและรับมือกับทุกอย่างในสังคมตอนนี้ได้เหมือนเรา
กับ ลุกซ์ น้องชาย ผูกพันและดูแลกันมาตลอด จนกระทั่งลุกซ์เรียนจบปริญญาโท และในวันที่ทั้งคู่มีแฟนก็มีพร้อมกัน ลุกซ์คบกับพี่ภูมิ และใบเตยคบกับดีเจแมน ปีนี้เป็นปีที่ 13 ของทั้งคู่ แล้วเราก็ไม่มีพวกเขาทั้งคู่
ลุกซ์ ได้เล่าต่อว่า ในวันที่ พี่ภูมิ แฟนหนุ่มได้ประสบอุบัติเหตุ และเข้าโรงพยาบาลอีก 18 วัน และในวันที่เข้าโรงพยาบาลไปได้ 4-5 วันแล้ว ใบเตยก็ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตอนนั้นรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต แต่ยังไม่มีเวลาเสียใจ ต้องแยกสติ ตอนเช้าต้องไปหาพี่เตยที่เรือนจำทุกวัน เพื่อไม่ให้เขาเคว้ง และตกบ่ายก็ไปหาพี่ภูมิที่โรงพยาบาล ลูบในแต่ละวันก็จะตื่นเช้ามาจัดการหลาน แล้วค่อยไปหาพี่เตย และไปเยี่ยมพี่ภูมิ กลับมาทำงานไลฟ์ขายของหาเงิน วนลูปเป็นแบบนี้ 7 เดือน
...
และในวันที่พี่ภูมิเสียไป จริงๆ ทำใจไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ และตัวเองรู้สึกเป็นหนักหลังจากที่พี่เตยกลับมาด้วยซ้ำ เพิ่งรู้ว่าตัวเองสูญเสีย และคิดว่าหลังจากที่พี่เตยกลับมา ชีวิตเราจะเหมือนเดิม แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะไม่มีพี่ภูมิแล้ว และในวันที่พี่ภูมิเสียชีวิต ก็ไม่กล้าบอก ใบเตย เพราะเขารักพี่ภูมิมาก เขาอยู่ในนั้นไม่กล้าทำให้เขาใจเสีย
ใบเตย เล่าว่า ในวันที่ลุกซ์ไม่มาเยี่ยม 2 วัน ก็ถามพ่อ แต่เขาไม่กล้าตอบ พอรู้เรื่อง ก็เป็นลมอยู่ในนั้น
ลุกซ์ เล่าว่าในวันที่บวช ได้ไปแจ้งพ่อแม่พี่ภูมิ ซึ่งเขาก็ให้บาตรที่พี่ภูมิเคยใช้มา และเราก็ใช้บาตรใบนี้ เหมือนเรายังอยู่ใกล้กันตลอดเวลา เวลากินข้าวก็เรียกเขามากินด้วยกัน ดีใจที่ได้บวช ด้วยความที่เราเป็นแบบนี้ เราทดแทนบุญคุณพ่อแม่ด้วยอย่างอื่น เราทำเต็มที่มากๆ แต่พอวันหนึ่งเราสูญเสียไป เรารู้สึกว่า บางอย่างเราทำได้เป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากที่พี่ใบเตยออกมา ตอนนี้หายเหนื่อยขึ้นเยอะ เพราะเหมือนมีอีกแรงมาช่วยทำงาน พี่เตยเขาเป็นแสงอาทิตย์ของบ้าน ทำให้ทุกคนกลับมามีความหวังอีกครั้ง เป็นภาพที่เราอยากเห็นมาก เพราะตอนที่เราอยู่เราทำได้ไม่เท่าครึ่งของเขา
...
ใบเตย เผยว่า รู้สึกขอบคุณมาตลอด สิ่งหนึ่งที่ทำให้อยู่ในนั้นได้ ก็คือ น้องเวทมนต์กับลุกซ์ และเราเชื่อมั่น เราไม่ห่วงเลยที่ลุกซ์ดูแลเวทมนต์ เขาเป็นคนเดียวที่จะช่วยทุกอย่างได้ เชื่อว่าน้องดูแลครอบครัวเราและชีวิตเราได้
ในวันที่ ใบเตยกับแมนไม่อยู่ ลุกซ์จะเป็นคนที่เลี้ยงน้องเวทมนต์ ก็จะบอกหลานว่า พ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศ และจะให้เขาดูและจำหน้าพ่อแม่ให้ได้ อย่างทุกวันนี้ก็จะให้เขาดูหน้าพ่อเขา อย่างเช่นละครที่พ่อเคยเล่น ดูรูปในไอจี หรือที่พ่อเคยร้องเพลง แล้วบอกว่า เดี๋ยวป๊ะป๊ากลับมานะ เพราะรู้สึกว่าสิ่งเดียวที่ทำให้พี่แมนได้ ตอนนี้คือการทำให้ลูกไม่ลืมเขา ถามว่าลูกเขาถามหามั้ย เขาไม่ถาม เพราะเราพูดถึงตลอด
เมื่อถามลุกซ์ว่า ตอนนี้มีคนเข้ามาใหม่หรือยัง ซึ่ง ลุกซ์ บอกว่า มีเข้ามา อย่างล่าสุดเพิ่งไปเกาหลีด้วยกันมา และพอกลับมาก็บอกเขาว่า เธอเป็นเพื่อนที่ดีของเรา แล้วรู้สึกว่าความรักของลุกซ์ตอนนี้ยังอยู่ที่พี่ภูมิ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังเก็บความสัมพันธ์นั้นไว้อยู่ ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ใบเตยทิ้งท้ายว่า ชีวิตทุกวันนี้เหมือนเกิดใหม่ในร่างเดิม ทุกคนไม่คิดว่าเราจะดูแลตัวเอง อยู่ในนั้นเราดูแลตัวเองอย่างดีมากๆ ในวันแรกที่ออกมา คิดว่าคงจะไม่มีงานสัก 3 เดือน แต่สุดท้ายมีงานเข้ามาตลอด แฟนๆ ทุกคนมาให้กำลังใจกันเสมอ และพอขึ้นร้องเพลงก็ได้ทิปเยอะมาก คิดว่าน่าจะเป็นความสงสารและความเห็นใจจากทุกคน เพราะปกติใบเตยร้องเพลงก็ไม่เคยได้ทิป แต่พอออกมาได้ทิป ได้เงิน ได้รางวัลน้ำใจ เหมือนเขาสงสารก็เอาของกินมาให้หลังเวที ทุกคนน่ารักมากๆ. (ชมคลิป)
...
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม